แรชฟอร์ด ลงตรงไหนดี? เจาะ4ทางเลือก บาร์ซ่า ใช้งานแข้งใหม่
แม้จะมีตัวรุกในทีมคับคั่งอยู่แล้ว แต่แชมป์ ลา ลีกา ยังต้องการได้สตาร์จอมบุกมาเพิ่มเติมอีกราย และกลายเป็นว่า แรชฟอร์ด ได้ย้ายสู่ถิ่น คัมป์นู สมใจ หลังจาก ฮันซี่ ฟลิค นายใหญ่ชาวเมืองไส้กรอกพลาดได้สองเป้าหมายแรกทั้ง นิโก้ วิลเลี่ยมส์ และ หลุยส์ ดิอาซ
หลังถูก ผีแดง ส่งให้ แอสตัน วิลล่า ยืมไปใช้งานในครึ่งหลังของซีซั่นที่ผ่านมาไม่มีใครการันตีได้ว่า แรชฟอร์ด ซึ่งไม่อยู่ในแผนของ รูเบน อโมริม จะมีที่ให้ลงอย่างถาวรในทีมยักษ์ของลีกกระทิงดุหรือไม่
อย่างไรก็ดี มีความเป็นไปได้ที่ บาร์ซ่า อาจใช้งานดาวยิงทีมชาติ อังกฤษ ด้วยสี่ทางเลือกดังนี้
1. แรชฟอร์ด-เลวานดอฟสกี้-ราฟินญ่า หรือ ยามาล
เป็นที่รู้กันดีว่าตำแหน่งที่ดีที่สุดของ แรชฟอร์ด คือปีกซ้ายโดยเจ้าตัวเคยยอมรับเช่นกันว่าชื่นชอบบทบาทนี้มากที่สุด
"ผมชอบเล่นทางซ้าย ผมรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องง่ายที่ผมจะได้อยู่ในเกม" เด็กปั้นของ แมนฯ ยูไนเต็ด ระบุ
"นับตั้งแต่เป็นเด็ก ผมต้องการอยู่ในเกมเสมอ ด้วยเหตุนี้ผมจึงไม่ชอบเล่นเป็นกองหน้าเพราะผมทนไม่ได้ที่ต้องรอการรับบอล"
หาก แรชฟอร์ด ได้โลดแล่นทางซ้าย ราฟินญ่า ก็จะถูกโยกไปเล่นทางขวาซึ่งไม่น่าจะเป็นปัญหามากนักเนื่องจากสตาร์ทีมชาติ บราซิล เคยเล่นเป็นปีกขวาให้ ลีดส์ ก่อนย้ายมารุ่งสุดขีดกับ บาร์ซ่า ในฐานะปีกซ้าย
แถมดีไม่ดี ราฟินญ่า อาจกระทุ้งประตูได้มากขึ้นด้วยซ้ำในฐานะนักเตะถนัดเท้าซ้ายซึ่งสามารถกระชากบอลตัดจากกราบขวาเข้ามาส่องยิงด้วยเท้าข้างถนัด
อย่างไรก็ดี หากเป็นสูตรนี้ ราฟินญ่า จะต้องแย่งตำแหน่งกับ ลามีน ยามาล เจ้าหนูวัย 18 ปีซึ่งปีก่อนปีก่อนสอยตาข่ายได้ 18 ลูกภายใต้บทบาทปีกขวา
และเพื่อทำให้เด็กในอะคาเดมี่เติบใหญ่อย่างต่อเนื่อง ฟลิค อาจต้องใช้วิธีสลับให้ ราฟินญ่า กับ ยามาล ลงสนามเพื่อไม่ให้ดาวรุ่งพุ่งแรงหยุดการพัฒนาฝีเท้า
