เข้าสู่โซน ‘อันตราย’
โจษขานกันอื้ออึงทั้งเมืองว่า…..
“ทักษิณถูกอาจารย์วีระน็อกตาตั้งคาเวทีตั้งแต่ยก ๑” เมื่อคืนวันพฤหัสบดี ที่ ๑๗ ก.ค.๖๘
ในงาน “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤตโลก” ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
“คุณวีระ ธีรภัทร” และ “น.ส.ชุติมา พึ่งความสุข” ๒ ผู้จัด ฝ่ายชายเผ็ดเด็ดสะระตี่ ฝ่ายหญิงหวานจ๋อยเหมือนอ้อยเมืองสุพรรณ
เขายกรายการ “ฟังหูไว้หู” ที่แฟนๆ ติดงอมแงมทั้งบ้านทั้งเมือง ทางโทรทัศน์ ช่อง ๓๐ อสมท มาเชือด…เอ๊ย..มาสัมภาษณ์ทักษิณในงานนี้ด้วย
คงไม่ต้องเล่ากระมังว่าคุณวีระยิงคำถามอะไรบ้าง ที่ทำให้คุณทักษิณ “ตายคารายการ” เพราะทุกสื่อนำไปรายงานกันอึกทึกครึกโครมตั้งแต่รายการยังไม่จบดีด้วยซ้ำ!
ผมดูทางยูทูบตอนดึก ยอดคนดูปาเข้าไปร่วม ๗ แสนแล้ว ถ้าจะรีเพลย์บางประเด็นมาเล่า ก็จะกลายเป็นเอามะพร้าวห้าวมาขายสวน ฉะนั้น ไม่ดีกว่า
คุณวีระ กลายเป็น Hunter “นักถลกหนังหัวคนกินเมือง” ไปซะแล้ว
ต่อไปนี้ นักการเมืองคนไหน ถ้ารู้ตัวว่ามีแผล อย่าหวังไปอิงกระแสคุณวีระด้วยการไปให้สัมภาษณ์ออกรายการเชียว!
ในโซเชียลวิจารณ์กันขรม เช่น นี่….
“ถ้าเป็นเนชั่นลิ้นทองคำ จะไม่มีการหักหน้า ไล่ต้อนให้จนมุมแบบนี้”
และนี่….“วีระถามทักษิณ ๓ บก.ตายสนิท”
และก็นี่…“ทักษิณช็อตฟีล ตอบ อ.วีระไม่มีดีลลับกลับประเทศ”
ผมสังเกต คุณทักษิณในระยะหลังๆ ดูเปลี่ยนไป ท่านไปทำอะไรมา เพราะ “ฮวงจุ้ย” หน้าตา มันผิดไปจากเดิมเกือบหมด?!
ไป “ดึงหน้า-ทำตาหนุ่ม” มาหรือเปล่า
เพราะรังสี “คนเหนือคน” มันหายไป ลายเสือตะปบเหยื่อตาบอดเป็นอาหาร ก็กลายเป็นแมวลายตาแป๋ว
ทั้งดูเหมือนหวาดระแวง ล่อกแล่ก ยิ้มที่เคยหยิ่งทระนง ก็กลายเป็นยิ้มแหยๆ บนใบหน้ายู่ยับ
ดู “ฮวงจุ้ย” ใบหน้าแล้ว มันแห้งแล้ง แตกระแหง…โรยรา
ไม่รุ่งโรจน์โชติช่วงชัชวาลเหมือนตอน ๒๐-๓๐ ปีก่อนโน้น
ก็เป็นห่วงนะ
รู้แหละว่าใจยังสู้ สังขารยังให้ แต่บุญที่สั่งสมไว้แต่บางบรรพ์มันเริ่มเบาบาง เหมือนสตางค์ที่ฝากแบงก์ถูกเบิกมาใช้ โดยไม่เคยเติมเข้าไปใหม่อีก มันใกล้จะหมด
โบราณว่า “เงินจาง นางก็จร”
ท่านก็เหมือนกัน “บุญบารมีใกล้หมด คนใกล้ตัวเริ่มคิดคด กบฏรักจะหักหน้า ลูกน้องจะพากันหนี อกุศลกรรมจะคิดบัญชี
คุรุคู่สุริยาว่าเลิศล้ำ…..
ถึงครา สุริยาไม่เหนือกรรม วาสนาสิ้น แผ่นดินจะไม่ต้อนรับ ชีวิตจะอัปภาคย์ ถึงคิดได้ อยากแก้ไข แต่มันก็…สายเสียแล้ว!
