"รสนา" ซัด "แม้ว" ร้ายกว่า "สีกากอลฟ์" ลากไส้พฤติกรรมฉาวเปรียบปราชิกทางการเมืองแต่ไม่สึก
อดีตสว.กทม. ซัด "ทักษิณ" ร้ายกว่า "สีกากอลฟ์" เทียบจริยธรรมพระสูงกว่านักการเมืองไม่ด้านทนยอมออก ลากไส้พฤติกรรม ย้อนด่า "ฮุนเซน" ไม่มีจริยธรรมไม่ดูตัวเอง เคยทำเสียพระวิหาร ประกาศแบ่งปิโตรเลียมอ่าวไทยแลกผลประโยชน์ 2 ตระกูล ฝืนดันบ่อนไว้เก็บค่าต๋งสู้เลือกตั้ง-ฟอกเงินทุจริต เปรียบปราชิกทางการเมืองแต่ไม่สึก
วันนี้ (20ก.ค.) นางสาวรสนา โตสิตระกูล อดีตสว.กทม. โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวในหัวข้อ "ทักษิณร้ายกว่าสีกา“กอลฟ์”หรือไม่ ?!" จากกรณีสีกากอลฟ์สึกพระชั้นผู้ใหญ่ให้กลายเป็นสมีไปแล้ว อย่างน้อย 13 รูป เป็นข่าวฉาวที่ทำให้ภาพลักษณ์ของพระติดลบ อย่างไรก็ตาม จริยธรรมของพระก็สูงกว่านักการเมือง ที่ยอมสึกหาลาเพศไปเมื่อถูกจับได้คาคลิป ไม่หน้าด้านหน้าทน เหมือนนักการเมืองบางคน ไม่ยอมลาออก ทั้งที่มีคลิปเสียงชัดเจน
สีกากอลฟ์ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่ากระทำเลวร้ายต่อพระศาสนา กระนั้น พระธรรมวินัยก็ประดุจมหาสมุทร ส่วนสีกากอลฟ์ก็เหมือนกับฉลามร้ายที่คอยกัดกินพระอลัชชีในมหาสมุทรแห่งพระธรรมวินัย ใครที่หนีฉลามร้ายอย่างสีกากอลฟ์ไม่พ้น ก็จะกลายเป็นซากศพถูกซัดขึ้นสู่ฝั่งทั้งหมด เพราะพระธรรมวินัยเป็นดุจดั่งมหาสมุทรอันไร้มลทิน ย่อมกำจัดซากศพอลัชชีให้พ้นไปจากพระธรรมวินัยได้เสมอ โดยมิต้องรอให้มหาเถรสมาคมหรือศาลตัดสินด้วยซ้ำ
ดังนั้นสีกากอล์ฟจึงทำลายได้แค่พระอลัชชีที่ประพฤติผิดพระธรรมวินัย แต่ไม่สามารถทำลายพระธรรมวินัยอันบริสุทธิ์ได้ ทั้งย่อมไม่สามารถทำลายคณะสงฆ์ ตราบเท่าที่คณะสงฆ์ยังเคารพและปฏิบัติอยู่ในกรอบแห่งพระธรรมวินัย
สีกากอล์ฟหาประโยชน์จากอลัชชีในผ้าเหลืองบางคน แม้ไม่ได้ทำลายพระธรรมวินัย แต่ก็นับว่าเลวร้ายขั้นอุกฤษฏ์
ส่วนกรณีของทักษิณนั้น จะนับว่าเลวร้ายใต้เถนเทวทัต อย่างสีกากอล์ฟ ได้หรือไม่ เมื่ออลัชชีทางการเมืองบางคน มีพฤติการณ์เข้าข่ายแสวงหาอำนาจและหาผลประโยชน์จากการเล่นแร่แปรธาตุทางการเมือง กอบโกยผลประโยชน์ให้ตัวเองและครอบครัว อย่างปราศจากหิริโอตตัปปะ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
กรณีคลิปสนทนากับฮุนเซนของนายกรัฐมนตรีแพทองธารที่หลุดออกมาให้ได้ยินกันทั้งบ้านทั้งเมือง กลายเป็นหลักฐานยืนยันข้อสงสัยของคนไทยว่ามีมูลจริง ดังที่นายกฯพูดเองว่า “คนไทยจะไล่เธอไปเป็นนายกฯเขมรแล้ว” แต่ทักษิณยังมาพูดในรายการปลดล็อคอนาคตประเทศไทยสู้วิกฤตโลก เมื่อวันที่17 กรกฎาคม 2568 ว่าเรื่องที่ลูกสาวถูกสั่งให้หยุดปฎิบัติหน้าที่จากเรื่องเฮงซวย !! โดยไม่สำนึกว่าเรื่องที่ลูกสาวพูดเป็นการกระทำที่เฮงซวยกว่าหรือไม่ ??
