ส่อหายทิพย์! คดีทองหายวัดม่วง พบมีการนำไปขายย่านเยาวราช
สำนักข่าวไทย Online
อัพเดต 22 กรกฎาคม 2568 เวลา 19.17 น. • เผยแพร่ 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา • สำนักข่าวไทย อสมทกรุงเทพฯ 22 ก.ค. – คดีทองหายที่วัดม่วง ตำรวจเจอหลักฐานบางส่วนแล้ว ว่ามีการนำทองเกือบ 200 บาท ไปขายย่านเยาวราช เจ้าอาวาสอ้างลืม
บรรยากาศที่วัดม่วงในช่วงเช้าวันนี้บรรยากาศเงียบเหงา ไม่คึกคักเหมือนก่อนหน้านี้ ขณะที่สื่อมวลชนหลายสำนัก ได้เดินทางเข้ามา ติดต่อขอพบเจ้าอาวาสวัด ขอสัมภาษณ์ หลังมีกระแสข่าวกรณีทองคำน้ำหนัก รวม 300 บาท และเงินสดอีกกว่า 10 ล้าน หายไปจากกุฎิเจ้าอาวาสเมื่อเดือนที่ผ่านมา ส่อแววพลิก โดยที่เจ้าอาวาสยังคงเก็บตัวเงียบอยู่ภายในกุฏิ
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าขณะนี้ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน ได้ซักถามและสอบสวน ผู้เกี่ยวข้องในคดีนี้เกือบทั้งหมด โดยเฉพาะการสืบสวนสอบสวนร้านทองแห่งหนึ่ง ย่านเยาวราชได้บันทึกข้อมูลในระบบของร้านว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีนี้ เมื่อช่วงเวลาเดือนเมษายนที่ผ่านมาจะมีคนนำทองคำแท่ง ประมาณ 170 บาท มาขาย โดยรับเงินสดบางส่วน และบางส่วนกว่า 5 ล้าน จ่ายเป็นเช็คเงินสด จำนวน 2 ใบๆ ละกว่า 2 ล้านบาท ของธนาคารแห่งหนึ่ง ย่านสุขาภิบาล 3 หลังจากนั้นผู้ที่เกี่ยวข้อง นำเช็ค 2 ใบดังกล่าว ไปขึ้นเงินกับทางธนาคาร โดยธนาคารจ่ายเป็นเงินสด
ทั้งนี้ยังมีรายงานอีกว่า หลังได้เงินจากธนาคารมาแล้ว ได้นำเงินมาให้เจ้าอาวาส ซึ่งเมื่อชุดสืบสวนสอบสวน ซักถามและสอบปากคำตัวเจ้าอาวาสในฐานะผู้เสียหาย เจ้าอาวาสอ้างว่าไม่รู้ แต่เมื่อชุดสืบสวนสอบสวน นำพยานหลักฐานที่ได้จากร้านทองและธนาคารบางส่วน ออกมาให้เจ้าอาวาสดูกลับบอกว่าลืม ซึ่งชุดสืบสวนสอบสวนได้นำคำให้การดังกล่าวของเจ้าอาวาส รวมถึงพยานหลักฐานที่ได้มาร้านทองและธนาคาร เข้าสู่สำนวนการสอบสวนแล้ว ขณะเดียวกันก่อนหน้านี้ ชุดสืบสวนสอบสวน นำศาลเข้าตรวจค้นบ้านพักของผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีนี้ประมาณ 4-5 คน ซึ่งผลการตรวจค้น ไม่มีการเปิดเผยว่าพบพยานหลักฐานในบ้านอย่างไรหรือไม่
พล.ต.ต.คมสิทธิ์ รังไสย์ ผบก.น.9 เปิดเผยว่า ได้กำชับให้ชุดสืบสวนสอบสวนทำงานให้รอบคอบ รัดกุม ซึ่งขณะนี้ได้พยานหลักฐานที่พิสูจน์ได้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องจริง และมีเรื่องเท็จเข้ามาเกี่ยวข้อง ดังนั้นใครให้การเท็จต้องรับผิดชอบ ใครแจ้งความเท็จต้องรับผิดชอบเช่นกัน.-414-สำนักข่าวไทย