สปสช. ยัน รพ.รัฐ ต้องซื้อสินค้าบัญชีนวัตกรรมไทยไม่น้อยกว่า 30%
สปสช. แจงข้อกำหนดให้ซื้อสินค้าบัญชีนวัตกรรมไทยไม่น้อยกว่า 30% เป็นไปตามมติ ครม. เพื่อสนับสนุนสิ่งประดิษฐ์ฝีมือคนไทย รพ.รัฐต้องดำเนินการตามมติ ครม. อยู่แล้ว
สืบเนื่องจากกรณี เพจเฟซบุ๊ก สมาพันธ์แพทย์ รพ.ศูนย์/รพ.ทั่วไป เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2568 โพสต์ข้อความว่า สปสช. กำชับ! โรงพยาบาลทั่วประเทศต้องซื้อ บัญชีนวัตกรรมไทย ไม่น้อยกว่า 30% อาจถึง 100% จุดชนวนถกประสิทธิภาพของไทย VS ต่างชาติ นั้น
ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการ สปสช. ในฐานะโฆษก สปสช. เปิดเผยว่า สปสช. ขอชี้แจงว่า เป็นการให้ข้อมูลที่คลาดเคลื่อน ชี้นำให้เกิดความเข้าใจผิด ทั้งนี้การสนับสนุนบัญชีนวัตกรรมไทยนั้น สปสช. ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2560 ด้านการบริหารราชการแผ่นดินและอื่น ๆ ที่เร่งรัดแต่ละหน่วยงานจัดซื้อจัดจ้างผลิตภัณฑ์และบริการนวัตกรรมให้ตรงกับความต้องการหน่วยงานตามความจำเป็นและเหมาะสม โดยอย่างน้อยในอัตราส่วน 30% ของความต้องการใช้งานทั้งหมดของหน่วยงาน
ต่อมามติ ครม.วันที่ 8 มกราคม 2562 กระทรวงการคลังได้กำหนดแนวทางปฏิบัติในการจัดซื้อยาหรือเวชภัณฑ์ที่มิใช่ยาซึ่งได้ขึ้นบัญชีนวัตกรรมไทย โดยให้หน่วยงานของรัฐจัดซื้อผลิตภัณฑ์ยาหรือเวชภัณฑ์ที่มิใช่ยาซึ่งขึ้นบัญชีนวัตกรรมไทย มูลค่ารวมไม่น้อยกว่า 30% ของแผนความต้องการจัดซื้อยาตามชื่อสามัญ (generic name)หรือเวชภัณฑ์ที่มิใช่ยารายการที่ตรงกับบัญชีนวัตกรรมไทยทั้งหมดของหน่วยงานนั้น
ดังนั้น การที่ระบุว่า สปสช. กำชับโรงพยาบาลทั่วประเทศต้องซื้อสินค้าบัญชีนวัตกรรมไทยไม่น้อยกว่า 30% จึงเป็นการให้ข้อมูลคลาดเคลื่อนและชี้นำให้เกิดความเข้าใจผิด เนื่องจาก สปสช. ไม่ได้กำชับ แต่เป็นการดำเนินการที่โรงพยาบาลในฐานะหน่วยงานรัฐต้องดำเนินการตามมติ ครม. อยู่แล้ว เพื่อสนับสนุนสิ่งประดิษฐ์ฝีมือคนไทยที่ได้มาตรฐาน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- บอร์ด สปสช. เคาะจ่ายล่วงหน้า รพ.ขอนแก่น 242 ล้าน ดูแลผู้ป่วยสิทธิบัตรทอง
- สปสช. แจงแนวทางดูแลผู้ป่วยโควิด-19 สิทธิบัตรทอง ย้ำเลิก 'เจอแจกจบ' แล้ว
- บัตรทอง 30 บาทเฮ!! สปสช. เพิ่มรพ.เอกชน 5 แห่ง ให้บริการ ลงทะเบียนได้เลย
ติดตามเราได้ที่