ทักษิณกล่าวโทษฮุนเซนว่าทำผิดจริยธรรม แต่เคยถามตัวเองว่ามีจริยธรรมหรือไม่ ไม่ว่าการเข้ามาแทรกแซง ใช้อำนาจในการครอบงำรัฐบาลที่ลูกสาวเป็นนายกรัฐมนตรี ทักษิณไม่ได้แค่ทำตัวเป็น สทร. หรือ เป็นเสมียนประเทศเท่านั้น แต่ในสายตาของสังคม แล้ว ทักษิณทำตัวเป็นนายโรงเชิดชักรัฐบาลหุ่นกระบอกชุดนี้ น่าจะตรงความเป็นจริงมากกว่า ใช่หรือไม่?!
การเอื้อประโยชน์ให้รัฐบาลฮุนเซน ทำมาอย่างต่อเนื่องไม่ว่าในสมัยรัฐบาลสมัคร สุนทรเวช รัฐบาลนอมินีทักษิณ ที่รัฐมนตรีต่างประเทศไปทำแถลงการณ์ร่วม ( joint communique ) กับกัมพูชาโดยยอมให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนมรดกโลกโดยลำพัง และยูเนสโกได้อนุมัติ เมื่อ 7 กค.2551 ซึ่งทำให้ฮุนเซนชนะเลือกตั้งอย่างถล่มทลายในวันที่ 27 กค.2551
กัมพูชาจะไม่สามารถขึ้นทะเบียนมรดกโลกได้เลยถ้าไทยไม่ยอม รัฐบาลไทยควรเจรจากัมพูชาให้ขึ้นทะเบียนมรดกโลกร่วมกัน โดยกัมพูชาเป็นเจ้าของตัวปราสาทเขาพระวิหาร ส่วนประเทศไทยเป็นเจ้าของพื้นที่โดยรอบ ก็จะไม่เกิดปัญหาการพิพาทดินแดน 4.6 ตารางกิโลเมตร ที่กัมพูชานำไปขึ้นสู่คดีในศาลโลกในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ที่ทำให้ไทยต้องเสียดินแดนเพิ่มมากขึ้น จากปี 2505 ที่รัฐบาลสมัยน้้น กำหนดพื้นที่โดยรอบปราสาทพระวิหารเพียง 0.25 เมตร ซึ่งพระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ เคยเสด็จเยี่ยมปราสาทพระวิหาร และทรงมีพระดำรัสตอบยอมรับเรื่องพื้นที่ที่รัฐบาลไทยกันไว้ให้รอบปราสาทว่า เราเป็นบ้านพี่เมืองน้อง ให้เท่าไรก็เท่านั้น
แต่รัฐบาลของคนในตระกูลชินวัตรกลับทำให้ไทยต้องเสียพื้นที่ภูเขาเกือบทั้งลูก ยังดีที่ศาลโลกทั้งในปี 2505 และในปี2556 ไม่ยอมตัดสินเรื่องแผนที่ 1 : 200,000 ซึ่งกัมพูชายังต้องการลากไทยไปศาลโลกเพราะประเด็นนี้ เพื่อจะได้รุกเข้ามาทั้งพื้นที่บนบก และพื้นที่ในทะเล ที่ทักษิณเคยประกาศว่าปิโตรเลียมในอ่าวไทยจะแบ่งกับกัมพูชา 50:50 นี่เป็นสิ่งที่คนไทยไม่สามารถไว้วางใจให้คนในตระกูลชินวัตรบริหารรัฐบาลต่อไปได้ ใช่หรือไม่
ย่อมเป็นที่สงสัยว่าระหว่างตระกูลฮุน และตระกูลชิน มีการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ส่วนตัวกันหรือไม่ โดยแลกกับการที่ประเทศต้องเสียดินแดนเพิ่มขึ้นให้กับกัมพูชา ?!
