สงขลาอ่วม! บุหรี่เถื่อนระบาด สูญเสียรายได้ภาษีกว่า 70 ล้าน “อบจ.สงขลา”เร่งผนึกกำลังปราบปราม
สงขลา ได้ชื่อว่าเป็น "เมืองหลวงบุหรี่เถื่อนของไทย" ไม่ใช่แค่แหล่งนำเข้า แต่ยังเป็น ต้นทางหลัก ในการกระจายบุหรี่เถื่อนผ่านพัสดุไปยังทั่วประเทศ ปัญหานี้เกิดจาก ทำเลที่ตั้ง ของสงขลา ซึ่งมีพรมแดนติดประเทศเพื่อนบ้านทั้งทางบกและทางทะเล ทำให้การลักลอบนำเข้าบุหรี่หนีภาษีทำได้ง่าย ทั้งรูปแบบการลักลอบมีหลากหลายทั้งทางบก และการขนถ่ายทางทะเล ซึ่งเป็นความท้าทายอย่างยิ่งต่อการปราบปราม.
ปัจจุบัน พบว่ามี ร้านค้าบุหรี่เถื่อนเปิดขายอย่างโจ่งแจ้ง ในหลายพื้นที่ของจังหวัด ซึ่งเป็นผลพวงมาจากสถานะการเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจนี้จากผลสำรวจล่าสุด สถานการณ์บุหรี่ผิดกฎหมายในสงขลาอยู่ในขั้นวิกฤต โดยพบว่าจังหวัดสงขลามี อัตราความชุกของบุหรี่ผิดกฎหมายสูงเป็นอันดับ 2 ของประเทศ คิดเป็นสัดส่วนถึง 90.8% เป็นรองเพียงจังหวัดสตูลเท่านั้น ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความรุนแรงของปัญหาที่จังหวัดสงขลากำลังเผชิญ ซึ่งไม่เพียงส่งผลกระทบต่อรายได้ภาษีของรัฐ แต่ยังเป็นภัยต่อสุขภาพของประชาชนและบั่นทอนความน่าเชื่อถือทางเศรษฐกิจของพื้นที่อีกด้วย
วันที่ 18 กรกฎาคม 2568 สมาคมการค้ายาสูบไทย พร้อมด้วยภาคีเครือข่ายชาวไร่ยาสูบแห่งประเทศไทย และคณะสื่อมวลชน ได้ลงพื้นที่จังหวัดสงขลาเพื่อสำรวจ "สถานการณ์บุหรี่ผิดกฎหมาย" ที่กำลังเป็นปัญหาอย่างหนักในพื้นที่ การลงพื้นที่ครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อรวบรวมข้อมูลและทำความเข้าใจถึงสถานการณ์จริงของบุหรี่เถื่อนที่ระบาดในสงขลา ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นจุดศูนย์กลางสำคัญของการลักลอบและกระจายสินค้าผิดกฎหมายประเภทนี้ นอกจากนี้ยังได้เข้าพบ นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา เพื่อหารือและขอทราบแนวทางการแก้ไขปัญหาบุหรี่ผิดกฎหมายในพื้นที่ ซึ่งส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางต่อเศรษฐกิจ รายได้ภาษีของรัฐ และสุขภาพของประชาชน
นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา เปิดเผยถึงปัญหาบุหรี่หนีภาษีที่เรื้อรังมานานจนกลายเป็นปัญหาระดับจังหวัด แม้ตนจะเพิ่งเข้ารับตำแหน่งได้ไม่นาน แต่ก็รับทราบถึงความรุนแรงของปัญหานี้เป็นอย่างดี
"ปัญหาบุหรี่หนีภาษีมีมานานแล้ว หากทุกหน่วยงานมีความจริงจังในการแก้ไข ปัญหาแบบนี้จะไม่เกิดขึ้น" นายก อบจ.สงขลากล่าว
ในส่วนของ อบจ.สงขลา หลังรับทราบปัญหาอย่างถ่องแท้ จะดำเนินมาตรการเชิงรุก โดยเตรียมออกหนังสือประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ ผู้ว่าราชการจังหวัด ฝ่ายปกครอง ศุลกากร สรรพากร และตำรวจ เพื่อเชิญมาหารือถึงผลกระทบจากบุหรี่เถื่อน ทั้งในมิติเศรษฐกิจ สังคม และสุขภาพ พร้อมร่วมกันหาแนวทางในการขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาให้เป็นรูปธรรมต่อไป
