‘กระทรวงวัฒนธรรมเขมร’ แถลงโต้!! ‘แพทองธาร’ ยัน!! กลุ่มปราสาทตาเมือน อยู่ในเขตอธิปไตยกัมพูชา
(5 ก.ค. 68) เว็บไซต์ข่าว Khmer Times อ้างคำแถลงจากกระทรวงวัฒนธรรมและศิลปกรรมแห่งกัมพูชาวานนี้ (4 ก.ค.) ซึ่งระบุว่า กระทรวงฯ ขอปฏิเสธอย่างหนักแน่นต่อคำกล่าวอ้างของ น.ส. แพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมของไทย เมื่อวันที่ 4 ก.ค. ที่ระบุว่ากลุ่มปราสาทตาเมือน อยู่ภายใต้อธิปไตยของประเทศไทย และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานตั้งแต่ปี พ.ศ. 2505
กระทรวงวัฒนธรรมและศิลปกรรมแห่งกัมพูชาได้เผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์เมื่อคืนวันศุกร์ (4) ว่า การที่ไทยอ้างกรรมสิทธิ์เหนือกลุ่มปราสาทตาเมือนเพียงฝ่ายเดียว โดยอาศัยแผนที่ที่ร่างขึ้นฝ่ายเดียวนั้น 'ไม่มีน้ำหนักทางกฎหมาย' หรือความชอบธรรมใดๆ และยังขัดแย้งกับเนื้อหาในบันทึกความเข้าใจ (MoU) ปี 2543 ระหว่างทั้งสองฝ่าย ซึ่งทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะเคารพและใช้แผนที่มาตราส่วน 1:200,000 ตามเจตนารมณ์ของสนธิสัญญาฝรั่งเศส-สยาม ปี ค.ศ. 1904 และสนธิสัญญาฝรั่งเศส-สยาม ปี ค.ศ. 1907 ซึ่งยังคงมีผลบังคับใช้อยู่
กระทรวงฯ ยังยืนยันด้วยว่า จากสนธิสัญญาฝรั่งเศส-สยามในปี ค.ศ. 1904 และ 1907 รวมถึงแผนที่มาตราส่วน 1:200,000 ดังกล่าวข้างต้น กลุ่มปราสาทตาเมือนตั้งอยู่ในเขตอธิปไตยของราชอาณาจักรกัมพูชาโดยสมบูรณ์ นอกจากนี้ กลุ่มปราสาทตาเมือนยังเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดอุดรมีชัย และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นส่วนหนึ่งของมรดกแห่งชาติกัมพูชาแล้ว
กระทรวงวัฒนธรรมและศิลปกรรมกัมพูชาเรียกร้องให้กระทรวงวัฒนธรรมแห่งราชอาณาจักรไทยเคารพหลักการสากล เพื่อรักษาศักดิ์ศรีและความเป็นมืออาชีพที่ถูกคาดหวังจากสถาบันทางวัฒนธรรมในทุก ๆ ประเทศ
“ดังที่ได้กล่าวมาข้างต้น เราขอแจ้งให้ผู้ชมทั้งในประเทศและต่างประเทศทราบด้วยความเคารพ”
ท่าทีของฝ่ายกัมพูชามีขึ้นหลังจากที่ น.ส. แพทองธาร ชินวัตรนายกรัฐมนตรี และ รมว.วัฒนธรรม ได้ประชุมร่วมกับผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรมเมื่อวันศุกร์ (4) และมีการอ้างถึงมติ ครม.สมัยนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ที่เห็นชอบให้ส่งมอบโบราณวัตถุ 20 รายการแก่กัมพูชาตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ หลังจากกรมศิลปากรและคณะผู้เชี่ยวชาญยืนยันว่าวัตถุโบราณมีต้นกำเนิดในกัมพูชา และปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการจัดสรรงบประมาณของกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม ในการจัดส่งคืน ซึ่งได้รับรายงานว่า งบประมาณในปีปัจจุบันไม่เพียงพอในการขนส่ง และไม่เป็นเรื่องเร่งด่วนในการของบกลาง จึงอาจจะทบทวนเรื่องนี้ ต้องส่งเรื่องเพื่อขอตั้งงบประมาณของกระทรวงและรายงานต่อครม.เพื่อทราบ ในการหาหน่วยงาน หรือที่มาของงบประมาณที่จะจัดสรรงบประมาณต่อไปในการส่งคืน
“ที่สำคัญเนื่องด้วยสถานการณ์ไทยกัมพูชา ทางกระทรวงวัฒนธรรม จึงมีความเห็นในการทบทวนเรื่องดังกล่าวตามความเหมาะสมต่อไป บทสรุปคือ ทบทวนก่อนแล้วค่อยว่ากันเรื่องตั้งงบ ที่เหลืออยู่ยังไม่ส่งคืนก่อน"
น.ส.แพทองธาร ยังกล่าวด้วยว่า ประเด็นเรื่องโบราณสถานในกลุ่มปราสาทตาเมือน กระทรวงวัฒนธรรมขอยืนยันว่ากลุ่มปราสาทตาเมือนเป็นโบราณสถานที่อยู่ในอำนาจอธิปไตยของไทย และมีการประกาศขึ้นทะเบียนโบราณสถานตามกฎหมายว่าด้วยโบราณสถาน พ.ศ. 2505 แล้ว ในส่วนพื้นที่พิพาทอื่นได้รับรายงานจากกระทรวงการต่างประเทศว่า จะเร่งดำเนินการในการรักษาไว้ซึ่งดินแดนและอำนาจอธิปไตยของไทยเช่นกัน