แต่อย่างว่า ทักษิณก็คือทักษิณ
ไม่ได้หยิ่งผยอง แต่มั่นใจ อาจารย์วีระถามเรื่องคดี ๑๑๒ ที่ศาลจะตัดสินวันที่ ๒๒ สิงหา.นี้ คุณทักษิณตอบสไตล์ทักษิณว่า
“ไม่หรอกครับ ผมขึ้นศาลเอง ผมรู้ว่าโจทก์ไม่มีหลักฐานอะไรเลย ขณะที่พยาน อะไรก็ไม่รู้ และผมได้ถามพนักงานสอบสวน ถ้าวันนั้น ไม่ถูกกดดัน พยานหลักฐานแค่นี้ จะสั่งฟ้องผมหรือไม่?”
พนักงานสอบสวนตอบว่า …..
“อย่าว่าเรื่องสั่งฟ้องเลย รับคดี ก็ไม่รับ เราเคารพศาล สิ่งที่พูดเป็นการเล่าให้ฟังว่า เรื่องนี้ไม่มีหลักฐาน”
เห็นมั้ย…สมราคาทักษิณจริงๆ!
เมื่อวานนี้ (๑๘ ก.ค.) ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมือง สืบพยานคดี “ป่วยทิพย์ ชั้น ๑๔” รพ.ตำรวจอีก ๖ ปาก เป็นแพทย์ รพ.ตำรวจทั้งสิ้น
ถ้าถามว่า บรรยากาศการสอบปากคำหมอบ่งบอกอาการเป็นอย่างไรบ้าง?
ก็ตอบได้จากผู้เข้าไปฟังและกลับมาโพสต์เฟซฯ ประมาณนี้
…………………………
“ศาลฎีกานักการเมืองไต่สวนพยานคดีชั้น 14 รพ.ตำรวจ แพทย์เวรปาดน้ำตากลางศาล
บอกคิดว่าเป็นหมอแค่รักษาผู้ป่วย-ไม่คิดจะต้องมาขึ้นศาล เผยถูกเก็บโทรศัพท์ก่อนเข้าตรวจ”
…………………………….
หมอ รพ.ตำรวจ แพทย์เจ้าของไข้ 'ทักษิณ' เช็ดน้ำตาระหว่างเบิกความคดีชั้น 14 ยอมรับคิดว่า มีหน้าที่รักษาผู้ป่วย ไม่คิดว่าวันหนึ่งต้องขึ้นศาล
ขณะที่ศาลเบิกความรายนี้กว่า 1 ชั่วโมง 40 นาที”
…………………………..
“ศาลฎีกาไต่สวนกลุ่มแพทย์ รพ.ตำรวจ คดีชั้น 14 ต่อช่วงบ่าย ยันรักษา "ทักษิณ" ตามจำเป็น หากมีอาการแทรกซ้อนต้องรักษาตัวต่อ”
………………………………………
ทางด้านภายนอกศาล “นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์” ผู้ร้องเรื่องนี้ เมื่อวาน นำใบเสร็จค่ารักษาพยาบาลของนายทักษิณ ตั้งแต่ ๔ ก.ย.๖๖ ถึง ๑๙ ก.พ.๖๗
รวม ๒๖ รายการ ยอดรวม ๒,๔๗๕,๒๗๖ บาท มาเปิดเผยต่อสื่อ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า
“ค่ารักษามีเพียงค่าสารอาหาร ๑๕๐ บาท ค่าห้องประมาณ ๑๔๐,๐๐๐ บาท แต่ไม่มีค่ายาเลย”
นายชาญชัยจึงตั้งคำถามว่า “ป่วยวิกฤตจริงหรือไม่?”
และบอกว่า “เอกสารเหล่านี้ ไม่ใช่เวชระเบียน”
เป็นข้อมูลเปิดเผยได้ตามกฎหมายและจะส่งต่อศาลในวันที่ ๒๕ ก.ค. เพื่อใช้เป็นหลักฐานเพิ่มเติมชี้ว่า “ใครเป็นผู้สั่งการไม่ให้นำตัวไปคุมขังตามคำพิพากษา?”
พร้อมแย้มว่า “ความวิบัติจะเกิดขึ้นกับนายทักษิณจาก ๔ เรื่องใหญ่ ซึ่งจะสรุปในภายหลัง”
ผมก็เก็บความมาเล่าให้ฟัง เพราะคดีคุกทิพย์นี้ “งวด” เข้ามาทุกที ใกล้จบขั้นตอนสอบพยาน สู่การนัดวันฟังคำพิพากษาแล้ว
เหลือวันที่ ๒๕ ก.ค. “ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา” อุปนายกแพทยสภาและอดีตคณบดีแพทยศาสตร์ศิริราชฯ และ พล.อ.อ.นพ.อิทธพร คณะเจริญ เลขาธิการแพทยสภา
พร้อมด้วยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ รวม ๖ คน จะเดินทางไปให้ปากคำเป็นพยานศาล
และมีความน่าจะเป็นสูงว่า……
“ดร.วิษณุ เครืองาม” จะหอบสังขารไปเป็นพยานฝ่ายจำเลยให้คุณทักษิณ ในวันที่ ๓๐ ก.ค. เป็น “ปากสุดท้าย” ของคดีนี้
จากนั้น ศาลฯ อาจนัดวัน “ฟังคำตัดสิน”!
