โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

‘พท.’ ขอหลักประกัน ‘ปชน.’ หากหนุน ภท. ประเทศไม่เสียหาย ฝากคิดใครคุม สว.

กรุงเทพธุรกิจ

อัพเดต 01 ก.ย เวลา 00.20 น. • เผยแพร่ 2 วันที่แล้ว

ที่กระทรวงมหาดไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย(พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการจัดตั้ง ว่า ปัจจุบันยังอยู่ในจุดที่พรรคเพื่อไทยได้รับมอบหมายจากพรรคร่วมรัฐบาลในการดำเนินการจัดตั้งรัฐบาล เมื่อวานนี้ได้พบกับพรรคประชาชน จริงๆตนไม่ต้องไป แต่เมื่อมีการถามหาจึงลาประชุม ก.ตร. เพราะคิดว่าอนาคตประเทศมีความสำคัญ โดยในการพูดคุยตนเสนอว่าพรรคร่วมฯ ทุกพรรครับข้อเสนอทั้งหมดของพรรคประชาชน เพราะวันนี้ประเทศวิกฤติ ถึงเวลาต้องรีเซ็ตการเมืองใหม่ ซึ่งข้อเสนอของพรรคประชาชนเป็นเรื่องที่ดีควรจะทำ และสิ่งที่พรรคประชาชนได้ถามกลับมา ประเด็นแรกคือการใช้รัฐธรรมนูญ ปี 2540 ไม่มีเจตนาอะไร หัวใจสำคัญคือการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ผ่านกลไก สสร. เป็นสิ่งที่พรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลเห็นด้วย แต่ที่ผ่านมาพรรคภูมิใจไทยไม่ได้สนับสนุน หากพรรคประชาชนติดใจเรื่องใช้รัฐธรรมนูญ ปี40 ก็สามารถถอนออกได้ ก็ไม่มีปัญหาอะไร เรายอมรับอยู่แล้วว่าจะร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ส่วนเรื่อง MOU43 , MOU44 เห็นว่าเรื่องนี้เป็นประเด็น ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลนี้หรือรัฐบาลใหม่ ยืนยันไม่มีอะไรติดใจ หากจะดำเนินการในเรื่องนี้ และไม่มีประโยชน์อะไรแอบแฝง จึงเห็นควรแนบไปกับประชามติ ถ้าประชาชนเห็นอย่างไรรัฐบาลใหม่จะได้ดำเนินการตามนั้น วิกฤติเรื่องนี้จะได้จบลง

นายภูมิธรรม กล่าวว่า เรื่องการเพิกถอนที่ดินเขากระโดงและการดำเนิน คดีฮั้ว สว. เป็นเรื่องกระบวนการยุติธรรม และไม่ว่าจะเป็นคดีจากพรรคใด ทั้งที่ดินอัลไพน์ ตนคิดว่าทำได้ทั้งนั้น ทั้งหมดนี้ตนไม่ได้ตอบพรรคประชาชน แต่ตนตอบว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงที่สุด

“แกนนำพรรคประชาชนหลายคนพูดว่าหัวใจสำคัญของการตัดสินใจเรื่องนี้อยู่ที่การจะดูว่าใครจะอยู่ในความควบคุมได้มากที่สุด ผมมองว่าไม่น่าจะเป็นการควบคุม อยู่ที่ว่าสิ่งที่เขาเสนอสามารถเป็นไปตามข้อตกลงได้หรือไม่ ดูเหมือนว่าจะสนใจพรรคภูมิใจไทย แต่ผมคิดว่าเรื่องการควบคุมว่ามีเสียงน้อยเสียงมาก หรือจะไปจับมือกับเขา การพิจารณาไม่ใช่เรื่องของการควบคุมได้ เพราะตอนนี้หากพูดกันตามความจริงก็ไม่มีใครสามารถควบคุมใครได้ ถ้าคิดว่าไม่ซื่อตรงแล้วจะตัดสินใจก็ตัดสินใจได้ แต่สิ่งสำคัญคือการที่จะปล่อยให้พรรคภูมิใจไทยมาเป็นหัวหน้ารัฐบาลในเวลาอีก 4 เดือนก่อนจะมีการเลือกตั้ง ขอถามว่าคดีเขากระโดง จะกลับไปเป็นแบบเดิมหรือไม่ในการตีความของพรรคภูมิใจไทย เพราะขณะนี้อยู่ในกระบวนการที่จะนำที่ของหลวงกลับมาในช่วงสิ้นเดือน ก.ย.นี้” นายภูมิธรรม กล่าว

