กต. เดินหน้ากดดันกัมพูชาหยุดใช้ทุ่นระเบิดชายแดน จ่อใช้กลไก UN สอบสวนเอาผิด
กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) ยกระดับท่าทีต่อกรณีความตึงเครียดชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเหตุทหารไทยได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งทางการไทยระบุว่าเป็นการกระทำของฝ่ายกัมพูชาที่ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศและอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล หรืออนุสัญญาออตตาวา รวมถึงข้อตกลงหยุดยิงในกรอบคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC)
นิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงว่าตั้งแต่เกิดเหตุปะทะครั้งแรกเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2568 มีทหารไทยหลายรายเหยียบกับระเบิดจนได้รับบาดเจ็บสาหัสและบางรายทุพพลภาพถาวร สะท้อนพฤติการณ์ที่ขัดต่อคำมั่นสัญญาของกัมพูชาในการปฏิบัติตามกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศและพันธกรณีตามอนุสัญญาออตตาวา
กระทรวงการต่างประเทศได้ดำเนินการประท้วงอย่างเป็นทางการต่อกัมพูชาหลายครั้ง และในระดับพหุภาคีได้ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อประธานการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวาและเลขาธิการสหประชาชาติ เพื่อให้รับทราบถึงการละเมิดพันธกรณีดังกล่าว รวมถึงประสานประเทศพันธมิตรอย่างญี่ปุ่น มาเลเซีย และสิงคโปร์ เพื่อใช้กลไกของอาเซียนและกรอบระหว่างประเทศกดดันให้กัมพูชาหยุดการกระทำดังกล่าว
มาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ย้ำว่าหากกัมพูชายังเพิกเฉย ไทยจะขอให้ใช้กลไกของอนุสัญญาออตตาวาผ่านเลขาธิการยูเอ็นเพื่อไต่สวนการกระทำของกัมพูชา พร้อมทั้งเผยว่ากระทรวงจะจัดประชุมร่วมกับกระทรวงกลาโหมในวันที่ 15 สิงหาคมนี้ เชิญคณะทูตประเทศผู้บริจาคและองค์กรระหว่างประเทศด้านการกู้ทุ่นระเบิดมารับฟังข้อมูลและเรียกร้องให้ทบทวนความช่วยเหลือแก่กัมพูชา รวมถึงพาลงพื้นที่ชายแดนในวันที่ 16 สิงหาคมเพื่อดูสภาพความเสียหายจริง
นอกจากนี้ กระทรวงการต่างประเทศยังประณามการเผยแพร่ข่าวปลอมและบิดเบือนข้อเท็จจริงของฝ่ายกัมพูชา ซึ่งขัดต่อข้อตกลงหยุดยิง และชี้ว่าการปิดกั้นสื่อไทยไม่ให้เข้าถึงประชาชนกัมพูชาเป็นการละเมิดเสรีภาพสื่อและสิทธิในการรับข้อมูลข่าวสาร โดยไทยยืนยันว่าประชาชนทั้งสองประเทศไม่ใช่คู่ขัดแย้ง และรัฐบาลไทยยังคงปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด พร้อมเรียกร้องให้กัมพูชาแสดงความจริงใจในการยุติความตึงเครียดและหาทางออกอย่างสันติ