โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

สังคม

บุกจับคาห้องทำงาน! แฉพฤติกรรมเรียกรับเงิน นายกเทศมนตรีท่าศิลา ก่อนนำไปสู่หมายจับ

สยามนิวส์

อัพเดต 1 วันที่แล้ว • เผยแพร่ 1 วันที่แล้ว • ทีมข่าวสยามนิวส์
บุกจับคาห้องทำงาน! แฉพฤติกรรมเรียกรับเงิน นายกเทศมนตรีท่าศิลา ก่อนนำไปสู่หมายจับ

วันที่ 3 กันยายน 2568 นายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. มอบหมายให้ พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. รักษาราชการแทน รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. พร้อมด้วย นายจิรวัฒน์ สุภาพ ผอ.ปปท. เขต 4, นายสวัสดิ์ นาสมฝัน นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการพิเศษ และเจ้าหน้าที่ ปปท. เขต 4 ร่วมกับ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. และสำนักงาน ป.ป.ช. บูรณาการบังคับใช้กฎหมายเข้าจับกุม นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลท่าศิลา อ.ส่องดาว จ.สกลนคร และพลเรือน 1 ราย ข้อหาเรียกรับเงินจากพนักงานจ้างเหมาฯ เพื่อแลกกับการต่อสัญญาจ้าง

สืบเนื่องจาก ปปท.เขต 4 (ส่วนหน้า) ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายที่เป็นพนักงานจ้างเหมาของเทศบาลตำบลท่าศิลา ว่านายกเทศมนตรีตำบลท่าศิลา ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐตามกฎหมาย มีพฤติกรรมเรียกรับเงินจากพนักงานจ้างเหมาฯ เพื่อแลกกับการต่อสัญญาจ้าง ซึ่งหากผู้ใดไม่จ่ายเงินจะไม่ทำการต่อสัญญาให้

โดยมีพฤติการณ์กล่าว คือ นายกเทศมนตรีตำบลท่าศิลา ผู้ต้องหาที่ 1 ได้เรียกประชุมลูกจ้างเหมาบริการ จำนวนประมาณ 50-60 คน โดยมีการเก็บอุปกรณ์การสื่อสารทั้งหมด จากนั้นได้ประชุมบอกทุกคนว่าเทศบาลไม่มีงบประมาณเพียงพอในการจ้างลูกจ้าง จึงจะขอลดอัตราการจ้างลูกจ้างลง และแจ้งว่าถ้าใครต้องการที่จะต่อสัญญาจ้างให้เข้ามาพบตนเพื่อพูดคุยเป็นการส่วนตัว

ต่อมากลุ่มผู้เสียหายที่เป็นพนักงานจ้างเหมาได้ขึ้นไปพบ ผู้ต้องหาที่ 1 ที่ห้องทำงานทีละคน เพื่อพูดคุยเรื่องการต่อสัญญาจ้าง จากนั้นผู้ต้องหาที่ 1 ได้แจ้งว่า ถ้าพนักงานลูกจ้างคนใดอยากต่อสัญญาทำงานต่อต้องจ่ายเงินค่าต่อสัญญาจ้างให้กับผู้ต้องหาที่ 1 คนละ 25,000 บาท

ต่อมาผู้เสียหาย จึงได้เข้าร้องเรียนกับเจ้าหน้าที่ ปปท. เขต 4 (ส่วนหน้า) หลังจากแจ้งข้อมูลให้ทราบแล้ว ผู้เสียหายได้ไปแจ้งความร้องทุกข์ โดยในวันที่มีการจ่ายเงิน ผู้เสียหาย ได้เข้าไปพูดคุยเจราจากับ ผู้ต้องหาที่ 1 ที่ห้องทำงาน เพื่อขอแบ่งจ่ายเป็น 2 ครั้ง ครั้งแรกขอจ่าย จำนวน 15,000 บาท

แต่ผู้ต้องหาที่ 1 ได้บอกให้ผู้เสียหายนำเงินดังกล่าวไปจ่ายไว้กับผู้ต้องหาที่ 2 ที่ร้านค้าของผู้ต้องหาที่ 2 จากนั้น ผู้เสียหายจึงเดินทางไปหา ผู้ต้องหาที่ 2 เมื่อไปถึงได้มอบเงินสดจำนวน 15,000 บาท ให้กับผู้ต้องหาที่ 2 รับไป ต่อมาในการจ่ายครั้งที่ 2 ผู้เสียหาย ได้ไปพบผู้ต้องหาที่ 1 เพื่อนำเงินส่วนที่เหลืออีกจำนวน 10,000 บาท ไปจ่าย แต่ผู้ต้องหาที่ 1 บอกว่าให้ไปจ่ายไว้กับผู้ต้องหาที่ 2 ที่ร้านค้าเช่นเดิม

จากการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานร่วมกันระหว่างสำนักงาน ป.ป.ท. บก.ปปป. และ ป.ป.ช. พบข้อมูลว่าในการเรียกรับเงินค่าต่อสัญญาจ้าง ผู้ต้องหาพยายามใช้วิธีการหลีกเลี่ยง โดยผู้ต้องหาได้เขียนข้อความลงในแผ่นป้ายแทนการพูด มีข้อความว่าเป็น ตัวเลข 25,000

และเมื่อผู้เสียหายนำเงินตามที่มีการเรียกรับไปมอบให้กับ ผู้ต้องหาที่ 1 ที่ห้องทำงาน ผู้ต้องหากลับแจ้งให้ผู้เสียหายนำเงินไปจ่ายกับผู้ต้องหาที่ 2 ให้รับเงินแทนซึ่งเป็นเพื่อนกัน และพบว่ามีผู้เสียหายจำนวนหลายรายได้จ่ายเงินค่าต่อสัญญาจ้างไปแล้ว

จากการรับแจ้งเรื่องร้องเรียนของ ปปท.เขต 4 ส่วนหน้า และการแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีตามกฎหมายทำให้มีการสืบสวนเชื่อมโยงการกระทำความผิดของ ผู้ต้องหาที่ 1 พนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปปป. จึงรวบรวมพยานหลักฐาน และขออนุมัติต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 ออกหมายจับผู้ต้องหา จำนวน 2 ราย กระทั่งวันนี้ (3 ก.ย. 68) ป.ป.ท. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ บก.ปปป. และ ป.ป.ช. วางแผนเข้าจับกุมผู้ต้องหา ณ เทศบาล ต.ท่าศิลา อ.ส่องดาว จ.สกลนคร มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ ผู้ต้องหาที่ 1 ตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลท่าศิลา อ.ส่องดาว จ.สกลนคร ตามหมายจับของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 ที่ 22/2568 วันที่ 21 สิงหาคม 2568 โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิด ฐานเป็นเจ้าพนักงาน เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด สำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบเพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่ง ไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่

ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ฐานเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต

และฐานเป็นเจ้าพนักงานเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด สำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบเพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่ง ไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่

ผู้ต้องหาที่ 2 ตามหมายจับของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 ที่ 23/2568 วันที่ 21 สิงหาคม 2568 โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด สำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบเพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่ง ไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่

ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต

และฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด สำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบเพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่ง ไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 149 และมาตรา 157 และตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172 และมาตรา 173 ตามลำดับ ประกอบมาตรา 86

ผู้สื่่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...