นางสาวธัญญศรัณ แสงทอง ผู้อำนวยการบริหารสมาคมการค้ายาสูบไทย เปิดเผยถึงวัตถุประสงค์ของการลงพื้นที่สำรวจสถานการณ์บุหรี่เถื่อนในครั้งนี้ว่า เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับสื่อมวลชนเกี่ยวกับปัญหาบุหรี่เถื่อนที่กำลังระบาดหนักในพื้นที่ภาคใต้ โดยเฉพาะใน จังหวัดสงขลา โดยจังหวัดสงขลามีอัตราการบริโภคบุหรี่เถื่อนสูงเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศติดต่อกันมาหลายปี ซึ่งปัญหาดังกล่าวไม่เพียงส่งผลกระทบต่อรายได้ภาษีของรัฐ แต่ยังกระทบอย่างรุนแรงต่อ ร้านค้าที่ดำเนินธุรกิจอย่างถูกกฎหมาย และ การพัฒนาส่วนท้องถิ่น อีกด้วย การลงพื้นที่ครั้งนี้จึงมุ่งหวังให้ทุกฝ่ายรับทราบถึงผลกระทบเหล่านี้ เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม
สงขลากำลังเผชิญกับสถานการณ์บุหรี่เถื่อนขั้นวิกฤต โดยผลสำรวจล่าสุดใน ไตรมาสที่ 1 ปี 2568 ชี้ว่า จังหวัดสงขลามีความชุกของบุหรี่เถื่อนสูงถึง 90.8% รั้งอันดับ 2 ของประเทศ เป็นรองเพียงจังหวัดสตูลเท่านั้น ตัวเลขที่น่าตกใจนี้ทำให้เกิดคำถามสำคัญว่า เหตุใดบุหรี่เถื่อนจึงกลายเป็นเรื่องปกติในสงขลา? เบื้องหลังคืออะไร และใครคือผู้ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากขบวนการนี้? อัตราบริโภคบุหรี่ผิดกฎหมายทั่วประเทศพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากการสำรวจซองบุหรี่เปล่า (Empty Pack Survey - EPS) ในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 พบว่า สัดส่วนการบริโภคบุหรี่ผิดกฎหมาย (ทั้งบุหรี่ที่ไม่เสียภาษีในประเทศไทยและบุหรี่ปลอม) ทั่วประเทศพุ่งสูงขึ้นถึง 28.1% ซึ่งเป็นอัตราที่ สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ นับตั้งแต่มีการสำรวจมาในประเทศไทย โดยเพิ่มขึ้นถึง 2.7% จากการสำรวจครั้งก่อนหน้าในไตรมาสที่ 3 ปี 2567 ซึ่งขณะนั้นอยู่ที่ 25.4%
ตัวเลขเหล่านี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าปัญหาบุหรี่ผิดกฎหมายยังคงเป็นประเด็นสำคัญที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน เนื่องจากมีความรุนแรงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ภาคใต้คือแหล่งใหญ่ บุหรี่ผิดกฎหมายกระจุกตัวใน 5 จังหวัด พื้นที่ภาคใต้ยังคงเป็นภูมิภาคที่พบสัดส่วนการบริโภคบุหรี่ผิดกฎหมายเทียบกับจำนวนประชากรของจังหวัดมากที่สุดในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยมากกว่า 60% ของบุหรี่ผิดกฎหมาย ทั้งหมดถูกพบใน 5 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่: สตูล 94.4% สงขลา 90.8% พัทลุง 82.3% ภูเก็ต 73.3% นครศรีธรรมราช 61.1% ตัวเลขเหล่านี้บ่งชี้ถึงความชุกชุมของบุหรี่ผิดกฎหมายในจังหวัดเหล่านี้ ซึ่งเป็นสัญญาณอันตรายต่อเศรษฐกิจ สุขภาพประชาชน และความมั่นคงของประเทศ
นางสาวธัญญศรัณ แสงทอง ผู้อำนวยการบริหารสมาคมการค้ายาสูบไทย ยังเปิดเผยถึงผลกระทบจากปัญหาบุหรี่เถื่อนที่ทำให้การจัดเก็บภาษีสรรพสามิตในจังหวัดสงขลาลดลงอย่างน่าใจหาย
"จากเดิมที่เคยจัดเก็บภาษีได้สูงสุดถึง 80 ล้านบาท ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา แต่ ณ สิ้นปี 2567 กลับจัดเก็บได้เพียง 7 ล้านบาท เท่านั้น เท่ากับว่าเราสูญเสียรายได้ภาษีไปกว่า 70 ล้านบาท" นางสาวธัญญศรัณกล่าวเน้นย้ำ
เงินภาษีจำนวนมหาศาลนี้ควรจะสามารถนำมาพัฒนาท้องถิ่นสงขลาได้ แต่กลับต้องสูญเสียไปเพราะบุหรี่เถื่อน นอกจากนี้ ปัญหายังส่งผลกระทบโดยตรงต่อ ร้านค้าและเอเย่นต์จำหน่ายบุหรี่ที่ถูกต้องตามกฎหมายกว่า 400,000 ราย ทั่วประเทศ ซึ่งได้รับความเสียหายจากยอดขายที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง