เพื่อไทยมั่นใจ ‘อิ๊งค์’ กำชัยคดีคลิปเสียง ไม่เชื่อเก้าอี้นายกฯหลุดถึง ‘บิ๊กตู่-อนุทิน’
แกนนำเพื่อไทย เชื่อศุกร์นี้ศาลรัฐธรรมนูญมีข่าวดี มั่นใจ “แพทองธาร” บริสุทธิ์ใจ ไม่มีเจตนาทำร้ายชาติบ้านเมือง ส่วนพรรคร่วมยังเหนียวแน่น ขาเก้าอี้นายกฯไม่สั่น แม้กระแสโยง “ประยุทธ์-อนุทิน” ขึ้นแทนก็ไม่เกิดขึ้น พร้อมระบุคำพิพากษายกฟ้องทักษิณคดี 112 คือขวัญกำลังใจสำคัญของเพื่อไทย
23 สิงหาคม 2568 - นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีศาลอาญายกฟ้องนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในคดีมาตรา 112 ขณะเดียวกัน ในวันที่ 29 สิงหาคมนี้ ศาลรัฐธรรมนูญจะนัดลงมติชี้ขาดคดีคลิปเสียงหลุดของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยยืนยันว่ารัฐบาลมั่นใจ นายกฯสามารถชี้แจงได้ และจะมีข่าวดีในวันดังกล่าว การยกฟ้องนายทักษิณถือเป็นการทำให้ทุกข้อกล่าวหาที่ผ่านมาได้รับความกระจ่าง ศาลวินิจฉัยแล้วก็ถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ และกลายเป็นขวัญกำลังใจสำคัญแก่สมาชิกพรรค เพราะนายทักษิณคือผู้นำทางจิตวิญญาณของเพื่อไทย และเคยเป็นหัวหน้าพรรคไทยรักไทยในอดีต
ประเด็นคดีที่ยังเหลืออยู่อีก 2 คดี ได้แก่ คดีคลิปเสียงของ น.ส.แพทองธาร และคดีชั้น 14 ของนายทักษิณ ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าอาจส่งผลกระทบหนัก นายประเสริฐย้ำว่าพรรคยังมั่นใจจะได้รับข่าวดีเช่นกัน และเชื่อว่าจะได้รับความเป็นธรรม สามารถพิสูจน์ตัวเองได้แน่นอน
สำหรับความมั่นใจนั้น มาจากการที่ น.ส.แพทองธาร ไปชี้แจงต่อศาลด้วยความบริสุทธิ์ใจ หากพิจารณาโดยตรง จะเห็นว่าเธอไม่มีเจตนาทำให้ประเทศเสียหาย ตรงกันข้าม นายกฯได้ปกป้องผลประโยชน์ของชาติอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงที่ชัดเจน
ในกรณีที่ผลไม่เป็นไปตามคาด นายประเสริฐระบุว่ายังไม่มีแผนสำรอง ส่วนความเป็นไปได้ในการยุบสภานั้น ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น กรณีงบประมาณไม่ผ่านการพิจารณาวาระ 2-3 แต่ขณะนี้ไม่พบปัจจัยใดที่จะนำไปสู่การยุบสภา
กระแสข่าวที่ระบุว่า น.ส.แพทองธารอาจลาออกเพื่อยุติคดี นายประเสริฐยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะการที่นายกฯเดินทางไปชี้แจงต่อศาลก็คือการพิสูจน์ตัวเองแล้วในอีกทางหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวถามถึงความพร้อมของนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกฯของเพื่อไทย หาก น.ส.แพทองธารต้องพ้นตำแหน่ง นายประเสริฐตอบเพียงว่า “ขอให้ถึงจุดนั้นก่อน” พร้อมย้ำว่าขณะนี้มั่นใจว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว
ส่วนความเป็นไปได้ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี หรือ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย จะขึ้นมาเป็นนายกฯแทน และอาจทำให้พรรคร่วมรัฐบาลเปลี่ยนข้าง นายประเสริฐเห็นว่าไม่น่าเป็นไปได้ เพราะรัฐธรรมนูญกำหนดขั้นตอนชัดเจน หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองก็ยังต้องเลือกจากบัญชีรายชื่อ ซึ่งพรรคเพื่อไทยยังมีตัวเลือกอยู่ รวมถึงพรรคอื่นด้วย แต่ยืนยันว่าพรรคร่วมยังคงสนับสนุนแน่นแฟ้น
ประเด็นที่สภาล่มบ่อยจนถูกเรียกว่า “สภาง่อย” นายประเสริฐชี้แจงว่า ส.ส.หลายคนต้องปฏิบัติงานในคณะกรรมาธิการ ทำให้องค์ประชุมบางครั้งไม่ครบ แต่ไม่ได้หมายความว่าหนีงาน ทุกคนยังทำงานเต็มที่ และพรรคร่วมรัฐบาลยังเหนียวแน่น ซึ่งสะท้อนจากการโหวตงบประมาณปี 2569 ที่ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง
เมื่อถูกถามถึงการพึ่งเสียงของพรรคประชาชนในการโหวตบางเรื่อง นายประเสริฐ ยืนยันว่า กฎหมายหรือญัตติที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศ ทุกฝ่ายพร้อมโหวตสนับสนุนร่วมกัน แต่บางประเด็นที่มีความเห็นต่างก็เป็นเรื่องปกติในทางการเมือง.