"ESPN" เปิดตัวแอปสตรีมมิ่งใหม่ ถ่ายทอดสดกีฬา 47,000 รายการต่อปี พร้อมชม Disney+ และ Hulu ฟรี
เมื่อวันที่ 21 ส.ค.68 สถานีโทรทัศน์กีฬา ESPN ในเครือบริษัทวอลท์ ดิสนีย์ เตรียมเปิดศักราชใหม่แห่งการรับชมกีฬา ด้วยการนำเสนอรายการทั้งหมดของสถานีสู่ผู้ชมภายนอกระบบโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิก (เพย์ทีวี) เป็นครั้งแรกในวันนี้ (21 ส.ค.) ผ่านการเปิดตัวแอปพลิเคชันโฉมใหม่ ความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญนี้มีเป้าหมายเพื่อทวงคืนฐานผู้ชมหลายสิบล้านราย ซึ่งสถานีกีฬาผู้บุกเบิกแห่งนี้ได้สูญเสียไปนับตั้งแต่ปี 2553 ท่ามกลางยุคแห่งการปฏิวัติสู่ทีวีระบบสตรีมมิง
จิมมี พิทาโร ประธานกรรมการของ ESPN กล่าวว่า บริการใหม่นี้ได้รับการรังสรรค์ขึ้นเพื่อตอบสนองรสนิยมของแฟนกีฬายุคใหม่ ซึ่งมีความครอบคลุมเหนือกว่าแอป ESPN+ ที่เคยเปิดตัวเมื่อปี 2561 อย่างมหาศาล "เราตระหนักดีว่าแฟนกีฬาไม่ได้ต้องการเพียงการนั่งชมอยู่หน้าจอเท่านั้น" พิทาโรกล่าว "แฟน ๆ ต้องการสัมผัสประสบการณ์ และต้องการที่จะมีปฏิสัมพันธ์กับการแข่งขันด้วย"
เพื่อตอบโจทย์ดังกล่าว ภายในแอปนี้จึงอัดแน่นไปด้วยการถ่ายทอดสดการแข่งขันกว่า 47,000 รายการต่อปี ไม่ว่าจะเป็นอเมริกันฟุตบอล (NFL), บาสเกตบอล (NBA และ WNBA), ฮอกกี้ (NHL), อเมริกันฟุตบอลระดับมหาวิทยาลัย, เทนนิส, กอล์ฟ และกีฬาอื่น ๆ อีกมากมาย โดยมีอัตราค่าบริการอยู่ที่เดือนละ 30 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 978 บาท) พร้อมข้อเสนอพิเศษช่วงเปิดตัว ซึ่งจะมอบสิทธิ์การรับชมบริการสตรีมมิ่ง Disney+ และ Hulu เวอร์ชันมีโฆษณา โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
นอกจากนี้ ผู้ใช้งานยังสามารถเลือกทีมและกีฬาที่ชื่นชอบเพื่อสร้างประสบการณ์เฉพาะตัวได้ เช่น การรับชมรายการข่าว "SportsCenter" ในเวอร์ชันของตนเอง ที่ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) สังเคราะห์เสียงผู้ประกาศข่าวชื่อดังมาสร้างเป็นเสียงบรรยายส่วนบุคคล รวมถึงฟีเจอร์ใหม่ "Verts" ซึ่งเป็นคลิปไฮไลต์แบบวิดีโอแนวตั้งที่เหมาะกับการเลื่อนดูบนมือถือ ขณะที่คอเกมแฟนตาซีก็จะเห็นสถิติผู้เล่นของตนปรากฏควบคู่ไปกับการถ่ายทอดสด และสำหรับผู้ที่เชื่อมบัญชีไว้ แถบ "ESPN Bet" ก็จะแสดงอัตราต่อรองอย่างครบวงจร
บ็อบ ไอเกอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของดิสนีย์ กล่าวว่าแอปนี้เปรียบได้กับ "ความฝันที่เป็นจริงของแฟนกีฬา"
ในมุมมองของนักวิเคราะห์อุตสาหกรรม ความเคลื่อนไหวครั้งนี้นับเป็นโอกาสอันดีของดิสนีย์ที่จะเข้าถึงกลุ่มแฟนกีฬาที่ไม่ได้เป็นสมาชิกเคเบิลทีวี หลังจากที่จำนวนผู้ชมผ่านเพย์ทีวีของ ESPN ลดลงจาก 100 ล้านครัวเรือนในปี 2553 เหลือเพียงประมาณ 61 ล้านครัวเรือนในเดือนก.ค. ที่ผ่านมา
"นี่คืออีกก้าวหนึ่งของดิสนีย์ในการปรับทิศทางสู่ธุรกิจสตรีมมิ่ง และยังสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของธุรกิจแขนงนี้ต่อภาพรวมของบริษัท" โรเบิร์ต ฟิชแมน นักวิเคราะห์จากสถาบัน MoffettNathanson ให้ความเห็น
อย่างไรก็ตาม พิทาโรย้ำว่าทีวีระบบบอกรับสมาชิกจะยังคงเป็น "ส่วนสำคัญอย่างยิ่ง" ในธุรกิจของ ESPN ต่อไป โดยชี้ว่าในไตรมาสล่าสุด ธุรกิจส่วนนี้ยังคงสร้างรายได้จากการดำเนินงานสูงถึง 1 พันล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นเกือบ 22% ของรายได้รวมทั้งหมดของดิสนีย์
ทั้งนี้ สมาชิกเพย์ทีวีในปัจจุบันจะได้รับสิทธิ์ในการเข้าใช้แอป ESPN ใหม่นี้ด้วยเช่นกัน โดยพิทาโรทิ้งท้ายว่า บริษัทมีความมุ่งหวังที่จะผลักดันให้ลูกค้าทุกรายหันมาใช้บริการผ่านแอป "เพราะนี่คือประสบการณ์ที่สมบูรณ์และครอบคลุมที่สุดสำหรับแฟนกีฬาอย่างแท้จริง"