นายภูมิธรรม กล่าวว่า คดีฮั้ว สว. ที่กำลังเข้าสู่การเปิดประเด็นจับกุม ขณะนี้ติดอยู่ที่ กกต. ตนเชื่อว่า 2 เรื่องนี้เป็นหัวใจสำคัญ แต่ตนได้บอกไปว่าหากติดใจเรื่องนี้ก็ไม่เป็นไร แต่ขออย่าให้มีกระบวนการแทรกแซง และไม่ว่าจะตัดสินใจอย่างไรตนก็เคารพการตัดสินใจของพรรคประชาชน แต่เรื่องการแก้รัฐธรรมนูญที่เป็นหัวใจสำคัญ ใครจะทำเต็มที่ได้มากกว่ากัน

พรรคเพื่อไทยยืนยันในเรื่องนี้มาตลอด สิ่งที่เคยเป็นปัญหาในเรื่องบางมาตราที่มีความแตกต่างกัน แต่ในเรื่องการยกมือโหวตตรงกัน คือให้มีการตั้ง สสร. ถามว่าใครคือผู้มีบทบาทในการควบคุม สว. ฝากให้ไปคิด

“หากให้พรรคภูมิใจไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล จะมีหลักประกันอะไรที่พรรคประชาชนสามารถทำให้เกิดขึ้น ในเมื่อตัวเองก็ไม่ได้เข้าไปเป็นรัฐมนตรี เพราะพรรคภูมิใจไทยสามารถทำได้ง่าย จะรอให้อภิปรายไม่ไว้วางใจ ผมบอกว่าไม่ทัน เพราะอำนาจในการยุบสภาฯ รัฐบาลพรรคภูมิใจไทยเป็นผู้มีอำนาจในการยื่นเรื่อง และสิ่งสำคัญขออย่าเบี่ยงประเด็นว่าใครจะได้มากได้น้อย หรือพรรคภูมิใจไทยมีน้อยกว่า 100 เสียง สามารถควบคุมได้โดยการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ” นายภูมิธรรม กล่าว

นายภูมิธรรม กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยยอมรับว่าเคยบาดหมางกัน แต่เรายืนยันในข้อตกลงมาตลอด การที่บอกว่าพรรคเพื่อไทยบิดพริ้วหรือตระบัติสัตย์ 2 ครั้ง ที่มีการเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดต นายกรัฐมนตรี สมัยพรรคก้าวไกล ล้วนเป็นคนของพรรคเพื่อไทยที่เป็นผู้เสนอชื่อทั้ง 2 ครั้ง และทุกเสียงของพรรคเพื่อไทยยกมือให้หมด แต่สิ่งที่บอกคือ สว. จะโหวตให้ แต่สุดท้ายไม่เลือก และประเด็นสุดท้ายขอเวลา 10 เดือน นั้น รอไม่ได้ และวันนี้อยากจะร่วมมือกัน ลืมเรื่องเก่าๆ สิ่งที่เกิดขึ้นขณะนี้ทุกคนยอมรับว่าปล่อยประเทศให้พรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชนที่มี 360 เสียงเป็นฝ่ายค้านไม่ได้ ในขณะที่รัฐบาลมีเพียง 143 เสียง ไม่มีประเทศไหนมาเจรจาด้วยเพราะไม่มีความเชื่อมั่นเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้อยู่ในอำนาจของพรรคประชาชน ที่จะเป็นผู้ตัดสินใจ

