สมาคมนักวิชาการชั้นนำของโลกมีมติยืนยันว่า อิสราเอลกำลังก่อเหตุ ‘ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์’ ในฉนวนกาซา
สมาคมนักวิชาการด้านการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชั้นนำของโลก ประกาศว่าอิสราเอลกำลังก่อเหตุ ‘ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์’ ในฉนวนกาซา
นับเป็นความเห็นครั้งสำคัญ จากผู้เชี่ยวชาญชั้นนำในสาขากฎหมายระหว่างประเทศ หลังสมาคมนักวิชาการด้านการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์นานาชาติ (The International Association of Genocide Scholars หรือ IAGS) ได้ผ่านมติเมื่อวันจันทร์ (1 กันยายน) โดยระบุว่า การกระทำของอิสราเอลในฉนวนกาซานั้น เข้าข่ายนิยามทางกฎหมายของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ที่กำหนดไว้ในอนุสัญญาแห่งสหประชาชาติว่าด้วยการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ (The Genocide Convention 1948)
อนุสัญญาดังกล่าวกำหนดให้ การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์คือ “การกระทำที่มีตั้งใจที่จะทำลาย ทั้งหมดหรือบางส่วน ต่อกลุ่มศาสนา เผ่าพันธุ์ ชาติพันธุ์ และสัญชาติ”
ทั้งนี้ IAGS ก่อตั้งขึ้นในปี 1994 ถือเป็นหนึ่งในสมาคมวิชาชีพนักวิชาการด้านการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งมีสมาชิก 500 คน โดยสมาชิกถึง 86% จากผู้เข้าร่วม 28% ของสมาชิกทั้งหมด ได้ลงคะแนนเห็นชอบประกาศให้การกระทำต่างๆ ของอิสราเอลตลอดช่วงสงคราม 22 เดือนที่ผ่านมา ถือเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ อาชญากรรมสงคราม และอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ
พร้อมกันนี้ IAGS ยังเรียกร้องให้อิสราเอลยุติ ‘การโจมตีพลเรือนโดยเจตนา’ ซึ่งรวมถึงการโจมตีเด็ก สร้างความอดอยาก ขัดขวางความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม น้ำ เชื้อเพลิง และสิ่งจำเป็นอื่นๆ จนถึงก่อความรุนแรงทางเพศ ละเมิดสิทธิด้านการเจริญพันธุ์ และบังคับให้ผู้คนพลัดถิ่น
“นี่เป็นคำแถลงที่ชัดเจน จากผู้เชี่ยวชาญในสาขาการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในฉนวนกาซาคือการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” เมลานี โอไบรอัน (Melanie O’Brien) ประธาน IAGS และอาจารย์ด้านกฎหมายระหว่างประเทศ แห่งมหาวิทยาลัยเวสเทิร์นออสเตรเลีย กล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์
ด้านอิสมาอิล อัล-ทาวับตา (Ismail al-Thawabta) จากฝ่ายโฆษกของรัฐบาลกาซา กล่าวว่า “จุดยืนทางวิชาการอันทรงเกียรติครั้งนี้ เป็นการตอกย้ำหลักฐานและข้อเท็จจริง ที่ได้ถูกนำเสนอต่อศาลระหว่างประเทศ”
เขาเสริมว่ามติครั้งนี้ “สร้างพันธกรณีทั้งทางกฎหมายและศีลธรรม ต่อประชาคมระหว่างประเทศให้ดำเนินการเร่งด่วน เพื่อยุติอาชญากรรม ปกป้องพลเรือน และนำผู้นำของฝ่ายยึดครองมารับผิดชอบ”
อ้างอิงจาก