กทม.เผยภาพรวมการชุมนุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย บริหารจราจรตามสถานการณ์ลดผลกระทบ
กทม.เผยภาพรวมการชุมนุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย บริหารจราจรตามสถานการณ์ลดผลกระทบ แนะเลี่ยงพหลโยธินขาเข้าอนุสาวรีย์ชัยฯ
วันที่ 28 มิถุนายน 2568 นายสุนทร สุนทรชาติ รองปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นผู้แทนกรุงเทพมหานคร ร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการกองบังคับการตำรวจนครบาล 1 (ส่วนหน้า) นำโดย พล.ต.ต.ธวัช วงศ์สง่า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) แถลงความคืบหน้าสถานการณ์การชุมนุมบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
รองปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กรุงเทพมหานครได้จัดเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลความปลอดภัย และการแพทย์ตั้งแต่ช่วงเช้า ซึ่งตอนนี้มีทีมอยู่ทั้งหมด 4 ทีม ประจำแต่ละเกาะ เบื้องต้นพบผู้มีอาการเป็นลม 2-3 ราย เนื่องจากอากาศร้อน อย่างไรก็ตามขณะนี้เริ่มมีกลุ่มฝนมาจากทางตลิ่งชัน อาจส่งผลให้มีฝนตกในพื้นที่ชุมนุมได้ ทั้งนี้หากใครมีปัญหาสุขภาพหรือจะเป็นลมสามารถใช้บริการที่หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ของกรุงเทพมหานครทั้ง 4 จุด บริเวณอนุสาวรีย์ชัยฯ ได้ สำหรับการเดินทางเข้าออกโรงพยาบาลบริเวณอนุสาวรีย์ชัยฯ ยังทำได้ปกติ มีการเปิดใช้ Service Lane ให้รถพยาบาลสามารถวิ่งเข้า-ออกได้
ด้าน พล.ต.ต.ธวัช วงศ์สง่า รอง ผบช.น. เปิดเผยถึงสถานการณ์การชุมนุมบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิว่า เจ้าหน้าที่คาดการณ์จำนวนผู้ชุมนุมที่มาสมทบในช่วงเย็นวันนี้จะสูงถึง 10,000 คน ก่อนเวลา 18.00 น. ซึ่งเป็นช่วงเคารพธงชาติ โดยเมื่อเวลา 15.30 น. มีการใช้โดรนสำรวจพบผู้ชุมนุมแล้วประมาณ 6,000 คน
ส่วนด้านการจราจรและการปิดเส้นทาง
พล.ต.ต.ธวัช กล่าวว่า ในภาพรวมการจราจรโดยรอบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิยังคงเคลื่อนตัวได้ แต่มีการปรับเปลี่ยนเส้นทางการจราจรเพื่อรองรับจำนวนผู้ชุมนุมที่เพิ่มขึ้น ดังนี้
- 12.00 น. ปิดการจราจรจากถนนราชวิถี
- 14.00 น. ปิดการจราจรบนถนนพหลโยธินขาเข้า โดยปัดรถให้เลี้ยวเข้าใต้ทางด่วนดินแดง เนื่องจากมีประชาชนหนาแน่นบริเวณหน้าเวที
- หากมีการปิดการจราจรเพิ่มเติม:
- รถที่มาจากถนนพหลโยธินมุ่งหน้าอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ จะให้เลี้ยวเข้าใต้ทางด่วนดินแดง
- รถที่มาจากสามเหลี่ยมดินแดง จะให้เลี้ยวไปทางถนนราชปรารภ
- รถที่มาจากถนนราชวิถี จะให้เลี้ยวออกที่แยกตึกชัย
- รถที่มาจากถนนพญาไท จะให้เลี้ยวขวาไปเส้นจตุรทิศ
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) เปิดเผยว่า มีการตรวจยึดอาวุธ บริเวณจุดตรวจคัดกรอง ดังนี้
- ผลการตั้งจุดตรวจคัดกรองถึงเวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดอาวุธมีดได้ 7 เล่ม และคัตเตอร์ 17 เล่ม และยังสามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ของศาลอาญาได้อีก 1 ราย
- จับกุมนายพิบูลย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี ชาวกรุงเทพฯ ในข้อหาทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานและพกพาอาวุธมีดไปในที่สาธารณะ โดยสาเหตุเกิดจากไม่พอใจเจ้าหน้าที่ที่ตรวจค้นและพบอาวุธมีดที่พกมา เบื้องต้นนำตัวส่ง สน.พญาไท เพื่อดำเนินคดี
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้ควบคุมตัวแรงงานต่างด้าว 8 คน เป็นชาวเมียนมาและกัมพูชา ที่ถนนวิภาวดี นำตัวส่ง สน.ดินแดง โดยทั้งหมดให้การว่ากำลังเดินทางไปทำงานและยังไม่พบความเชื่อมโยงกับการป่วนการชุมนุม
พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวย้ำว่า สถานการณ์โดยรวมยังไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แต่เจ้าหน้าที่ยังคงปฏิบัติหน้าที่ด้วยความไม่ประมาท