พิกเล็ต น้ำตาซึม เปิดใจหลังจบรัก 10 ปี วิคเตอร์ แยกย้ายกันไปเติบโต ยันไร้ปัญหามือที่สาม
พิกเล็ต ชาราฎา น้ำตาซึม เปิดใจหลังจบรัก 10 ปี วิคเตอร์ ชัชชวิศ แยกย้ายกันไปเติบโต ยันจบกันด้วยดี ไร้ปัญหามือที่สาม ย้ำยังคงมีความหวังดีต่อกันเสมอ
หลังจาก พิกเล็ต ชาราฎา อิมราพร ได้ตัดสินใจยุติความสัมพันธ์กับนักแสดงหนุ่ม วิคเตอร์ ชัชชวิศ เตชะรักษ์พงศ์ หลังจากที่ทั้งคู่คบหาดูใจกันมานาน 10 ปี ล่าสุดวันที่ 17 ก.ค. พิกเล็ตได้มาร่วมงาน Sawasdee Siam เฉลิมฉลองการเปิดสโตร์เต็มรูปแบบสาขาใหม่ ที่ ร้าน POP MART ณ SIAM CENTER ชั้น M พร้อมเปิดใจถึงการตัดสินลดสถานะวิคเตอร์ จากแฟนมาเป็นเพื่อนที่หวังดีต่อกัน
โดยพิกเล็ตเล่าว่าเป็นการตัดสินใจร่วมกันตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ไม่ได้มีปัญหาหรือทะเลาะกัน และไม่มีมือที่สามเข้ามาเกี่ยวข้อง เหตุผลหลักของการยุติความสัมพันธ์ครั้งนี้ มาจากการที่ทั้งคู่ต้องการเวลาและพื้นที่ในการเติบโต และโฟกัสกับเส้นทางการทำงานของตัวเอง พร้อมย้ำว่ายังรู้สึกดีและเป็นห่วงกันเสมอ ยังคงมีความหวังดีต่อกันเสมอ
เป็นไงบ้างสภาพจิตใจตอนนี้? “จริงๆ ก็ดีค่ะ ก็ไม่ได้เศร้า เพราะจริงๆ มันเป็นเรื่องที่พิกเล็ตกับพี่วิคเตอร์ก็ตัดสินใจมานานแล้ว(ระยะเวลากี่เดือน?) จริงๆ ก็คิดมาตั้งแต่ต้นปีนี้ ถามว่าเสียใจไหมก็ยังเสียใจอยู่ เพราะว่ามันก็คบกันมานาน”
มันมีสัญญาณไหม หรือมันเกิดอะไรขึ้นทำไมถึงยุติความสัมพันธ์? “หนูก็ไม่รู้จะอธิบายยังไง มันเหมือนกับพวกเราอยากจะแยกย้ายกันไปเติบโตมากกว่า จริงๆ ก็ไม่ใช่ว่ารักกันน้อยลงหรืออะไร แต่เหมือนกับพอเรายิ่งโตเรารู้สึกว่าความรักอย่างเดียวบางทีอาจจะไม่ได้มากพอ ก็เลยทำให้เราอาจจะอยากแยกกันไปเติบโตมากกว่า แต่ก็ยังห่วงใยกันเหมือนเดิม”
ความรัก มันน้อยลงหรือว่ามันเปลี่ยนแปลงรูปแบบ? “ไม่เปลี่ยนแปลงหรอกสำหรับหนู แต่แค่หนูรู้สึกว่ามันอาจจะมีอะไรหลายๆ อย่างมากกว่าเรื่องที่เรารักกันมากพอไหม คือจริงๆ แล้วหนูกับเขาเป็นคนที่ไม่มีปัญหาอะไรกันมาตลอดอยู่แล้ว เราค่อนข้างที่จะเห็นอะไรตรงกันตลอดอยู่แล้ว”
มันก็เลยเกิดคำถามว่าทำไมอยู่ดีๆ มันถึงยุติ? “หนูคิดว่าเราคิดกันมานานแล้ว ด้วยความที่เราทำงานเหมือนกันด้วยมั้ง อาจจะเป็นเพราะหน้าที่การงานของเรามันเหมือนกันตัวหนูเองก็มีเป้าหมายแบบหนึ่ง เขามีเป้าหมายแบบหนึ่ง”
