‘นฤมล’ จัดให้! เดินหน้าแก้เกณฑ์วิทยฐานะใหม่ แบ่งกลุ่มครูขอชัดเจน
เมื่อวันที่ 20 ก.ค.ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ตนได้ประชุมขับเคลื่อนการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลด้านการศึกษา ที่ โรงเรียนสุราษฎร์ธานี จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมตรวจเยี่ยมการเรียนการสอนของโรงเรียนราชประชานุ เคราะห์ 64 อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งการลงพื้นที่ครั้งนี้ของตน อยากจะรับฟังปัญหาการศึกษาทุกด้าน รวมถึงความเดือดร้อนของครูและนักเรียน ซึ่งเรื่องใดที่เป็นปัญหาและแก้ไขได้ตนจะทำให้ทันที เพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่ผู้ปฎิบัติงานทุกคน ซึ่งตนได้รับทราบว่าปัญหาของเขตพื้นที่สุราษฎร์ธานีขาดอัตรากำลังบุคลากรและเรื่องการจัดงบประมาณ โดยเรื่องของงบประมาณนั้นเรากำลังต่อสู้กันอยู่ในสภาผู้แทนราษฎรและเชื่อมั่นว่าการจัดทำงบประมาณในปี 2569 จะผ่านพ้นไปได้ด้วยดีและไม่ถูกตัดงบ ส่วนเรื่องอัตรากำลังครูนั้นเป็นเรื่องที่ตนรับทราบมาโดยตลอดว่าการบริหารจัดการศึกษาของโรงเรียนมีทั้งอัตราครูที่ไม่ครบชั้นซึ่งทำให้ครูจำนวนหนึ่งต้องแบกภาระงานอื่นที่ไม่ใช่งานสอนโดยเฉพาะการให้ครูไปทำหน้าที่ธุรการพัสดุการเงิน ซึ่งขณะนี้ตนกำลังแก้ปัญหาดังกล่าวอยู่โดยหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเกลี่ยอัตรากำลังครูเกินเกณฑ์มาเป็นสายงานสนับสนุน โดยวันที่ 31 ก.ค.นี้ เราจะเกลี่ยอัตรากำลังครูเกินเกณฑ์ได้ 600 อัตรามาเป็นสายสนับสนุน ส่วนในเดือนถัดไปจะเกลี่ยเพิ่มได้อีก 2,000 อัตรา
รมว.ศธ.กล่าวต่อไปว่า ส่วนการปรับเกณฑ์การจัดทำวิทยฐานะของข้าราชการครูนั้น ตนจะให้มีการปรับเกณฑ์วิทยฐานะใหม่ เพราะทุกวันนี้การยื่นขอมีและเลื่อนวิทยฐานะของครูจะต้องใช้หลักเกณฑ์กลางในการจัดทำ แต่ตนมองว่า ครูผู้สอนมีอยู่ทุกกลุ่มไม่ว่าจะเป็นกลุ่มครูประถมศึกษา มัธยมศึกษา ปฐมวัย อีกทั้งก็ยังมีกลุ่มครูสายอาชีวศึกษา ครูเอกชน ครูสกร. ครูการศึกษาพิเศษ ดังนั้นเกณฑจัดทำวิทยฐานะจึงไม่ควรยึดหลักเกณฑ์กลาง แต่ควรแยกหลักเกณฑ์ให้าอดคล้องกับครูแต่ละกลุ่ม ซึ่งต้องเป็นความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านที่ควรจะเป็น นอกจากนี้ผู้ที่มาประเมินผลงานของผู้ที่จะได้มีและเลื่อนวิทยฐานะนั้นจะต้องเป็นผู้ที่เข้าใจงานในแต่ละด้านด้วย เพื่อให้เกิดแรงจูงใจสำหรับครูที่ขอมีและเลื่อนวิทยฐานะเป็นตามหลักเกณฑ์ที่ควรจะเป็นมากขึ้น
‘หวังว่าทุกคนจะทำงานบูรณาการสอดคล้องกันมีอะไรให้พูดคุย เปิดรับปัญหาของแต่ละฝ่ายให้มากขึ้น อยากให้เราเป็นครอบครัวเดียวกันคือครอบครัวการศึกษา ดังนั้นปัญหาที่ได้รับเสียงสะท้อนมาจะนำมาพูดคุยกับผู้บริหารศธ. เพื่อตกผลึกการแก้ปัญหาให้สำเร็จต่อไป’ ศ.ดร.นฤมล กล่าว