ดาวโจนส์ปิดวันศุกร์ลบ 92.02 จุด หลัง Dell - Nvidia ร่วงฉุดตลาด, จับตาเงินเฟ้อจากมาตรการภาษีนำเข้า
ดาวโจนส์ปิดวันศุกร์ลบ 92.02 จุด หลัง Dell - Nvidia ร่วงฉุดตลาด, จับตาเงินเฟ้อจากมาตรการภาษีนำเข้า
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -1 ก.ย. 68 7:30: น.
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดแดนลบในวันศุกร์ (29 ส.ค.) โดยดัชนี S&P 500 ปรับตัวลดลงจากระดับปิดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังหุ้น Dell และ Nvidia ร่วงฉุดตลาด รวมไปถึงหุ้นที่เกี่ยวข้องกับปัญญาประดิษฐ์ (AI) ขณะที่นักลงทุนประเมินข้อมูลเงินเฟ้อซึ่งสะท้อนว่า มาตรการภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ เริ่มส่งผลต่อราคาสินค้า
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดลดลง 92.02 จุด หรือ 0.20% ปิดที่ 45,544.88 จุด ดัชนี S&P500 ปิดลดลง 41.60 จุด หรือ 0.64% ปิดที่ 6,460.26 จุด และดัชนีแนสแดค ปิดลดลง 249.61 จุด หรือ 1.15% ปิดที่ 21,455.55 จุด
สำหรับเดือนส.ค. ดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 3.2% ดัชนี S&P 500 ปรับขึ้น 1.9% และ ดัชนีแนสแดค เพิ่มขึ้น 1.6%
หุ้น 6 กลุ่มจากทั้งหมด 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P 500 พบว่าปรับตัวในแดนบวก นำโดยหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ที่เพิ่มขึ้น 0.73% และสินค้าอุปโภคบริโภค ที่เพิ่มขึ้น 0.64% ขณะที่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีลดลง 1.63% และดัชนี Russell 2000 ซึ่งเป็นหุ้นขนาดเล็กปรับตัวลดลง 0.5% แต่ยังคงบวก 7% ในเดือนส.ค.ที่ผ่านมา
หุ้น Dell ร่วงเกือบ 9% นับเป็นหนึ่งในหุ้นที่ปรับตัวลดลงมากที่สุดในดัชนี S&P 500 หลังต้นทุนการผลิตเซิร์ฟเวอร์ที่ออกแบบเพื่อรองรับ AI เพิ่มสูงขึ้น ขณะที่การแข่งขันยังคงทวีความรุนแรง แม้บริษัทคาดการณ์ว่า ความต้องการโครงสร้างพื้นฐาน AI จะยังแข็งแกร่งก็ตาม ด้านหุ้น Nvidia ปรับตัวลดลง 3.4% ติดต่อกันเป็นวันที่ 3 หลังรายงานผลประกอบการไตรมาสล่าสุด ไม่สามารถตอบสนองต่อความคาดหวังที่สูงของนักลงทุน แม้บริษัทจะยืนยันว่าการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน AI ยังคงแข็งแกร่งก็ตาม โดยนักวิเคราะห์ชี้ว่า การปรับฐานครั้งนี้ สะท้อนถึงความกังวลเรื่องการลงทุนใน AI ที่มากเกินไปและโอกาสการทำกำไรที่ยังไม่ชัดเจน
ด้านข้อมูลเศรษฐกิจ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ รายงานว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภคในเดือนก.ค. ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 4 เดือน ขณะที่เงินเฟ้อภาคบริการปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน แต่นักเศรษฐศาสตร์ยังเชื่อมั่นว่า สัญญาณการบริโภคในประเทศที่แข็งแกร่งจะไม่ขัดขวางการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในเดือนก.ย. ท่ามกลางสัญญาณที่อ่อนแอในตลาดแรงงาน แม้จะมีแรงกดดันราคาจากภาษีนำเข้าก็ตาม ซึ่งนักลงทุนคาดว่าเฟดจะปรับลดดอกเบี้ย 0.25%
นอกจากนี้ มาตรการยกเว้นภาษีนำเข้าพัสดุมูลค่าต่ำกว่า 800 ดอลลาร์สหรัฐที่สิ้นสุดลงในวันศุกร์ที่ผ่านมา ยังทำให้ต้นทุนภาคธุรกิจและผู้บริโภคเพิ่มสูงขึ้น
ขณะที่ความเคลื่อนไหวของหุ้นรายตัวที่โดดเด่น พบว่าหุ้น Alibaba ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ พุ่ง 13% หลังรายงานผลประกอบการธุรกิจคลาวด์เติบโตเกินคาดจากความต้องการด้าน AI และมีรายงานว่าบริษัทได้พัฒนาชิป AI รุ่นใหม่ ด้านหุ้น Marvell ปรับตัวร่วงลงเกือบ 19% หลังคาดการณ์รายได้ต่ำกว่าที่ตลาดคาด ขณะที่หุ้น Caterpillar ลดลง 3.65% หลังประเมินต้นทุนที่เกี่ยวกับภาษีจะสูงขึ้นในปี 2025
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะปิดทำการในวันจันทร์ (1 ก.ย.) เนื่องในวันแรงงาน
ที่มา Reuters
รายงาน โดย สิริพงศ์ สิริชุมศรี เรียบเรียง โดย Supak Hopuengju
อีเมล์. supak@efinancethai.com
ดูข่าวต้นฉบับ