แต่จริงๆ ต่างคนต่างเป้าหมายก็เดินไปพร้อมกันได้? “(ยิ้ม) มีคนถามเยอะมาก ในความรู้สึกหนูกับเขาเหมือนเราคุยกันแล้ว เรารู้สึกว่าเราอยากจะแยกกันไปก่อน แล้วให้มันเป็นเรื่องของอนาคตว่าอนาคตมันจะเป็นยังไง เดี๋ยวค่อยว่ากัน เพราะเราอยากทำตัวให้เราทั้งสองคนไปในจุดที่เรารู้สึกว่าเราอยากจะเดินทางไปแล้วมั่นคง แล้วอยู่ในทางของเรา อยากแยกกันทำงาน”
สาเหตุมือที่สามมีไหม? “ไม่มีเลย เป็นเรื่องของการใช้ชีวิตล้วนๆ เรื่องนี้จริงๆ คุยกันมานานทั้ง 2 คน ว่าเราควรจะแยกกันไหมหลายๆ อย่าง”
ระยะเวลาที่คบกันมานานมันมีส่วนร่วมในการตัดสินใจไหม? “จริงๆ ไม่เกี่ยวเลย มันไม่ได้ทะเลาะกันด้วย แต่เหมือนกับพออายุมากขึ้นมากกว่า หนูรู้สึกว่าตอนนั้นหนูคบกับเขาโดยที่ไม่ได้นึกกันว่าเราจะเป็นยังไงหรืออะไรยังไง ตอนนั้นเราอายุเด็กกันทั้งคู่ พอมันเริ่มโต เหมือนมันก็ไม่ใช่เรื่องความรักอย่างเดียวมันก็หลายๆ อย่าง ก็จบกันด้วยดีก็ยังห่วงใยกัน เขาก็ยังเป็นคนในครอบครัวหนู ในความรู้สึกหนูไม่ว่าจะพี่หรือครอบครัวหนู ยังไงก็รักเขาเหมือนกัน ตัวพี่วิคเองเขาก็ยังหวังดีกับหนูอยู่เหมือนกัน”
แต่ระหว่างนั้นมันได้มีการปรับปรุงแก้ไขไหม? “พวกเราไม่ได้รู้สึกว่ามันสามารถที่จะแก้ไขอะไรยังไงได้ เพราะพวกเราทั้งสองคนไม่ได้ทะเลาะ หรือมีอะไรต้องแก้ไขเลย ทุกอย่างมันดี แต่ด้วยเรื่องของการทำงานมากกว่าหนูรู้สึกว่าเราน่าจะแยกกันไปทำงาน”
“หนูก็ไม่รู้จะลงดีเทลยังไง จะร้องไห้ (ร้องไห้) ตอนนี้หนูรู้สึกว่าเราอายุเท่านี้ ตอนนี้เราต้องการความมั่นคง หนูไม่รู้ว่าเราจะไปต่อคือแต่งงานเหรอ หรือเราจะทำงาน หนูเลยรู้สึกว่าเราเลือกที่จะทำงาน คือพวกเราสองคนยังอยากทำงานกันทั้งคู่ แต่เรารู้สึกว่าถ้าสมมุติทุกอย่างมันลงตัว จริงๆ ถามว่าอยากแต่งงานกันไหมมันก็คงไปสู่จุดนั้น แต่ว่าตอนนี้เราทั้งคู่ยังอยากทำงานกันให้เต็มที่”
จุดรีเทิร์นจะมีไหม ถ้าต่างคนต่างไม่ได้ผิดใจอะไรกัน? “อันนี้หนูก็ไม่แน่ใจในระหว่างทางว่า ระหว่างทางนั้นเราไปเจอใครหรือเปล่า หรือเราจะไปกันยังไง แต่ยังไงก็ตามหนูก็ยังรู้สึกผูกพันและเป็นห่วง แล้วก็มีความหวังดีให้กันตลอด”
คู่ของเรามองเรื่องการแต่งงานยังไง? “หนูรู้สึกว่าตัวหนูเองยังไม่อยาก เขาเองก็ยังไม่อยาก เรายังไม่กล้าตัดสินใจว่ายังไง ตัวหนูไม่ได้รู้สึกว่าอยากแต่งตอนนี้ แต่เราอยากทำงาน”
ก็เลยไม่ได้คิดว่าจะไปไกลขนาดนั้น? “ใช่ เราไม่ได้คิดว่าจะไปไกลขนาดนั้น เราเลยรู้สึกว่าต้องขอพักก่อน เพราะเรารู้สึกว่าเราก็คบกันมานานแล้วก็เลยขอลองพักก่อน เพราะพวกเราอยู่ด้วยกันมาตลอด ตัวติดกัน จนเราไม่รู้เหมือนกันว่าถ้าเราอยู่จริงจะเป็นยังไง”
