ศัพท์ วอลเลย์บอลเบื้องต้นที่นักกีฬามือใหม่ควรรู้ อัปเดตล่าสุด!
ศัพท์ วอลเลย์บอล ตำแหน่ง เทคนิคการเล่น ที่มือใหม่ควรรู้ อัปเดตล่าสุด
ศัพท์วอลเลย์บอลเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้นักกีฬามือใหม่สามารถสื่อสาร และพัฒนาทักษะการเล่นอย่างลื่นไหล ยิ่งไปกว่านั้นสำหรับผู้ชมที่เข้าใจคำศัพท์เกี่ยวกับวอลเลย์บอล ก็สามารถรับชมเกมการแข่งขันได้สนุกและอินมากขึ้น บทความนี้ได้รวบรวมคำศัพท์วอลเลย์บอลไว้แบบครบครัน อธิบายความหมายทั้งชื่อตำแหน่งผู้เล่น เทคนิคการเล่น รวมถึงคำพื้นฐานที่ควรรู้ที่จะช่วยให้เพิ่มอรรถรสการชมการแข่งขันแบบจัดเต็ม จะมีคำศัพท์ไหนน่าสนใจบ้าง เลื่อนอ่านต่อได้เลย!
ศัพท์ วอลเลย์บอล คืออะไร?
ศัพท์วอลเลย์บอล คือ คำศัพท์เฉพาะที่ใช้ในกีฬาวอลเลย์บอลเพื่ออธิบายการเล่น ตำแหน่งผู้เล่น เทคนิค หรือเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในสนาม โดยคำศัพท์วอลเลย์บอลเหล่านี้มักเป็นคำสากลที่ใช้กันทั่วโลก ทั้งในการแข่งขันวอลเลย์บอลทีมชาติไทยและวอลเลย์บอลโลก ซึ่งนอกจากศัพท์วอลเลย์บอลจะมีความสำคัญอย่างมากสำหรับนักกีฬาที่ต้องรับคำสั่งจากโค้ช และใช้ในการพัฒนาทักษะการเล่นแล้ว ในส่วนของผู้ชม คำศัพท์วอลเลย์บอลเหล่านี้ยังช่วยให้สามารถติดตามเกมได้สนุกและอินกับทุกช็อตบนสนาม ไปจนถึงสามารถใช้ในการสื่อสารกับแฟนวอลเลย์บอลคนอื่น ๆ ได้อีกด้วย
ศัพท์ วอลเลย์บอลเกี่ยวกับตำแหน่งผู้เล่นมีอะไรบ้าง?
คำศัพท์เฉพาะวอลเลย์บอลเกี่ยวกับตำแหน่งของนักวอลเลย์บอลจะช่วยบ่งบอกถึงบทบาท หน้าที่ และความรับผิดชอบของผู้เล่นแต่ละคนในสนามอย่างชัดเจน ดังนี้
- Setter (S) : หน้าที่คือ รับบอลจากเพื่อนแล้วส่งบอลด้วยการเซตให้ตัวรุกตีทำแต้ม โดยต้องตัดสินใจเร็ว อ่านเกมไว และเลือกให้เพื่อนตีในตำแหน่งที่มีโอกาสได้แต้มมากที่สุด
- Libero (L) : ตัวรับอิสระ เน้นรับเสิร์ฟและรับลูกตบ ไม่สามารถบล็อกหรือตบบอลเหนือเน็ตได้ สามารถเปลี่ยนตัวเข้าออกได้ทันทีโดยไม่ต้องขอเปลี่ยนกับกรรมการ ซึ่งต้องอ่านทางบอลเก่งและเคลื่อนที่ไวมาก
- Middle Blocker (MB) : ตัวบล็อกกลาง หรือบอลเร็ว หน้าที่หลักคือบล็อกลูกตบของคู่แข่ง และโจมตีบอลเร็วเพื่อตัดจังหวะเกมรับอีกฝั่ง ต้องกระโดดสูง เคลื่อนที่เร็ว และอ่านจังหวะตัวเซตของคู่แข่งได้แม่นยำ
- Opposite Hitter (OPP) : ตัวตีตรงข้าม จะยืนตรงข้ามกับตัวเซต หน้าที่คือโจมตีทำแต้มและช่วยบล็อกตัวตบหัวเสาของคู่แข่ง รวมถึงเป็นตัวเซตสำรองหากเซตเตอร์ไม่พร้อม ต้องมีพลังตบแรงและรับมือกับลูกยาก ๆ ได้ดี
- Outside Hitter / Left Side Hitter (OH) : ตัวตบฝั่งซ้ายหรือตัวตีหัวเสา มีหน้าที่ทำแต้มหลักของทีมและช่วยรับบอลแรก ต้องเล่นได้ทั้งรุกและรับ รับมือกับลูกยากได้ และมีความอึดเพราะต้องเล่นหลายบทบาทตลอดเกม