เมื่อถามว่า หากพรรคประชาชนไม่ร่วม รัฐบาล พรรคเพื่อไทยพร้อมที่จะเป็นฝ่ายค้านหรือตัดสินใจยุบสภาฯ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังไม่ต้องตัดสินใจว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือยุบสภาฯ เราเสนอประเด็นให้พรรคประชาชนตัดสินใจ ถ้าเขาเลือกพรรคภูมิใจไทยก็เป็นสิทธิ์ที่ทำได้ พรรคเพื่อไทยจะทำอย่างไรก็มีกระบวนการตามรัฐธรรมนูญอยู่แล้วที่จะต้องหาทางออกในหลายๆ ทางที่เป็นไปได้ อยู่ที่ดุลยพินิจ ขอให้สถานการณ์ชัด ตอบให้ชัดว่าจะสนับสนุนพรรคภูมิใจไทยหรือพรรคเพื่อไทย และมีข้อกังวลอะไรบอกมาให้ชัด และข้อกังวลนั้นจะหาทางป้องกันอย่างไร

เมื่อถามว่า กระบวนการของพรรคเพื่อไทย ปลายทางจะไม่เป็นฝ่ายค้านใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังไม่มีการตัดสินใจ มีแต่เพียงว่าอยากจะร่วมการตั้งรัฐบาล โดยให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ แล้วจะดำเนินการตามนั้น บอกแล้วว่านโยบายมีเยอะ รวมถึงวาระแห่งชาติ คือต้องเปลี่ยนแปลงสภาพการเมืองที่ผิดเพี้ยนแบบนี้ คือไปแก้รัฐธรรมนูญ

“อยากให้ได้นายกฯ ใหม่เร็วที่สุด เพราะหากปล่อยสภาพแบบนี้ไว้ก็เป็นรัฐบาลเป็ดง่อย ทำอะไรไม่ได้ ตอนนี้ทั้งหมดอยู่ที่พรรคประชาชนตัดสินใจ อยากให้รอบคอบ เพราะการตัดสินใจครั้งนี้เป็นครั้งสำคัญ พรรคประชาชนยังไม่เคยเลือกนายกฯ จากนอกพรรค ครั้งนี้เป็นครั้งแรก ถ้าจะประเดิมด้วยพรรคภูมิใจไทย ต้องมีหลักประกันว่าประเทศจะไม่เสียหาย” นายภูมิธรรม กล่าว

เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยจะสร้างหลักประกัน หรือความมั่นใจอะไรให้กับพรรคประชาชน นายภูมิธรรม กล่าวว่า เป็นหน้าที่ที่พรรคประชาชนต้องถามตน ก็รอให้สิ่งนั้นเกิด

เมื่อถามว่า วันนี้พรรคประชาชนจะมีคำตอบที่ชัดเจนมาให้กับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ทราบ เพราะเขาบอกว่ากลไกโครงสร้างเยอะ ต้องถามจากส่วนต่างๆ ตนก็บอกว่าไม่เป็นไร แต่วันนี้ที่มีประชุมและจะมีคำตอบหรือไม่ อาจจะไม่แน่ใจจะมีหรือไม่มีก็ได้ไม่เป็นไร ขอให้พรรคประชาชนใช้เวลาเต็มที่ แต่เมื่อเสร็จแล้วให้แจ้งเราด้วย เพื่อให้เราดำเนินการขั้นต่อไป

เมื่อถามว่า นอกจากพรรคประชาชนแล้ว พรรคร่วมรัฐบาลที่ยังอยู่ด้วยกันยังเหมือนเดิมหรือไม่ ประชาธิปัตย์ ก็ไม่ชัดว่าจะไปต่อและการที่มาร่วมแถลงข่าว อาจเป็นเพียงมารยาททางการเมืองเท่านั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า เขาไม่ได้พูดคำนี้ เขาพูดเพียงว่าขณะนี้เรายังร่วมกันอยู่ ทั้งหมดจะตัดสินใจอย่างไรขึ้นกับสถานการณ์ ซึ่งเราเคารพอยู่แล้วทุกพรรคต้องพิจารณาตามสถานการณ์การเมือง

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...