“รักชนก” วอน ประชาชนร่วมทำประชาพิจารณ์ประกันสังคมก้าวหน้า ก่อน 17 ตุลาคม
“รักชนก” วอน ประชาชนร่วมทำประชาพิจารณ์ประกันสังคมก้าวหน้า ก่อน 17 ตุลาคม - มอง อำมหิต หลัง IO ถล่มขวางบำนาญคนหาเช้ากินค่ำ
วันที่ 14 ต.ค. 2568 ที่รัฐสภา นายสหัสวัต คุ้มคง และนางสาวรักชนก ศรีนอก สส.พรรคประชาชน พร้อมด้วยตัวแทนทีมประกันสังคมก้าวหน้า แถลงด่วน กรณีสูตรประชาพิจารณ์ หลังถูกบอทโจมตีเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เวลาประมาณตีหนึ่งถึงตีสี่ โดยส่งความคิดเห็น ทั้งหมดที่ถูกส่งมาล้วน ไม่เห็นด้วยทั้งสิ้น
นางสาวรักชนก ระบุว่า ตนขอรับประกันได้เลยว่าประชาชนที่กำลังสงสัยอยู่ว่าจะได้หรือเสียประโยชน์จากบำนาญสูตรนี้ ต้นกล้าการันตีด้วยเกียรติเลยว่าผู้ประกันตนที่กำลังได้รับบำนาญอยู่ปัจจุบันนี้จะได้รับประโยชน์อย่างแน่นอนโดยเฉพาะในมาตรา 39 หลายคนอาจมองว่าเป็นการหารเฉลี่ยผลประโยชน์จากมาตรา 33 ที่เคยได้รับหรือไม่ ซึ่งขอบอกเลยว่าไม่ใช่ มีความพยายามที่จะบิดเบือนคำพูดหรือบิดเบือนความเข้าใจผิดเพื่อพยายามล้มสูตรนี้ ตนเข้าใจว่าสูตรนี้ถ้าผ่านหลายคนอาจมองว่าเป็นผลงานของทีมประกันสังคมก้าวหน้า แต่อยากจะถามว่าในเมื่อที่ผ่านมาไม่มีใครทำและรอบนี้ประกันสังคมก้าวหน้าหยิบเรื่องนี้มาทำในเมื่อมีคนได้ประโยชน์ทำไมถึงจะต้องขวาง
ตนเห็นความพยายามมาตลอดตั้งแต่คนที่เลยลงรับสมัครบอร์ดประกันสังคมและไม่ได้รับการเลือกตั้งมาจนถึงกระบวนการไอโอที่โจมตีพรรคประชาชนมาตลอด จนตอนนี้เริ่มมาโจมตีงานของทีมประกันสังคมก้าวหน้าแล้ว จากสถิติการทำประชาพิจารณ์ ที่ความเห็นว่าเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยสูสีกันมาโดยตลอด แต่อยู่ดี ๆ ไม่รู้มาจากไหน 5,000 กว่าคอมเมนท์ภายในระยะเวลา 5 ชั่วโมง มีกระบวนการไอโอ พยายามที่จะนำเสนอความเห็นที่ไม่ได้มาจากคนจริง ๆ เข้ามาเพื่อล้มบำนาญสูตรแคร์
" อยากบอกว่าหลายคนที่อาจจะไม่ได้ชอบหน้าพวกเรา เกลียดพวกเรากลัวพวกเรา แต่ท่านก็ไม่จำเป็นที่จะต้องทำร้ายชีวิตผู้ประกันตนแบบนี้ ดิฉันไม่รู้จริง ๆ ว่าจะทำไปทำไม ในเมื่อมันมีจริงๆคนที่ส่งมาตรา 33 ส่งมาตรา 39 ควรจะได้รับบำนาญ 4,000 5,000 แต่ทุกวันนี้ได้ไม่ถึง 2,000 บาท มันอาจจะไม่ได้ดีขึ้นอย่างวิริสมาหลา แต่สามารถทำให้เขาหายใจหายคอเพิ่มเติมขึ้นมาได้ " นางสาวรักชนกกล่าว