- Defensive Specialist (DS) : ผู้เล่นเกมรับพิเศษที่โค้ชส่งลงมาเพื่อเสริมการรับบอล โดยเฉพาะจังหวะสำคัญ ทำหน้าที่รับเสิร์ฟ รับตบ และส่งบอลต่อให้ตัวเซต ใช้ความไวและการอ่านเกมเป็นหลัก
ศัพท์ วอลเลย์บอลเกี่ยวกับพื้นฐานบนสนามมีอะไรบ้าง?
คำศัพท์วอลเลย์บอลที่บอกเกี่ยวกับการเล่นในสนาม ช่วยให้เข้าใจประวัติ วอลเลย์บอลได้ชัดเจนยิ่งขึ้น เพราะหลายคำมีที่มาจากการพัฒนากติกาและรูปแบบการเล่นตั้งแต่ยุคแรกเริ่ม จนกลายเป็นมาตรฐานที่ใช้ทั่วโลกในปัจจุบัน ดังนี้
- Set Point : คะแนนที่จะทำให้ชนะในเชตนั้น
- Match Point : คะแนนที่จะทำให้ชนะทั้งแมตช์
- Serve : การตีลูกเพื่อเริ่มการเล่นจากหลังเส้นหลัง
- Underhand Serve : เสิร์ฟแบบใต้มือ คาดเดาทิศทางง่าย ใช้บ่อยในผู้เล่นมือใหม่
- Overhand Serve : เสิร์ฟแบบมือบน เพิ่มความแรงและควบคุมทิศทางได้แม่นยำ
- Jump Serve : เสิร์ฟพร้อมกระโดด เพิ่มพลังและความเร็วของบอล
- Floating Serve : เสิร์ฟบอลแบบไม่มีสปิน ทำให้ลอยและแกว่งคาดเดาทิศทางยาก
- Ace : เสิร์ฟแล้วได้แต้มทันทีเพราะคู่แข่งรับพลาดหรือบอลตกพื้น
- Pass : การรับบอลแรกจากการเสิร์ฟหรือการโจมตีของคู่แข่ง
- Forearm Pass / Bump : รับบอลโดยใช้ท่อนแขนด้านใน
- Set : การตั้งบอลด้วยปลายนิ้วเพื่อให้เพื่อนโจมตี
- Quick Set : เซตบอลเร็วเพื่อให้ตัวรุกตีทันที ลดโอกาสบล็อก
- Spike : การตบบอลลงแดนคู่แข่งด้วยพลังและความแม่นยำ
- Tip : หยอดบอลเบา ๆ ข้ามบล็อกลงพื้นที่ว่างของคู่แข่ง
- Pipe : โจมตีจากเส้น 3 เมตรของผู้เล่นแดนหลัง
- Back Row Attack : การโจมตีจากผู้เล่นแดนหลังที่ยืนหลังเส้น 3 เมตร
- Attack : การตีบอลเพื่อทำแต้มให้ตกในแดนคู่แข่ง
- Kill : การโจมตีที่ทำให้ได้แต้มทันที
- Block : การกระโดดหน้าเน็ตเพื่อป้องกันลูกตบของคู่แข่ง
- Stuff Block : บล็อกสำเร็จจนบอลตกกลับลงแดนคู่แข่งทันที
- Dig : การรับลูกตบแรง ๆ ให้ลอยขึ้นต่อเกมได้
- Pancake : การรับบอลที่กำลังจะตกพื้นด้วยการเหยียดมือให้ฝ่ามือแตะพื้น
- Free Ball : บอลที่ส่งมาจากคู่แข่งโดยไม่มีการโจมตีแรง
- Overpass : รับหรือเซตแรงเกินไปจนบอลข้ามไปฝั่งคู่แข่ง
- Rotation : การหมุนตำแหน่งผู้เล่นตามเข็มนาฬิกาหลังได้สิทธิ์เสิร์ฟ
- Tie-break : เซตตัดสินหรือเซตสุดท้ายของการแข่งขัน
- Time-out : การหยุดเกมชั่วคราวเพื่อปรับแผนหรือพักผู้เล่น
- Libero Replacement : การเปลี่ยนตัวลิเบโรเข้าออกโดยไม่ต้องขออนุญาตกรรมการ
- Double Contact : การสัมผัสบอลสองครั้งติดกันโดยผู้เล่นคนเดียว (ฟาวล์)
ศัพท์ วอลเลย์บอล สำหรับชมการแข่งขันมีอะไรบ้าง?
