กุฏิเจ้าอาวาสปิดเงียบ หลัง ปปป. เตรียมเข้าตรวจสอบเส้นทางการเงินของวัด
กุฏิเจ้าอาวาสปิดเงียบ หลัง ปปป. เตรียมเข้าตรวจสอบเส้นทางการเงินของวัด พร้อมขอข้อมูลจาก อดีตเจ้าอาวาสวัดชูจิตธรรมาราม
(14 ก.ค. 2568) จากกรณี พระเทพพัชราภรณ์ ลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดชูจิตธรรมาราม จ.พระนครศรีอยุธยา หลังตกเป็นข่าวว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับสีกากอล์ฟ เพื่อขอเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบข้อเท็จ เช้านี้ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่วัดชูจิตธรรมมาราม ไปดูที่กุฎิเจ้าอาวาสแต่ไม่มีใครอยู่ ประตูถูกล็อกไว้ทั้งสองฝั่ง จากการสังเกตเห็นว่ามีพรมเช็ดเท้าถูกพาดเก็บไว้ ชั้นล่างมีข้าวของวางกระจัดกระจายคล้ายไม่ได้ใช้งานมานาน ขณะเดียวกันทีมข่าวพยายามตามหาไวยาวัจกรของวัดแต่ไม่พบตัวเช่นกัน พอถามคนดูแลวัดก็บอกว่าไม่ทราบ
ส่วนในช่วงบ่ายมีรายงานว่ากองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) และ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) จะลงพื้นที่วัดชูจิตธรรมาราม นำหนังสือขอตรวจสอบเส้นทางการเงินมายื่นให้อดีตเจ้าอาวาส แต่หากไม่พบก็จะยื่นให้คนดูแลวัดแทน
ขณะเดียวกันเช้านี้ตำรวจ ปปป. ลงพื้นที่ วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร กรุงเทพฯ ขอเส้นทางการเงินของวัด และวันนี้ตำรวจสอบสวนกลางร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะลงพื้นที่วัดที่เกี่ยวข้องกับสีกากอล์ฟที่ จ.พิจิตร และ จ.พิษณุโลก เพื่อไปติดตามความคืบหน้าทางคดี ซึ่งมีข้อมูลว่าขณะนี้พระที่มีหลักฐานเชื่อมโยงกับสีกากอล์ฟที่ยังไม่ยอมลาสิกขา ประกอบด้วย พระเทพวัชราภรณ์ วัดชูจิตธรรมาราม จ.พระนครศรีอยุธยา, พระเทพวัชรสิทธเมธี วัดท่าหลวง จ.พิจิตร, พระราชรัตนสุธี วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.พิษณุโลก, พระมหาทิวากร ดีไพร วัดใหญ่จอมปราสาท จ.สมุทรสาคร, พระเทพปวรเมธี วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร กรุงเทพฯ