UCI จับมือ IOC ผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางพัฒนาจักรยานเอเชีย ตั้งเป้าส่งนักปั่นล่าโอลิมปิก 2028
พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการ Development of National Sport System (DNSS) ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) และ สหพันธ์จักรยานนานาชาติ (UCI) เพื่อพัฒนาบุคลากรและนักกีฬาจักรยานไทยอย่างยั่งยืน โดย UCI เห็นศักยภาพไทยเหมาะเป็น ศูนย์ฝึกจักรยานภูมิภาคเอเชีย ทั้งด้านทำเล บุคลากร เทคโนโลยี และวิทยาศาสตร์การกีฬา
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยสำคัญที่ไทยยังขาดคือ เวลโลโดรมในร่ม 250 เมตร ซึ่งเป็นมาตรฐานแข่งขันระดับโลกและโอลิมปิก ปัจจุบันไทยมีเวลโลโดรม 4 แห่ง (หัวหมาก, เชียงใหม่, สุพรรณบุรี, นครราชสีมา) แต่ทั้งหมดเป็นกลางแจ้ง 333.33 เมตร ไม่สามารถรองรับการจัดรายการใหญ่ที่ใช้เก็บคะแนนโอลิมปิก เช่น ชิงแชมป์เอเชีย, UCI Track Nations Cup, UCI Track World Championships
โครงการ DNSS จะเริ่มจากการมอบทุนเก็บตัวระยะยาว 3 ปี (พ.ศ. 2569-2571) ให้นักปั่นไทยฝึกซ้อมและแข่งขันที่ World Cycling Center (WCC) เมืองเอเกิล สวิตเซอร์แลนด์ เพื่อเตรียมคัดโอลิมปิก 2028 ที่ลอสแอนเจลีส โดยรายชื่อที่เสนอ UCI แล้ว ได้แก่
จ.ต.นรเศรษฐ์ธาดา บุญมา ประเภทลู่ระยะสั้น รองแชมป์โลกเยาวชน 2024 และแชมป์เอเชียคีรินเยาวชน
หทัยเพชร ใจสว่าง ประเภทบีเอ็มเอ็กซ์
ขณะที่นักกีฬาประเภทถนนจะคัดเลือกจากผลงานในปีที่ผ่านมา
นอกจากนี้ DNSS ยังวางแผนพัฒนา จักรยานเสือภูเขา (MTB) เริ่มจากอบรมโค้ชในปี 2026 และเก็บตัวทีมชาติรุ่นเยาวชน-ทั่วไป เตรียมลุยชิงแชมป์เอเชีย 2026 ที่อุซเบกิสถาน
ด้านการพัฒนาผู้ตัดสิน UCI ชี้ว่าภูมิภาคเอเชียรวมถึงไทยยังขาดแคลน จึงเตรียมอบรมหลักสูตร Elite National Commissaire Course for Road ที่สุพรรณบุรี 11-15 กันยายนนี้ มีผู้ตัดสินไทย 12 คน และต่างชาติ 8 คน รวม 20 คน ซึ่งผู้ผ่านการอบรมสามารถต่อยอดสู่การเป็น ผู้ตัดสินนานาชาติ (International Commissaire) ได้ในอนาคต
พลเอกเดชาย้ำว่า การสนับสนุนจาก UCI มาจากความตั้งใจและผลงานต่อเนื่องของสมาคมฯ รวมถึงความสำเร็จล่าสุดที่นักปั่นไทยคว้าโควตาโอลิมปิก 2024 ถึง 4 ที่นั่ง ครอบคลุมทั้ง BMX, จักรยานลู่ และถนน พร้อมตั้งเป้ายกระดับมาตรฐานสู่เวทีโลกอย่างยั่งยืน