สำหรับ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ดาวยิงวัย 36 ปีซึ่งกระหน่ำประตูได้ 42 เม็ดเมื่อซีซั่นก่อนจะลอยตัวในระบบนี้เนื่องจากเขาจะได้เล่นเป็นกองหน้าตัวเป้าให้กับทีมตามเดิม
2.ราฟินญ่า-แรชฟอร์ด-ยามาล
แม้จะถนัดเล่นทางซ้าย แต่ แรชฟอร์ด มีศักยภาพสามารถสวมบทหัวหอกได้เช่นกันโดยทั้งสี่ประตูที่เขายิงให้กับ แอสตัน วิลล่า ได้ล้วนมาจากการเล่นเป็นกองหน้าทั้งสิ้น
ขณะเดียวกัน เลวานดอฟสกี้ จะมีอายุ 37 ปีในเดือนส.ค.บาร์ซ่า จึงน่าจะหวังถนอมความฟิตของเขาเอาไว้ให้มากที่สุดเพื่อไม่ให้กองหน้าทีมชาติ โปแลนด์ บอบช้ำเกินไป
ไม่เพียง แรชฟอร์ด เท่านั้น หากแต่ เฟร์ราน ตอร์เรส พร้อมโรเตชั่นตำแหน่งหัวหอกได้เช่นกัน แต่ที่แน่ๆดาวเตะอิงลิชมีประสบการณ์เล่นเป็นศูนย์หน้ามากกว่าอดีตขุนพลทีม แมนฯ ซิตี้ เกินกว่า 100 นัด
หากเป็นสูตรดังกล่าว ยามาล จะได้เล่นทางขวา ขณะที่ ราฟินญ่า จะขึ้นเกมทางซ้ายเช่นเดิม
3.ราฟินญ่า หรือ แรชฟอร์ด-เลวานดอฟสกี้-ยามาล
ในฐานะนักเตะใหม่ แรชฟอร์ด ไม่มีทางคุ้นชินกับระบบการเล่นอันเป็นเอกลักษ์เฉพาะตัวของยอดทีมแห่ง ลา ลีกา และเขาอาจต้องเป็นตัวสำรองของ ราฟินญ่า ไปพลางๆก่อนในช่วงแรก หรืออาจได้สลับกันลงเล่นกับดาวเตะแซมบ้า
ในเมื่อ แรชฟอร์ด เหมาะกับการเล่นทางซ้ายมากที่สุดก็ไม่มีความจำเป็นที่ ฟลิค จะต้องเปลี่ยนตำแหน่งของเขา และสมควรเลือกใช้งานเขาสลับกับ ราฟินญ่า เนื่องจากฟุตบอลยุคใหม่มีเกมให้ลงเล่นถี่ยิบในแต่ละซีซั่น
ฉะนั้นแล้ว เลวานดอฟสกี้ กับ ยามาล จะได้ลงเล่นเป็นตัวจริงรวมถึง ราฟินญ่า ด้วยหากกุนซือด๊อยทช์ไม่คิดรีบร้อนใช้งานกองหน้าทีมชาติ อังกฤษ ในฐานะ 11 คนแรก
4. แรชฟอร์ด-เลวานดอฟสกี้-ยามาล , ราฟินญ่า
สุดท้ายแล้วยังมีความเป็นไปได้เช่นกันที่ ฟลิค จะส่งสี่ตัวรุกลงสนามพร้อมกันทั้งหมดในฐานะ 11 คนแรก
นั่นคือการส่ง แรชฟอร์ด ลงเล่นทางซ้ายโดยมี เลวานดอฟสกี้ ล่าตาข่าย ขณะที่ ยามาล ประจำการณ์ทางด้านขวา
สำหรับ ราฟินญ่า เขาอาจถูกใช้งานในฐานะหน้าต่ำหรือ ฟอลส์ นายน์ ให้อยู่ต่ำลงมาจากกองหน้าจอมเก๋าตามระบบ 4-2-3-1 ซึ่งอาจทำให้ทีมดังของกาตาลันน่ายำเกรงมากขึ้นด้วยซ้ำ