หากรู้ศัพท์วอลเลย์บอลจะทำให้เข้าใจการชมโปรแกรมวอลเลย์บอลในเรื่องของฟอร์มการเล่น และแท็กติกที่ทีมเลือกใช้ในแต่ละแมตช์ ทำให้สามารถเห็นภาพชัดเจนว่าจังหวะใดเป็นการรุกหรือรับ จุดไหนคือการทำแต้มสำคัญ และทีมไหนกำลังได้เปรียบหรือเสียเปรียบ ดังนี้
บอล A , บอล B , บอล C คือ ศัพท์วอลเลย์บอลใช้เรียกระดับความสูงของลูกที่ออกจากมือเซต โดยบอล A มีระยะห่างประมาณ 1 ฟุต บอลมีการเคลื่อนที่เร็ว เหมาะสำหรับการเร่งจังหวะเพื่อหลบตัวบล็อกของคู่แข่ง บอล B สูงประมาณ 1-1.5 เมตร ทำให้เกมรุกยังคงรวดเร็วแต่เพิ่มเวลาสำหรับการประสานจังหวะ ขณะที่บอล C เป็นบอลตั้งสูง ใช้เมื่อต้องการให้ตัวรุกมีเวลามองและเตรียมตีมากขึ้น จังหวะจะช้ากว่าและเปิดโอกาสให้คู่แข่งตั้งบล็อกได้ง่ายกว่า แต่ก็ลดความเสี่ยงจากความผิดพลาดของการเซตลูกเร็ว
บอลโค้ง คือ ลูกที่เซตออกไปด้วยวิถีโค้งกลาง ๆ ไม่พุ่งต่ำหรือโด่งมาก ใช้ในจังหวะรุกทั่วไป
โค้งหน้า คือ การเซตบอลโค้งไปทางด้านหน้าของตัวเซตขนานไปกับเน็ต เพื่อให้ตัวตบหัวเสาวิ่งเข้าตี
โค้งหลัง คือ การเซตบอลโค้งไปด้านหลังตัวเซต เพื่อให้ตัวรุกฝั่งตรงข้ามหัวเสาตี
ยกสูง คือ การเซตบอลตั้งสูง ใช้เมื่อต้องการให้ตัวรุกด้านหลังมีเวลามองและเตรียมตีมากขึ้น เหมาะในจังหวะแก้เกม
บีหลัง คือ การที่ตำแหน่งหัวเสาซึ่งหมุนไปอยู่แดนหลัง แต่ยังหาจังหวะขึ้นโจมตีได้ โดยต้องกระโดดหลังเส้น 3 เมตร (ไม่เหยียบเส้น) ตัวเซตจะส่งบอลจากแดน A ข้ามไปให้ผู้เล่นแดนหลังตำแหน่ง B กระโดดขึ้นตบ จังหวะแบบนี้เรียกว่า “ขึ้นตบจากบีหลัง” เป็นวิธีเพิ่มมิติการโจมตีจากแนวหลังและทำให้คู่แข่งบล็อกยากขึ้น
บีแทรก คือ จังหวะที่ตัวเซตยืนต่ำแล้วหลอกว่าจะส่งให้หัวเสา แต่กลับจ่ายบอลให้ผู้เล่นแดนหลังตำแหน่ง B ที่วิ่งสอดขึ้นมาตบใกล้ตัวเซต การโจมตีแบบนี้เรียกว่า “บีแทรก” เพราะผู้เล่นวิ่งแทรกเข้ามาในไลน์การเล่นเพื่อสร้างความสับสนแก่คู่แข่ง ทำให้บล็อกอ่านทางได้ยากและเพิ่มโอกาสทำแต้ม
ทับ X คือ จังหวะการเซตบอลที่ส่งผ่านผู้เล่นตัวขึ้นหลอก เหมือนจะจ่ายให้ผู้ตีคนแรก แต่จริง ๆ แล้วบอลพุ่งต่อไปถึงหัวเสาอีกฝั่ง การเล่นแบบนี้ต้องอาศัยทั้งความแม่นยำสูงและความเข้าใจเกมร่วมกันของผู้เล่น
บอลวาย คือ จังหวะการเล่นที่คล้ายกับทับ X แต่ต่างกันตรงที่ผู้เล่นตัวหลอกจะยืนใกล้กับตัวตีจริงมาก แทบจะอยู่ในตำแหน่งคู่กัน ชื่อเรียกมาจากการอ่านตำแหน่งตามลำดับ X-Y-Z โดยในจังหวะนี้ เป้าหมายคือผู้เล่นตำแหน่ง Y ตัวเซตจะส่งบอลพุ่งแรงกว่าปกติเพื่อให้น้ำหนักไปถึงตัว Y อย่างแนบเนียน ทำให้หลอกสายตาคู่แข่งได้ดี แต่ต้องอาศัยความเข้าใจและการประสานจังหวะระหว่างผู้เล่นในทีมที่แม่นยำ
ไหลหลัง คือ บอลเร็วที่เซตออกด้านหลังตัวเซตแบบพุ่งต่ำ ตัวรุกตีต่อเนื่องในจังหวะเดียว
ไหลสั้น คือ บอลเร็วที่เซตใกล้ตัวเซตมาก วิถีต่ำ เพื่อให้ตัวรุกตีทันที
ไหลยาว คือ บอลเร็วที่เซตพุ่งต่ำ แต่ส่งออกไกลกว่าปกติ ให้ตัวรุกโจมตีจากตำแหน่งห่างเน็ต
ศัพท์ วอลเลย์บอล รู้ไว้ก่อนชมการแข่งขันแบบจุใจผ่านทาง PPTV
การทำความเข้าใจความหมายของศัพท์วอลเลย์บอล นอกจากช่วยให้นักกีฬาสามารถสื่อสารกับโค้ช และฝึกฝนทักษะได้แล้ว ยังช่วยผู้ชมให้ติดตามเกมได้อย่างสนุกและลึกซึ้งยิ่งขึ้น ทั้งในแง่ของจังหวะการเล่น ความเร็ว และกลยุทธ์ในสนาม เมื่อผู้ชมสามารถเข้าใจความหมายและบริบทของคำศัพท์เหล่านี้ ก็จะมองเห็นรายละเอียดของเกมได้มากขึ้น พร้อมร่วมดื่มด่ำไปกับความสนุกแบบจัดเต็ม
เพื่อไม่ให้พลาดทุกแมตช์การแข่งขัน สามารถรับชมถ่ายทอดสดวอลเลย์บอลได้แบบเรียลไทม์ที่ PPTV
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สรุปกติกาวอลเลย์บอล 30 ข้อ ฉบับเข้าใจง่าย ครบจบในที่เดียว
ประวัติโค้ชอ๊อต เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร ผู้นำโค้ชวอลเลย์ไทย
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ศัพท์ วอลเลย์บอลเบื้องต้นที่นักกีฬามือใหม่ควรรู้ อัปเดตล่าสุด!
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.pptvhd36.com