พอได้พักจริงๆ รู้สึกไหมว่าขาดอะไรบางอย่างในชีวิต? “ไม่ได้รู้สึกว่าขาดอะไรแบบนั้น หนูรู้สึกว่าเราไม่ได้เลิกกันแบบไม่ดี เราสามารถคุยได้ เจอได้ หนูไม่ได้รู้สึกว่าเจอหน้าเขาไม่ได้ เขายังเป็นพี่ชายหนูอยู่”
แต่เขายังโอเคใช่ไหม? “อันนี้ต้องไปถามเขาแล้วแหละ (หัวเราะ) (เสียดายไหม?) หนูไม่เคยเสียดายเลย เพราะหนูรู้สึกว่ามันทำให้หนูรู้ว่าคือความรักครั้งนี้มันดีมาก ที่หนูไม่เคยเจอนะเอาจริงๆ หนูก็ไม่คิดว่าหนูกับเขาจะคบกันมานานขนาดนี้ แล้วหนูรู้สึกว่าที่ผ่านมามันเป็นเหมือนเวลาที่ทำให้หนูรู้ว่ามันมีความสุข หนูก็เลยไม่รู้สึกเสียดาย”
ชีวิตอิสระขึ้นไหม? “ก่อนหน้านี้เราก็อิสระกันทั้งคู่อยู่แล้ว หนูก็เลยไม่รู้สึกว่ามันเปลี่ยนไปมากขนาดนั้น (ยืนยันว่าไม่มีมือที่สาม?) ไม่ (จะกลับมารีเทิร์นไหมในอนาคต?) ไม่แน่ใจ ไม่รู้ ตอบไม่ได้”
ถ้าคนใดคนหนึ่งเจอคนใหม่ ได้คุยกันไหม? “จริงๆ เราต่างคนต่างบอกว่าถ้าระหว่างนี้เราเจอใครที่เรารู้สึกว่าเขาดูแลเราได้ดี แล้วเราโอเค ทั้งหนูและเขาก็มีแต่ความหวังดีจริงๆ เขายังบอกเลยว่าถ้าหนูเจอใครที่ดี เขาดีใจกับหนูด้วยนะ เขาก็ยังเป็นห่วง แต่ตัวหนูเองถ้าเขาเจอใครก็คงเสียใจที่จังหวะมันไม่ใช่เรา แต่ถ้าเขาเจอคนที่ดีเราก็อยากให้เขาได้เจอคนที่ดีแน่นอนอยู่แล้ว (เพียงแค่เราไม่ได้จังหวะนั้น?) หนูก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน มันเป็นเรื่องของจังหวะชีวิตทุกอย่างด้วย เรื่องของความรักหนูก็เคยรู้เหมือนกัน ตอนแรกเราคบกันเล่นๆ ก็รักกันแต่ไม่ได้คิดถึงชีวิตต้องไปยังไง แต่พอมันโตขึ้นมามันมีนอกเหนือจากนั้น”
มีการวางแผนอนาคตไหม? “ไม่เคยเลย เพราะตัวหนูเองก็ไม่เคยมีเรื่องของการแต่งงานตอนอายุเท่าไหร่อยู่ในหัว หนูรู้สึกว่าอยากให้เป็นจังหวะที่หนูพร้อมมากกว่า”
จริงๆ แล้วเรากลัวการใช้ชีวิตคู่หรือเปล่า? “น่าจะไม่น่าใช่ หนูคิดว่าหนูอยากทำทุกอย่างให้มันเต็มที่ อยากทำงานให้มันเต็มที่ที่สุดก่อน และเรารู้สึกกับตัวเองจริงๆ ว่าพร้อมแล้ว จริงๆ เราก็ทำงานได้เต็มที่ทั้งคู่เนาะ แต่ว่าอาจจะมีเรื่องอื่นๆ อีกที่เรารู้สึกว่าอยากทำให้มันเต็มที่ เพราะตอนนี้เรารู้สึกว่าตัวติดกัน 2 คนตลอดเวลา หนูก็ไม่รู้จะอธิบายยังไง มันก็เหมือนอยากให้เขาไปเติบโต เราไปเติบโต แล้วถ้าจังหวะนั้นมันพอเหมาะพอดีกันทุกอย่าง เราไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง”
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : พิกเล็ต น้ำตาซึม เปิดใจหลังจบรัก 10 ปี วิคเตอร์ แยกย้ายกันไปเติบโต ยันไร้ปัญหามือที่สาม
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.khaosod.co.th