โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

MGC มั่นใจรายได้ปี 68 โต 10% รับดีมานด์ EV พุ่ง

StockRadars

อัพเดต 2 วันที่แล้ว • เผยแพร่ 2 วันที่แล้ว

MGC เผยผลประกอบการครึ่งปีแรก 2568 กำไรสุทธิเติบโต 167% YoY พร้อมเดินหน้ากลยุทธ์ครึ่งปีหลังต่อยอดทุกกลุ่มธุรกิจ ทั้งค้าปลีกยานยนต์ บริการหลังการขาย รถเช่า และบริการทางการเงิน รับเมกะเทรนด์รถยนต์ไฟฟ้าที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยคาดปีนี้จะมี EV จดทะเบียนใหม่เพิ่ม 100,000 คัน ขณะที่บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 2568 เติบโต 10%
ดร.สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) หรือ MGC-ASIA เปิดเผยในงาน Opportunity Day ร่วมนำเสนอข้อมูล ภายในงานบริษัทจดทะเบียนพบนักลงทุน (Opportunity Day) ตอกย้ำความสำเร็จ หลังจากประกาศผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกปี 2568 ที่มีกำไรสุทธิเท่ากับ 109 ล้านบาท เติบโต 167% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา (YoY) พร้อมเปิดเผยถึงภาพรวมของอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า ในครึ่งปีหลัง 2568 ว่า บริษัทฯ ยังได้รับปัจจัยหนุนจากการเติบโตของรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งคาดว่าในปีนี้จะมีจำนวนยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนใหม่ เพิ่มขึ้น 100,000 คัน พร้อมทั้งได้ตั้งเป้าการขับเคลื่อนกลยุทธ์ ในกลุ่มธุรกิจเพื่อให้สอดรับกับทิศทางธุรกิจในครึ่งปีหลัง
สัญญาณ EV บูมต่อเนื่อง ยอดจอง XPENG พุ่งแรง เตรียมดัน Backlog โตเพิ่มสิ้นปี
สำหรับกลุ่มธุรกิจค้าปลีกยานยนต์ (Mobility Retail) มองว่า ภาพรวมของรถยนต์ EV มีแนวโน้มเติบโตแบบก้าวกระโดดตามเมกะเทรนด์รถยนต์ไฟฟ้าซึ่งจะเห็นได้จากยอดจองรถ New XPENG G6 SUV ไฟฟ้าอัจฉริยะ และ XPENG X9 รถตู้ไฟฟ้าทรงสปอร์ตอัจฉริยะ ที่ขึ้นแท่นเป็นอันดับ 1 รถตู้ไฟฟ้าพรีเมียม ภายในงาน Big Motor Sale 2025 ได้รับกระแสตอบรับที่ดีเกินคาดทำให้มียอดจองรถยนต์รุ่นดังกล่าวเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และคาดว่ายอดจองจะเพิ่มขึ้นจากการกระตุ้นยอดขายส่งท้ายปี ที่เตรียมจัดขึ้นภายใต้งาน “MGC-ASIA Mobility Expo ” ที่สยามพารากอน ในช่วงกลางเดือนตุลาคมนี้ ทำให้ บริษัทฯ คาดว่าภายในปีนี้ จะมียอด Backlog เพิ่มสูงขึ้น
ในส่วนของกลุ่มธุรกิจให้บริการหลังการขาย (Aftersales Service) บริษัทฯ เตรียมขยายสาขา LAUNCH BODY & PAINT WORKSHOP อีก 2 สาขา ได้แก่ Millennium Auto สาขาพระราม 3 และ Millennium Auto สาขาสุราษฎร์ธานี เพื่อสอดรับกับจำนวนประชากรรถที่มีความต้องการเข้าใช้บริการมากขึ้น ทั้งจากกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ๆ ซึ่งถือเป็นการตอกย้ำถึงศักยภาพในการให้บริการด้านการจัดการงานบริการซ่อมอย่างครอบคลุมตามมาตรฐานสากล ที่สำคัญธุรกิจดังกล่าวจะเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้อย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ (Recurring Income) ให้กับบริษัทฯในอนาคต
