“ภูมิธรรม” ปัดข่าวคุยสหรัฐใช้ฐานทัพเรือ “ทับละมุ” แลกปรับภาษี
สำนักข่าวไทย Online
อัพเดต 15 กรกฎาคม 2568 เวลา 17.15 น. • เผยแพร่ 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา • สำนักข่าวไทย อสมททำเนียบ 15 ก.ค.- “ภูมิธรรม” แจง ไม่เคยคุยกับสหรัฐใช้ฐานทัพเรือทับละมุ จ.พังงา แลกปรับภาษีทรัมป์ รับไม่สบายใจหลังบางสื่อตีความทำเข้าใจผิด ทำตนเองและประเทศเสียหาย ขอมีจรรยาบรรณ ไม่อย่างนั้น ไม่ให้สัมภาษณ์อีก
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ชี้แจงกรณีสื่อนำเสนอข่าวสหรัฐ ขอใช้ฐานทัพเรือทับละมุ จ.พังงา เป็นหนึ่งในเงื่อนไขเจรจาภาษีทรัมป์ ว่า เรื่องนี้ตนไม่สบายใจมาก และกำลังจะโทรไปชี้แจงกับรายการที่นำเสนอข่าวนี้ ซึ่งเมื่อวานนี้พูดชัดเจนที่กระทรวงมหาดไทย ซึ่งมีผู้สื่อข่าวถามในเรื่องนี้ ตนก็บอกไปว่า ไม่เคยคุยกับสหรัฐ เรื่องนี้เลย และไม่เคยรู้เรื่องนี้เลย
“เมื่อสื่อถามถึงท่าเรือทับละมุ ผมก็บอกว่า ตรงนี้เป็นที่ของกองทัพเรือ และเขาเองก็อยากมาอยู่ตรงนี้ เพราะเขามีท่าเรือที่ฝั่งอ่าวไทย และถ้าสามารถทำตรงนี้ได้ ก็จะมีในฝั่งอันดามัน ซึ่งเขาก็อยากมี เพราะมีกองเรืออยู่ตรงนั้น ซึ่งผมก็บอกว่า ต้องมาดูรายละเอียดอีกที เพราะไม่ใช่เรื่องง่ายและต้องใช้งบประมาณ และก็ยืนยันว่าไม่ใช่ และไม่เคยคุยกันในเรื่องนี้ แต่ทัพเรือคงมีแผนอยู่แล้ว เพราะเคยคุยกับผม ซึ่งผมให้สัมภาษณ์ไปแค่นี้ แต่ไปนำเสนอว่า ผมยืนยันว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องในการเจรจากัน” นายภูมิธรรม กล่าว
นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนอยากให้การนำเสนอข่าวและคนที่ฟังใช้ความระมัดระวัง เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการเมืองระหว่างประเทศ เดี๋ยวก็เป็นจีนเป็นสหรัฐ ทำให้ประเทศเสียหาย ย้ำว่าเป็นเรื่องที่ไม่สบายใจ และไม่อยากให้เกิดอย่างนี้อีก ถ้าจะถามว่ามีข่าวลืออย่างนั้นอย่างนี้ก็ถามไป แต่ถ้าบอกว่า ตนพูดแบบนี้ ตนและประเทศเสียหายมาก เรื่องนี้ไม่สมควรมีอีก และไม่ควรมีอีก ถ้ามีแบบนี้อีก ตนจะไม่ให้สัมภาษณ์แล้ว
เมื่อถามว่า คิดว่าความผิดพลาดของการนำเสนอข่าวเป็นที่ขั้นตอนไหน นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนไม่ทราบ แต่ตนยอมรับว่าเมื่อวานนี้มีการถาม แต่คำตอบตนชัดเจน แต่ไปเขียนข่าวไปนำเสนอข่าวแบบนี้และไม่รู้ว่าฉบับอื่นมีหรือไม่ ถ้าเป็นแบบนี้เราคุยกันยาก เพราะถ้าพูดอย่างหนึ่งไปตีความอย่างหนึ่งมันไม่ได้ ตนยินดีให้ข้อมูลเท่าที่ตนรู้มาตลอด ดังนั้น ตนขอ ถ้าจะถามตนอย่าเอาข่าวไปเต้าเขียน ทำให้เกิดปัญหา ตนไม่ได้โกรธ แต่ไม่สบายใจ และไม่พอใจมาก ไม่ได้รู้สึกโกรธผู้ทำ แต่อยากจะขอร้อง ถ้ารักกันจริง ผู้สื่อข่าวต้องมีจรรยาบรรณและใช้หน้าที่ของตนเองอย่างถูกต้องเหมาะสมที่สุด เพราะคิดว่าถ้าเป็นอย่างนี้จะให้ข่าวยาก เพราะไม่รู้ว่า พูดไปแล้วจะเป็นอย่างไร ไม่ให้ดีกว่า .-315 -สำนักข่าวไทย