“พีระพล” ผงาดรั้งอันดับ 1 เอเชียจักรยานทางไกลอินโดนีเซีย
“เสธ.หมึก” พลเอก เดชา เหมกระศรี รองประธานสมาพันธ์จักรยานแห่งเอเชีย (ACC), ประธานสหพันธ์จักรยานแห่งอาเซียน (ACF) และนายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า ตามที่สมาคมกีฬาจักรยานฯ ส่งนักกีฬาจักรยานประเภทถนนทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ไปแข่งขันจักรยานทางไกล “ทัวร์ เดอ บันยูวังกี อีเจน” ที่ประเทศอินโดนีเซีย ระหว่างวันที่ 28-31 กรกฎาคม ล่าสุด ได้รับรายงานจาก “โค้ชตั้ม” วิสุทธิ์ กสิยะพัท ผู้จัดการทีมและผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม นักปั่นทีมชาติไทยลงแข่งขันในสเตจที่ 2 ระยะทาง 158.8 กิโลเมตร เป็นทางเรียบตั้งแต่จุดสตาร์ตไปจนถึงกิโลเมตรที่ 120 หลังจากนั้นจะเป็นทางปั่นขึ้นเขา และมีฝนตกลงมาเกือบตลอดทาง
พลเอก เดชา กล่าวว่า ช่วงก่อนเข้าเส้นชัยมีกลุ่มนำอยู่ 18 คน มีนักปั่นไทยอยู่ 3 คน ประกอบด้วย พ.อ.อ.พีระพล ชาวเชียงขวาง, ส.ท.สราวุฒิ สิริรณชัย และ ส.ท.ธนาคาร ไชยยาสมบัติ ส่วน ร.ต.อ.นวุติ ลี้พงษ์อยู่ และนายจูดาห์ ทอมป์สัน เกาะอยู่กลุ่มใหญ่ ช่วง 300 เมตรสุดท้ายนักปั่นกลุ่มนำต่างเร่งสปรินท์แย่งกันเข้าเส้นชัย ผลปรากฏว่า ส.ท.สราวุฒิ เข้ามาเป็นอันดับ 6, พ.อ.อ.พีระพล เข้าอันดับที่ 7 และ ส.ท.ธนาคาร เข้าอันดับที่ 13 ด้วยเวลา 3.46.41 ชั่วโมงเท่ากัน ขณะที่แชมป์สเตจที่ 2 ตกเป็นของ ฟรานเชสโก คาโรลโล นักปั่นอิตาลีจากทีม SWATT CLUB ขณะที่ เจอโรน ไมเยอร์ส นักปั่นชาวเนเธอร์แลนด์จากทีมวิกตอเรีย สปอร์ต โปร ไซคลิง ของฟิลิปปินส์ เจ้าของ “เสื้อเหลือง” ในวันแรก เข้าอันดับที่ 3 ด้วยเวลา 3.46.41 ชั่วโมง เช่นเดียวกัน
นายกสองล้อไทย กล่าวอีกว่า ด้านผู้นำเวลารวมก็ยังเป็นของ เจอโรน ไมเยอร์ส ด้วยเวลา 6.24.44 ชั่วโมง ได้ครอง “เสื้อเหลือง” ต่อไป โดยมี “มะตูม” พ.อ.อ.พีระพล ชาวเชียงขวาง ขึ้นมาจากอันดับ 4 มาอยู่อันดับ 3 เวลา 6.25.02 ชั่วโมง พร้อมกับรั้งอันดับ 1 ของนักปั่นเอเชีย หรือ เบสต์เอเชีย ด้วยเวลา 6.25.02 ชั่วโมง ส่วน ส.ท.ธนาคาร รั้งอันดับที่ 10 เวลารวม 6.25.39 ชั่วโมง และจากการที่นักปั่นไทย 3 คน เข้าเส้นชัยพร้อมกันในกลุ่มแรก ส่งผลให้คะแนนรวมของทีมชาติไทยขยับจากอันดับ 3 ขึ้นมาอยู่อันดับที่ 2 ด้วยเวลารวม 19.18.56 ชั่วโมง ส่วนทีมนำเวลารวมเป็นของทีม SWATT CLUB จากอิตาลี เวลา 19.15.12 ชั่วโมง
พลเอก เดชา กล่าวว่า การแข่งขันยังเหลืออีก 2 สเตจ แต่เป็นเส้นทางที่โหดกว่า 2 สเตจแรกมาก เนื่องจากต้องปั่นขึ้นเขาและเส้นทางแคบมาก อย่างไรก็ตามต้องขอชื่นชมนักปั่นไทยทั้ง 5 คน ที่ช่วยกันทำหน้าที่อย่างดีที่สุด โดย 3 คนแรก ทั้ง พีระพล, สราวุฒิ และธนาคาร มาช่วยกันลากในกลุ่มนำ ทำให้เวลารวมประเภททีมเราขึ้นมาเป็นที่ 2 เบียดสู้กับทีมจากอิตาลี แต่นักปั่นอีก 2 คน ทั้ง จูดาห์ และนวุติ ก็ช่วยเหลือทีมทั้งรับน้ำและปั่นเกาะกลุ่มใหญ่เอาไว้ สำหรับสเตจที่ 3 เส้นทางจากเมืองเกล็นมอร์ไปยังเมืองบันยูวังกี ระยะทาง 140.3 กิโลเมตร นักปั่นไทยมีหัวใจนักสู้ทุกคน และจะทำหน้าที่อย่างเต็มที่เพื่อสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศไทย.