“ธนกร” หนุน "พล.อ.ณัฐพล" เร่งถก กต. ส่งหลักฐานฟ้อง UN หลังทหารเขมร ลอบวางทุ่นระเบิดช่องบก
“ธนกร” หนุน "พล.อ.ณัฐพล" เร่งถก กต. ส่งหลักฐานฟ้อง UN หลังทหารเขมร ลอบวางทุ่นระเบิดช่องบก ทำ จนท.ไทยเจ็บหนัก ชี้ชัด ละเมิดอนุสัญญาออตตาวาแนะ รัฐบาลเสียงแข็งจี้ต้องรับผิดชอบ
วันที่ 20 ก.ค. 2568 นายธนกร วังบุญคงชนะ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รองหัวหน้าพรรคและสส.บัญชีรายชื่อพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงเหตุการณ์ทหารไทยเหยียบกับระเบิด จนทำให้มีผู้บาดเจ็บ 3 นาย ในพื้นที่ช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ขณะออกลาดตระเวนจากฐานปฏิบัติการมรกตไปยังเนิน 481 ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า หลังจากพลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 แถลงผลการตรวจสอบทุ่นระเบิดแล้วพบว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่ วางเลยแนวกำลังของกัมพูชาเข้ามา100-150 เมตร และยืนยันแล้วว่ากับระเบิดที่พบไม่มีใช้ในกองทัพไทย ตนขอสนับสนุนให้กองทัพบก ฝ่ายความมั่นคงและรัฐบาล ออกแถลงการณ์ประณามการก่อเหตุรุนแรงวางทุ่นระเบิดของฝ่ายกัมพูชา ซึ่งแถลงการณ์ดังกล่าวต้องจัดทำทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษเพื่อแจ้งให้นานาชาติได้รับทราบถึงเหตุการณ์ดังกล่าวโดยเร็ว
ทั้งนี้ เหตุการณ์เกิดขึ้นตั้งแต่ 16 ก.ค.68 ช่วงเวลา 4 วันที่ผ่านมา ทราบว่าผู้เชี่ยวชาญทางเทคนิคเกี่ยวกับวัตถุระเบิดตรวจสอบรวบรวมข้อมูลอย่างรอบคอบ โดยตนขอสนับสนุนให้ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ในฐานะ ผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) เร่งประชุมศบ.ทก.ในวันนี้ซึ่งก็มีกระทรวงการต่างประเทศเข้าร่วมประชุมด้วยอยู่แล้วนั้น จึงขอให้กระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดทำงานเชิงรุก เร่งจัดทำข้อมูลแจ้งไปยังกัมพูชา ควบคู่กับการรายงานไปยังที่ประชุมของรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา ที่ทั้งไทยและกัมพูชาเป็นคู่อนุสัญญา รวมถึงควรรายงานไปถึงสหประชาชาติ(UN) ด้วย เพื่อสร้างแรงกดดันทางการทูตให้ภาคีระหว่างประเทศเข้ามามีส่วนร่วมในการหาทางออก ซึ่งจะทำให้กัมพูชารับผลกระทบเรื่องความเชื่อมั่นจากเวทีนานาชาติโดยตรง เพราะถือเป็นการกระทำที่ร้ายแรง มากกว่านั้นหากเป็นการรุกล้ำอธิปไตยเข้ามาในพื้นที่ของไทยก็ยิ่งต้องดำเนินการตอบโต้
“ไม่ว่าจะเป็นทุ่นระเบิดเก่าหรือใหม่ล้วนแต่เป็นการทำผิดต่ออนุสัญญาออตตาวาอยู่แล้ว ขอให้กระทรวงการต่างประเทศหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งทำงานเชิงรุกรวบรวมข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญ ดำเนินการรายงานต่อที่ประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวาและ UNโดยเร็ว ขอให้กระชับขั้นตอนราชการไม่ควรล่าช้า ซึ่งเรื่องนี้รัฐบาลไทยต้องเร่งกดดันกัมพูชาให้ออกมารับผิดชอบ“นายธนกร กล่าว