ตลาดหุ้นเอเชีย ปิดผสม นิกเกอิ-เกาหลีใต้ร่วง กังวลการแข่งขัน AI ส่วนจีน-ฮ่องกงบวกจาก PMI แข็งแกร่ง
ตลาดหุ้นเอเชีย ปิดการซื้อขายวันจันทร์ (1 ก.ย.) แบบผสมผสาน โดยนิกเกอิและ KOSPI ถูกกดดันจากแรงขายหุ้นเทคโนโลยีและความกังวลการแข่งขันในอุตสาหกรรม AI ขณะที่ตลาดจีนและฮ่องกงได้แรงหนุนจากดัชนีภาคการผลิต (PMI) เดือนส.ค. ที่ขยายตัวเกินคาด
ตลาดหุ้นโตเกียว ดัชนีนิกเกอิ225 ปิดที่ 42,188.79 จุด ลดลง 529.68 จุด หรือ -1.24%
ตลาดหุ้นแตะระดับปิดต่ำสุดในรอบเกือบ 3 สัปดาห์ หลังหุ้นกลุ่มชิปอย่าง Advantest และ Tokyo Electron ร่วงหนักตามทิศทางดัชนีเซมิคอนดักเตอร์สหรัฐฯ รวมถึงแรงกดดันจากข่าวที่ Alibaba ของจีนพัฒนาชิป AI แข่งกับ Nvidia ซึ่งสร้างความกังวลต่อการแข่งขันในอุตสาหกรรมนี้ ขณะเดียวกัน ราคาทองคำในญี่ปุ่นพุ่งทำสถิติสูงสุดทะลุ 18,000 เยนต่อกรัม สะท้อนแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์
ตลาดหุ้นจีน ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดที่ 3,875.53 จุด เพิ่มขึ้น 17.60 จุด หรือ +0.46%
โดยได้แรงหนุนจากดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต (RatingDog China PMI) เดือนส.ค.ที่แตะระดับ 50.5 สูงสุดในรอบ 5 เดือนและสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ สะท้อนภาคการผลิตจีนกลับมาขยายตัว แม้ข้อมูลทางการของภาครัฐยังคงอยู่ในโซนหดตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 แต่บรรยากาศตลาดปรับตัวเชิงบวกมากขึ้นจากความคาดหวังว่ารัฐบาลจีนจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม
ตลาดหุ้นฮ่องกง ดัชนีฮั่งเส็งปิดพุ่ง 539.80 จุด หรือ +2.15% แตะระดับ 25,617.42 จุด
ขานรับข้อมูลภาคการผลิตจีนที่ฟื้นตัว ซึ่งช่วยกระตุ้นแรงซื้อหุ้นเทคโนโลยีและเฮลท์แคร์ โดย Alibaba ดีดตัวแรงกว่า 18% ตามด้วย Innovent Biologics, Wuxi Biologics และ Sino Biopharma ที่พุ่งขึ้นอย่างโดดเด่น นักลงทุนมองว่าเศรษฐกิจจีนที่ส่งสัญญาณฟื้นเป็นแรงหนุนสำคัญให้ตลาดฮ่องกงมีโอกาสฟื้นตัวต่อเนื่อง
ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ดัชนี KOSPI ปิดที่ 3,142.93 จุด ลดลง 43.08 จุด หรือ -1.35%
โดยถูกกดดันจากแรงขายหุ้นเทคโนโลยีเช่น Samsung Electronics ที่ร่วงกว่า 3% และ SK hynix ที่ร่วงเกือบ 5% สะท้อนความกังวลต่อแนวโน้มอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และการแข่งขันด้าน AI ที่รุนแรงขึ้น ส่งผลให้นักลงทุนปรับลดความเสี่ยงในสินทรัพย์กลุ่มเทคโนโลยี
ที่มา: InfoQuest