มาถึงวันนี้ จากตระกูลที่คบกันสนิทชิดเชื้อราวกับญาติสนิท กลับมามีข้อพิพาทส่วนตัวจากอะไรที่ทักษิณไม่ยอมตอบ ตราบเท่าที่ทักษิณและคนในตระกูลชินวัตรยังเป็นรัฐบาลอยู่ต่อไป ก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาส่วนตัวของ2ตระกูลนี้ และจากความขัดแย้งผลประโยชน์ส่วนตัว ได้กลายมาเป็นข้อพิพาทระหว่างประเทศ
ไม่ใช่เพียงเท่านั้น การบริหารบ้านเมือง ทั้งนโยบายเรือธงแจกเงินหมื่น ที่ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ ถูกตั้งคำถามว่าเป็นการใช้เงินงบประมาณไปหาเสียงล่วงหน้า ใช่หรือไม่
การผลักดันกฎหมายบ่อนกาสิโน ถูกตั้งข้อสงสัยว่าเพื่อเตรียมเก็บค่าต๋ง หาเงินเตรียมเลือกตั้งครั้งหน้า ใช่หรือไม่ ?!โดยออกกฎหมาย ให้สามารถใช้ที่ดินท่าเรือคลองเตย ของรัฐวิสาหกิจการท่าเรือ ไปเป็นประโยชน์ที่ตั้งบ่อนกาสิโน ที่เจ้ามือที่มาลงทุน ใช้เงินซื้อใบอนุญาตเพียง 5,000 ล้านบาท และจ่ายค่าเช่าแค่ปีละ 1,000 ล้านบาท เป็นเวลาถึง 30 ปี บนทำเลทองของกรุงเทพ
มหานคร
ในแวดวงการเมืองไทย และระบบข้าราชการไทยในปัจจุบัน จริยธรรมของนักการเมืองและข้าราชการประจำที่บัญญัติไว้ในกฏหมาย ไม่ศักดิ์สิทธิ์เหมือนพระธรรมวินัย จึงมีแต่เหล่าอสุรกายนักการเมือง และข้าราชการที่ยังลอยนวลอยู่ในวังวนน้ำเน่าการเมืองไทยและระบบราชการไทย ที่มีจริยธรรมของนักการเมือง และจริยธรรมของข้าราชการประจำไว้เป็นแค่ป้ายประดับเท่านั้น ประเทศไทยเลยติดหล่มไม่สามารถก้าวไปข้างหน้าได้ สำหรับที่ดินทำเลทองของท่าเรือคลองเตยที่จะเป็นบ่อนกาสิโนกลางกรุง ต้องตั้งคำถามว่า มีผลประโยชน์ส่วนตัวของผู้บงการหรือไม่ ?!
บ่อนกาสิโนสามารถใช้เป็นช่องทางในการฟอกเงินทุจริตต่างๆให้กลายเป็นเงินสะอาด ใช่หรือไม่?! การสนับสนุนบ่อนกาสิโนเพื่อประโยชน์ในการถ่ายเทเงินจากกระเป๋าคนอื่นมาให้เจ้ามือบ่อนกาสิโนรวยขึ้น โดยไม่สนใจหายนภัยต่อคนไทยทั้งประเทศ ควรแล้วหรือ สำหรับผู้บริหารประเทศที่จะนำพาประเทศด้วยการสนับสนุนอบายมุขที่เป็นหนทางแห่งความเสื่อม ที่ประชาชนทุกหมู่เหล่าต่อต้าน แต่รัฐบาลเพื่อไทยยังใช้เลห์แค่เลื่อน แต่ไม่ยอมเลิกล้ม ใช่หรือไม่??
การแสดงตัวของทักษิณว่ามีอำนาจในการสั่งการ ราวกับเป็นนายกฯเสียเอง ทั้งที่หมิ่นเหม่ต่อข้อหาการครอบงำพรรค และรัฐบาล การพูดถึงการบริหารรัฐบาลว่าอาจต้องยอมกลืนเลือดสัก3-4ปี๊บ หรือเมื่อพูดถึงว่าเป็นรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ ก็ตอบว่าเดี๋ยวก็มาเอง การพูดถึงลูกสาวว่าจะได้ไปต่ออย่างมั่นใจนั้น ทำให้คนไทยอดคิดไม่ได้ว่า ทุกสิ่งที่เอ่ยมานั้น มีการต่อรองกับพรรคการเมืองอื่น และองค์กรอิสระต่างๆแบบลับหลัง อย่างที่เห็นๆกันอยู่ในวงการเมือง ที่มีแจกกล้วย หรือถุงขนมหรือไม่อย่างไร ?! และถ้ามีการใช้วิธีดังกล่าว เป็นสิ่งที่มีจริยธรรมหรือไม่ ?!
สำหรับคนที่เคยบอกว่าจะกลับมาเลี้ยงหลาน ไม่ยุ่งการเมือง มาถึงวันนี้บอกว่า เอาผมออกไม่ได้ ผมยังอยู่ ผมรักประเทศไทย ผมไม่ยอมหรอก
บางคนมีตัณหากลับทางการเมือง ทำลายระบบคุณธรรมและจริยธรรมทางการเมืองของไทยจนป่นปี้ ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า อนันตริยกรรมที่ทำกับประเทศไทยควรเรียกได้ว่าเป็นปาราชิกทางการเมืองแล้วหรือยัง แต่ไม่ยอมสึกจากการเมือง กลับดื้อด้านดิ้นรน ทำลายระบบคุณธรรม ระบบความยุติธรรมเพื่อให้ได้อยู่ในพื้นที่อำนาจและเงินตราต่อไป ใช่หรือไม่
การเมืองไทยไม่ใช่มหาสมุทรที่สามารถซัดซากศพของนักการเมืองที่ไร้จริยธรรมขึ้นสู่ฝั่ง เหมือนพระธรรมวินัยที่สามารถซัดพวกอลัสชีจากมหาสมุทรแห่งพระธรรมวินัย
ประเทศไทยไม่อาจมี Trust Confidence และ Hope ตราบเท่าที่การเมืองไทยยังตกอยู่ภายใต้การบงการ ครอบงำของตระกูลชินวัตร ใช่หรือไม่?!
website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO