"GBC ไทย-กัมพูชา" เห็นพ้องข้อตกลงหยุดยิง 13 ข้อ หวังสถานการณ์คลี่คลาย
7 สิงหาคม 2568 เวลา 13.30 น. ที่ประเทศมาเลเซีย การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee: GBC) ไทย - กัมพูชา สมัยวิสามัญ ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง โดย 2 ฝ่ายเห็นพ้องแนวทางการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง 13 ข้อระหว่างกัน ซึ่งเป็นแนวทางที่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของฝ่ายไทย ร่วมจัดทำกับฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการฯ ฝ่ายกัมพูชา
จากนั้น พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และพล.อ.เตีย เสรย-ฮา รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมกัมพูชา ได้ร่วมลงนามบันทึกผลการประชุม ซึ่งมีรายละเอียดตามที่ทั้งสองฝ่ายหารือ และตกลงกันตลอด 3 วันที่ผ่านมา
ด้วยความหวังให้สถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชาคลี่คลาย นำมาซึ่งสันติภาพ และการอยู่ร่วมกันอย่างผาสุกของประชาชนทั้งสองประเทศ รวมถึงไทยสนับสนุนการใช้กลไกทวิภาคี ระหว่างกันในการพูดคุยอย่างมีประสิทธิภาพ
จากนั้น พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หัวหน้าคณะเจรจา ได้แถลงข่าวภายหลังการประชุมGBC ไทย – กัมพูชา สมัยวิสามัญ ว่า การหารือเป็นไปอย่างฉันท์มิตร นายกฯ มาเลเซีย ยินดีที่เห็นการหยุดยิง และความคืบหน้าการหารือ GBC เป็นก้าวสำคัญ การหยุดยิง นายกฯมาเลเซีย ยืนหยัด หารือกับผู้นำอาเซียนและเห็นตรงกันว่า การแก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา เป็นเรื่องทวิภาคี สอดคล้องแนวทางของไทย โดยมาเลเซีย จะช่วยประสานงาน ให้ 2 ฝ่าย แก้ไขกันเอง โดยมีอาเซียนสนับสนุน
นอกจากนี้ นายกฯ มาเลเซียยังยินดี ที่การประชุม GBC ไทยและกัมพูชา เห็นพ้อง กรณีคณะผู้สังเกตการณ์การชั่วคราว ที่จะนำโดย ผู้ช่วยทูตทหารมาเลเซีย และ ผู้ช่วยทูตทหารอาเซียนเท่านั้น อย่างไรก็ตาม สหรัฐ และ จีนจะไม่เข้าร่วม แต่ยินดีสนับสนุนตามไทย-กัมพูชา ที่ร้องขอ ในการประชุมวันนี้ยังมีสหรัฐและจีนสังเกตการณ์ เป็นระดับเอกอัครราชทูต
พล.อ.ณัฐพล กล่าวอีกว่า การประชุม GBC ติดตามประเด็นที่ ไทย-กัมพูชา ได้หารือกันเมื่อ 28 กรกฎาคม ที่ได้ตกลงกันให้มีการหยุดยิง ตนได้ย้ำว่า นับแต่เที่ยงคืน 28 ก.ค. ฝ่ายไทยเห็นชอบเรื่องหยุดยิงเคร่งครัด อย่างไรก็ดี กัมพูชายังละเมิด ซึ่งไทยใช้ความอดทนอดกลั้นที่สุด และตอบโต้เพื่อป้องกันตัวเองแม้ปัจจุบันชายแดนยังสงบ แต่กัมพูชายังเสริมกำลัง และ มีการใช้อากาศยานไร้คนขับ ในพื้นที่ต่างๆ ซึ่เงป็นการกระทำที่ยั่วยุ และ ทำให้เข้าใจผิด และเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือน ไม่สร้างสรรค์ ไม่สร้างบรรยากาศการฟื้นฟูความไว้วางใจ