ดร.วิษณุนี่ สมกับความเป็น “เนติบริกร” จริงๆ สงสารท่านนะ คดีมาตรา ๑๑๒ ท่านก็ไปเป็นพยานให้คุณทักษิณ
แล้วคดีคุกทิพย์ ชั้น ๑๔ ท่านก็ยังต้องมาเป็นพยานให้คุณทักษิณอีก
กระทั่งคำชี้แจงของนายกฯ แพทองธารต่อศาลรัฐธรรมนูญ เรื่องคลิปสนทนากับอังเคิลฮุน เนติบริกรก็ต้องไปให้การบริการ!
บุญคุณอะไรนะ ช่างล้นเหลือ ชดใช้กันในชาตินี้ยันชาติหน้าดูท่าก็ยังไม่หมด?
สรุปแล้ว ตั้งแต่ ๑ สิงหาคม เป็นต้นไป กฎหมายจะทำหน้าที่ ชี้ชะตา ทั้งลูก ทั้งพ่อ ทั้งพรรค และทั้งคนในพรรคเพื่อไทย ตลอดทั้งเดือน
จะอยู่ จะสู้ จะหนี ก็รู้กันในเดือนสิงหา.-กันยา. นี้แหละ!
เรื่องที่ “ชาวเรา” ต้องติดตามช่วงนี้ ก็มีประมาณนี้ รวมทั้งเรื่อง ภาษีทรัมป์ จาก ๓๖% ว่าจะต่อรองลงมาซัก ๑๘-๒๐% ได้มั้ย?
และเรื่อง “กับระเบิด” ที่ช่องบก ทำทหารไทยที่ลาดตระเวนต้องบาดเจ็บ ๓ นาย ถึงขั้นขาขาด ๑ นาย
ตั้งแต่ ๒๑ กรกฎา.นี้เป็นต้นไป ทุกคนอย่าประมาท อะไรๆ มันก็พร้อมเกิดขึ้นได้ “ตื่นตัว-ไม่ต้องตื่นใจ” ทั้งเรื่องดี-เรื่องร้ายจะมาชุมนุม
เรื่อง “กับระเบิด” เราปล่อยไปไม่ได้!
ต้อง “จับให้มั่น-คั้นให้ตาย” ว่าเป็นระเบิดฝังไว้เก่าหรือว่าเพิ่งฝังใหม่ แล้วค่อยจัดการจากเบาไปหาหนัก ทั้งในเวทีโลกและเวทีท้องถิ่น
ต้องสั่งสอนให้มันรู้ซะมั่งว่าใครเป็นใคร ทหารไทยเป็นสุภาพบุรุษ มันนึกว่าแหย จะปล่อยให้มันมาแหย่รังแตนเล่นแบบนี้ไม่ได้
ไอ้ชาติคางคก เลือดหัวไม่ตกก็ไม่สำนึก
ต้อง “ปฏิบัติการอันสุนทร” เพียบพร้อมด้วยเสน่ห์และแสนงามให้มันตาตั้งดูซักที
เกรงใจมันไม่ได้ มันเหมือนขี้กลาก ปล่อยไว้ยิ่งลาม ตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด และตาควาย เป็นของไทย อยู่ในดินแดนไทย ก็ล้อมรั้วเป็นปริมณฑลให้มันรู้แล้ว-รู้รอดไปเลย
มันจะไปแหกปากฟ้องร้องศาลไหน ให้มันไปของมันคนเดียวเลย ดูซิ…ไอ้หมาหัวเน่าตัวนี้ ใครยังจะเอามันในเวทีโลก?
การเกรงใจคนเป็นสมบัติของผู้ดี
แต่มีข้อแม้อยู่ว่า………
๑.ผู้นั้น คู่ควรแก่การเกรงใจหรือไม่?
๒.การเกรงใจนั้น ต้องไม่ทำให้ตัวเองเดือดร้อน
แล้วดูซิ พฤติกรรมกวนโอ๊ยทุกวันนี้ คู่ควรแก่การเกรงใจมั้ย ทั้งทำให้เราเดือดร้อน-รำคาญส้นเกือกเก่าๆ ไม่เว้นวาง
ขแมร์เนี่ย…พูดถึงดี มีอยู่อย่างเดียว คือ
“ปลากรอบ” รมควันขี้วัว
อ้อ…อีกอย่าง “ลากไส้ทักษิณ” ให้เห็นความเป็นคนทรยศ-กบฏชาติ!
-เปลว สีเงิน
๑๙ กรกฎาคม ๒๕๖๘
วันเสาร์ที่ปลายซอย