ด้านกลุ่มธุรกิจให้บริการรถเช่าและพนักงานขับ ทั้งระยะสั้น ระยะยาว (Car Rental and Driver Services) บริษัทฯ ได้วางแผนออกโปรแกรมในรถเช่าประเทศไทย (SIXT) ผู้ให้บริการรถเช่าระยะสั้น สำหรับบุคคลทั่วไป เพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป และสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ กับรถรุ่นใหม่ที่ออกมา
นอกจากนี้ ในส่วนของกลุ่มธุรกิจอื่นๆ (Other Services) เช่น ธุรกิจบริการทางการเงินอย่างครบวงจร บริษัท อัลฟา เอกซ์ จำกัด (Alpha X) มุ่งเน้นการเติบโตจากการให้สินเชื่อ Wealth Lending ในอัตราที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้กำไรสุทธิดอกเบี้ย NET INTEREST MARGIN (NIM) ปรับตัวดีขึ้น พร้อมปรับปรุงกระบวนการ และเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานโดยใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และควบคุมผลขาดทุนด้านเครดิต โดยนำเสนอการแก้ปัญหาการชำระหนี้ที่ยั่งยืนให้กับลูกค้า เพื่อสร้างผลกำไรให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่ บริษัท ฮาวเด้น แมกซี่ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ จำกัด บริษัทฯ ได้วางกลยุทธ์ในการขยายฐานลูกค้าให้มากขึ้น ด้วยการเพิ่มผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ที่หลากหลาย เพื่อสร้างโอกาสการเติบโต ในอนาคต อาทิ ประกันที่เกี่ยวข้องกับการขับเคลื่อนองค์กรสู่ความยั่งยืน ตามแนวทาง ESG, ประกันสุขภาพแบบกลุ่มที่ตอบโจทย์ความต้องการด้านสวัสดิการพนักงาน สอดคล้องกับความต้องการประกันชีวิตและประกันสุขภาพที่สูงขึ้น ตามจำนวนประชากรผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้น
และเพื่อตอกย้ำบทบาทผู้นำด้านธุรกิจไลฟ์สไตล์ โมบิลิตี้แบบครบวงจรในประเทศไทย ที่ก้าวเข้าสู่ปีที่ 25 ภายใต้การเดินหน้าสร้างธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน ผ่านแนวคิดด้าน ESG ส่งผลให้บริษัทฯ ดำเนินโครงการอย่างครอบคลุมในทุกมิติ ภายใต้การนำร่องติดตั้งโซลาร์รูฟ โครงการแรกที่ BMW Millennium Auto สาขาพัฒนาการ ในช่วงไตรมาส 4/2568 สู่การขยายไปยังสาขาอื่นๆ เพิ่มเติมในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด รวมถึงดาดฟ้าอาคารต่างๆ ที่ไม่ได้ใช้งาน ซึ่งโครงการดังกล่าวจะช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานมากกว่า 30% ต่อปี พร้อมทั้งช่วยสร้างร่มเงาให้กับรถยนต์ของลูกค้าและรถใหม่ที่รอการส่งมอบ ซึ่งถือเป็นการประยุกต์รูปแบบการดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับการสร้างความยั่งยืนให้แก่องค์กรและสังคมให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด เพราะ “ESG ไม่ใช่แค่แนวทาง แต่คือคำมั่นสัญญาในการสร้างอนาคตที่ดีกว่าของ MGC-ASIA”
อย่างไรก็ตาม จากแผนเชิงรุกในทุกกลุ่มธุรกิจช่วงครึ่งปีหลัง ประกอบกับการต่อยอดความสำเร็จจากการเข้าซื้อหุ้นทั้งหมดใน บริษัท นีโอ โมบิลิตี้ เอเชีย จำกัด (Neo Mobility Asia) ทำให้บริษัทฯ สามารถรับรู้รายได้ทั้งหมดเข้ามาตั้งแต่ครึ่งปีหลังเป็นต้นไป ซึ่งจะสร้างอัตราการเติบโตให้ MGC-ASIA ในอนาคตได้อย่างมีนัยสำคัญ รวมถึงจะผลักดันรายได้ในปี 2568 เติบโต 10% ตามเป้าหมายที่วางไว้

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...