ทั้งนี้ ตนอยากจะเรียกร้อง ผู้ประกันตนทั่วประเทศ สื่อมวลชนที่กำลังทำข่าวอยู่หรือผู้ชมที่กำลังดูอยู่ทางบ้านเชื่อว่าหลายคนส่งประกันสังคมอยู่ และรู้ว่ามีการทำประชาพิจารณ์สูตรบำนาญนี้อยู่ อาจจะรู้สึกว่ายังไม่ต้องเข้าไปทำและไม่เกี่ยวกับตัวเอง ยังไม่ถึงเวลาที่จะได้รับบำนาญ จึงขอเรียกร้องให้เข้าไปทำประชาพิจารณ์กัน สนับสนุนสูตรนี้ให้ผ่านออกมา เพื่อเห็นแก่ประโยชน์ของผู้ประกันตนหรือตัวเองในอนาคต เราไม่ต้องการไอโอให้เข้ามาปั่นข้อมูลเราต้องการผู้ประกันตนที่มีชีวิตมีเลือดเนื้อมีตัวตนจริงๆในการเข้าไปช่วยกันทำให้สิ่งนี้ผ่านไปได้ ประชาพิจารณ์อันนี้กำลังจะหมดในวันที่ 17 ต.ค. แล้วตอนเชื่อว่านี่จะไม่ใช่ครั้งสุดท้ายของการขัดขวางบำนาญสูตรนี้ จึงขอให้ทุกคนไปช่วยกันทำประชาพิจารณ์เพื่อเห็นแก่หลังพิงสุดท้ายของตัวเองในอนาคต
ด้านนายสหัสวัต กล่าวว่า ผู้ที่ได้รับบำนาญอยู่แล้วไม่มีใครแม้แต่คนเดียวที่ได้รับบำนาญน้อยลงจากสูตรนี้ และสำหรับคนที่ยังเป็นผู้ประกันตนอยู่ไม่ว่าจะมาตราอะไรก็ตาม สูตรแคร์เป็นหลักประกันในชีวิตว่าเมื่อเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินจะยังคงมีบำนาญที่สมเหตุสมผล เช่น 10 ปีที่แล้วไม่มีใครคิดว่าบริษัทรถยนต์ขนาดใหญ่จะปิดตัวลง ไม่มีใครคิดว่าจะมีการเลือกตั้งลูกจ้างในบริษัทชิ้นส่วนยานยนต์ และเมื่อเกิดการเลิกจ้างคนกลุ่มนี้ศักยภาพในการส่งประกันสังคมลดลง ซึ่งหากใช้สูตรเดิมคนที่ถูกเลิกเลิกจ้างในปลายชีวิตอาจเหลือ 1000 กว่าบาท ซึ่งสูตรนี้จะเป็นหลักประกันว่าไม่ว่าจะถูกเลิกจ้างในช่วงบั้นปลายชีวิตหรืออย่างไรก็ตาม จะยังคงได้รับบำนาญอย่างสมเหตุสมผล ส่งมากได้มาก ส่งน้อยได้น้อย โดยสูตรแคร์ถือเป็นสูตรที่ยุติธรรมและแฟร์ที่สุดสำหรับทุกคนแล้ว ถือเป็นสูตรที่ผ่านการคิดมาอย่างยาวนานทั้งจากนักวิชาการและนักคณิตศาสตร์ประกันภัย รวมถึงคิดบนหลักฐานความเป็นจริง