จากการประชุมครั้งนี้ ฝ่ายกัมพูชาระดับนโยบาย ได้แสดงให้เห็นความจริงใจในการหยุดยิงที่ตกลงกันไว้ การกระทำที่ละเมิด อาจเป็นการดำเนินการโดยพลการของระดับปฏิบัติการ ดังนั้นเจตนารมณ์ในการประชุมคือ การหารืออย่างตรงไปตรงมา สุจริต 2 ฝ่าย ให้หยุดยิงยั่งยืน โดยมีวัตถุประสงค์ พี่น้องประชาชน 2 ฝ่าย ได้ใช้ชีวิตปกติ
ทั้งนี้ ขอสรุปผลกระประชุม สิ่งที่ 2 ฝ่ายเห็นชอบร่วมกัน ได้แก่
1.ทั้ง 2 ฝ่ายยึดมั่นในการหยุดยิงอย่างเคร่งครัด ในการหยุดยิงนั้น ต้องครอบคลุมอาวุธทุกประเภท 2 ฝ่าย คงกำลังไว้ที่ตั้งเดิม นับแต่วันที่หยุดยิง โดยไม่มีการเสริมกำลังเข้าไปเพิ่มเติม
2.ให้มีคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว ประกอบด้วยผู้ช่วยทูตทหารประเทศอาเซียนประจำประเทศไทยและกัมพูชา นำโดยมาเลเซียเข้าไปสังเกตการณ์พื้นที่สม่ำเสมอ โดยไม่มีการข้ามแดน ประสานงานใกล้ชิดกับ RBC และ GBC ในแต่ละประเทศ ให้มั่นใจว่าไม่ละเมิดหยุดยิงโดยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
3. ทั้ง 2 ฝ่าย หลีกเลี่ยงการยั่วยุทั้งทางทหาร และข่าวเท็จ เพื่อเสริมสร้างบรรยากาศเอื้ออำนวยการพูดคุย หาทาออกโดยสันติ
4. ทั้ง 2 ฝ่ายจะปฏิบัติตามข้อตกลงระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะหน้า คือ เร่งเก็บและส่งร่างผู้เสียชีวิตกลับอย่างมีเกียรติและศักดิ์ศรี การส่งกลับเชลยศึก ส่งทันทีที่มีการยุติใช้กำลังโดยสมบูรณ์ ตาม อนุสัญญาเจนีวาที่ 3 ไทยยืนยันว่าดูแลตามมนุษยธรรม
5.รักษาช่องทางการพูดคุย และ กลไกทวิภาคีที่มี แก้ปัญหาไม่ให้ลุกลาม บานปลาย จะประชุม RBC ใน 2 สัปดาห์ และ ประชุม GBC อีกครั้งใน 1 เดือนข้างหน้า ติดตามผลการประชุม
นอกจากนี้ ยังหยิบยก 2 ประเด็นสำคัญ ที่กัมพูชายังไม่ได้ตอบรับ ให้ยกไปในการประชุม GBC ครั้งหน้า ได้แก่
1.ความร่วมมือ เก็บกู้ทุ่นระเบิด ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญนำไปสู่ความตึงเครียด ไทยพร้อมให้ความร่วมมือในการเก็บกู้พื้นที่ปะทะ
2.การปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะ ออนไลน์สแกม ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนในภูมิภาค
พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ย้ำว่า สิ่งที่ 2 ฝ่ายได้หารือ จะเกิดผลรูปธรรม ต้องอาศัยความร่วมมือ จริงใจ 2 ฝ่าย ไทยยึดมั่น สุจริตใจ จริงใจ บนพื้นฐานเป็นเพื่อนบ้านที่ดี หวังกัมพูชาปฏิบัติตาม
ท้ายที่สุด ไทยและกัมพูชา เป็นเพื่อนบ้าน ย้ายหนีกันไม่ได้ หากแก้ปัญหาได้รวดเร็วก็จะนำสันติภาพรวดเร็ว ประชาชนได้กลับมาใช้ชีวิตสงบสุข