ศึกประมูล 4G-5G จบแล้ว! True คว้าคลื่น 2300 MHz และ 1500 MHz ด้วยราคา 2.6 หมื่นล้าน ส่วน AIS คว้า 2100 MHz ในราคา 14.8 หมื่นล้าน
เสร็จสิ้นไปเรียบร้อยแล้วสำหรับการประมูลคลื่นความถี่ (Spectrum Auction) สำหรับกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากล คลื่นความถี่ย่าน 850 MHz, 1500 MHz, 2100 MHz และ 2300 MHz ที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (สำนักงาน กสทช.) ในวันนี้ (29 มิถุนายน 2568)
ผลอย่างไม่เป็นทางการที่เป็นข้อมูลจากผู้เข้าร่วมประมูลจำนวน 2 รายคือ True และ AIS ปรากฏว่า ทั้งคู่เลือกประมูลคลื่นที่ไม่ซ้ำกันเลย
โดยทาง True นั้นได้คลื่น 2300 MHz จำนวน 70 MHz ด้วย ราคา 21,770,000,168 บาท จะนำมาให้บริการได้ทั้ง 5G และ 4G โดยใช้โครงสร้างพื้นฐานและอุปกรณ์ที่ True มีอยู่แล้ว รวมถึงสามารถนำมาเพิ่มศักยภาพ 5G ของคลื่น 2600 MHz ให้เป็น 5G เต็มประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ยังมีคลื่น 1500 MHz จำนวน 20 MHz ด้วยราคา 4,653,960,168 ล้านบาท ซึ่ง ซิกเว่ เบรกเก้ ประธานคณะผู้บริหารกลุ่ม บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ระบุว่า เป็นคลื่นใหม่ที่เหมาะสำหรับการพัฒนาเครือข่ายสู่อนาคต มีจุดเด่นในการเสริมประสิทธิภาพเทคโนโลยี 5G และต่อยอดการใช้งาน 4G
คลื่นดังกล่าวสามารถนำมาใช้งานเพื่อเพิ่มความจุของเครือข่ายและเพิ่มความครอบคลุมในช่วงดาวน์โหลด รองรับการใช้งานดาต้าที่เพิ่มขึ้นทั้งในพื้นที่หนาแน่นและนอกเมือง
“เราสามารถนำคลื่น 1500 MHz รวมกับคลื่นอื่น หรือ เทคโนโลยี Carrier Aggregation ส่งผลให้ผู้ใช้งานได้รับอินเทอร์เน็ตที่เร็วขึ้นแม้อยู่ในพื้นที่แออัด มีสัญญาณเสถียรและลดปัญหาเน็ตช้าในช่วงเวลาพีค” ซิกเว่ ระบุ
ขณะที่บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด (AWN) ในเครือ AIS ชนะการประมูลคลื่นความถี่ 2100 MHz จำนวน 3 ชุด รวม 30 MHz ในราคา 14,850 ล้านบาท
สมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร AIS กล่าวว่า เรายินดีที่ชนะการประมูลในครั้งนี้ ที่ได้คลื่นความถี่ที่ต้องการและสามารถใช้งานได้ทันทีในปัจจุบัน ในราคาที่เหมาะสมสำหรับการลงทุนในระยะยาว
การได้รับใบอนุญาตคลื่นความถี่ 2100 MHz จะทำให้ AIS สามารถรองรับการใช้งานของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เครือข่าย 5G ของ AIS นอกจากมีความครอบคลุมที่ดีแล้ว ยังเพิ่มประสบการณ์การใช้งานที่ดีให้กับลูกค้าของเรา ทั้งในด้านคุณภาพ ความเร็ว และสามารถรองรับเทคโนโลยีต่างๆ ในอนาคตได้เป็นอย่างดี
“การประมูลครั้งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นของ AIS ในการลงทุนพัฒนาเครือข่ายและนวัตกรรม โดยมีแผนพร้อมนำคลื่นที่ได้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดทันที ทั้งในเชิงการให้บริการ การขยายเครือข่าย และการต่อยอดนวัตกรรม เพื่อให้คนไทยได้เข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างเท่าเทียม”
อย่างไรก็ตาม กสทช. จะต้องมีการประชุมเพื่อมีมติรับรองผลการประมูลต่อไป ซึ่งคาดว่าจะประกาศภายใน 6 กรกฎาคม ก่อนที่ในช่วง 7 – 29 กรกฎาคม ผู้ชนะการประมูลชำระเงินงวดที่ 1 และ 4 สิงหาคม เริ่มต้นการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่
สำหรับการชำระเงินทาง กสทช. ระบุว่า สำหรับรายเดิมจะต้องจ่ายงวด 1 ในสัดส่วน 50% และงวด 2-3 อีกงวดละ 25% แต่ถ้าเป็นรายได้จะแบ่งเป็น 10 งวด คิดเป็นงวดละ 10% พร้อมกันนี้ยังมีแผนให้ขยายโครงข่าย 50% ภายใน 2 ปี, 80% ภายใน 4 ปี และ 90% ภายใน 5 ปี ของจำนวนประชากรในแต่ละตำบล
ทั้งนี้คลื่นความถี่ที่นำออกมาประมูลในครั้งนี้ แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ประกอบด้วย
คลื่นความถี่ย่านต่ำ (Low Band) ได้แก่ คลื่นความถี่ ย่าน 850 MHz จำนวน 2 ชุด ชุดละ 2 x 5 MHz มีราคาขั้นต่ำต่อชุดเป็นจำนวนเงิน 7,738.23 ล้านบาท
คลื่นความถี่ย่านกลาง (Mid Band) ได้แก่ คลื่นความถี่ย่าน 2100 MHz และ 2300 MHz เป็นคลื่นความถี่ย่านที่มีการใช้งานสำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในปัจจุบัน จำนวน 3 ชุด ชุดละ 2 x 5 MHz มีราคาขั้นต่ำต่อชุดเป็นจำนวนเงิน 4,500 ล้านบาท
คลื่นความถี่ย่านกลาง (Mid Band) ย่าน 1500 MHz ซึ่งไม่มีการใช้งานสำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในปัจจุบัน จำนวน 11 ชุด ชุดละ 5 MHz มีราคาขั้นต่ำต่อชุดเป็นจำนวนเงิน 1,057.49 ล้านบาท