ขณะที่ นายษัษฐรัมย์ ธรรมบุษดี คณะกรรมการประกันสังคมสัดส่วนผู้ประกันตน เผยว่า วันนี้เป็นวันที่ตนขอแถลงให้ประชาชนและผู้ประกันตนอีก 15 ล้านคนในมาตรา 33 และ 39 ได้ทราบความคืบหน้าของกระบวนการทำประชาพิจารณ์สูตรบำนาญสูตรใหม่ หรือที่เราเรียกว่า สูตรแคร์ สูตรค่าเฉลี่ยพร้อมกับการปรับอัตราค่าเงิน สิ่งเหล่านี้ได้ผ่านการศึกษาโดยกรรมการประกันสังคมตั้งแต่ปี 2563 ได้มีการผ่านมติบอร์ดในหลักการตั้งแต่เดือนมีนาคม 2568 ระยะเวลาที่ถูกยื้อยาวนานจนกระทั่งเดือนตุลาคมที่ผ่านมาได้มีกระบวนการการทำประชาพิจารณ์ โดยสูตรบำนาญสูตรนี้จะทำให้ผู้ประกันตน 570,000 คนจาก 800,000 คนได้รับบำนาญเพิ่มขึ้นทันที ประชาชนที่ทำงานอยู่ในโรงงาน ประชาชนที่ถูกเลิกจ้าง ประชาชนที่ได้รับเงินบำนาญ หรือประชาชนที่เคยส่งเงินในมาตรา 39 จะสามารถมีชีวิตที่ลืมตาอ้าปากได้ จะได้รับบำนาญเพิ่มขึ้นเฉลี่ยประมาณ 10% และนับไปประชาชนที่จะเกษียณอีก 10 ปีข้างหน้าอีกกว่า 3,000,000 คนจะได้รับบำนาญเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 7% สิ่งเหล่านี้คือการปรับสูตรคำนวณเพื่อสร้างความเป็นธรรมให้แก่ผู้คนเพื่อแก้ไขข้อผิดพลาดที่เราได้ดำเนินมาตั้งแต่ปี 2542 แต่ความพยายามที่แสนจะเรียบง่ายเพื่อความเป็นธรรมของผู้ประกันตนตอนนี้กำลังอยู่ในภาวะที่สมเสี่ยงและมีความอันตรายอย่างยิ่งของความพยายามในการโค่นล้มการทำประชาพิจารณ์สูตรบำนาญสูตรใหม่ จากสถิติที่เราได้รับมาโดยปกติแล้วผู้ที่เห็นชอบกับสูตรบำนาญนี้มีอัตราส่วนสูงกว่า 62% ต่อ 38% เป็นระยะเวลายาวนาน สถิติของคนที่เข้าไปทำประชาพิจาร เฉลี่ยชั่วโมงละ 10 คน แต่ช่วงวันที่ 11 รอยต่อถึงวันที่ 12 ในระยะเวลาประมาณ 5 ชั่วโมง มีคนเข้าไปทำประชาพิจารณ์ตกแล้วชั่วโมงนึงมากกว่า 900 คน สิ่งเหล่านี้จึงทำให้กระบวนการทำประชาพิจารณ์ถูกตั้งคำถามอย่างมาก ต่อกระบวนการที่มีไอโอ มีการยิงบอร์ดเข้าไป ซึ่งเป็นสถิติที่มีอัตราคนเข้าไปทำประชาพิจารณ์สูงกว่าปกติกว่า 900 เท่าในวันเดียวกัน หลายคนมองว่าสิ่งเหล่านี้เป็นผลงานของทีมประกันสังคมก้าวหน้าจึงต้องการพยายามกีดขวางไม่ให้สิ่งเหล่านี้สำเร็จ แต่ตนอยากบอกว่าไม่ว่าเป็นกลุ่มการเมืองใด ไอโอสังกัดของกลุ่มใดหรือความพยายามในการล้มประชาพิจารณ์อย่างไม่สุจริตใจของกลุ่มใด คือความอำมหิตอย่างถึงที่สุดในการที่จะกีดขวางบำนาญของคนชาวกินค่ำกว่า 500,000 คนที่ปรารถนาที่จะมีชีวิตที่ดี อยากให้สื่อมวลชนสะท้อนสัญญาณตัวนี้ถึงกระบวนการการทำประชามติที่ผิดปกติของระบบไอโอ การยิงบอร์ดและระบบที่ไม่ได้มาตรฐาน ที่ใช้เป็นระบบกลางในการทำประชาพิจารณ์ของกฎหมายทางประเทศ