อดีตพระมหาทิวากรคืนเงินวัด ปัดสัมพันธ์สีกากอล์ฟแค่โอนค่ารักษา
วันนี้ (18 ก.ค.2568) นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ร่วมประชุมกับคณะสงฆ์ระดับจังหวัด อำเภอ และตำบล รวมถึงผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดสมุทรสาคร ณ วัดหลักสี่ราษฎร์สโมสร ต.ยกกระบัตร อ.บ้านแพ้ว
เพื่อหารือแนวทางการจัดระเบียบคณะสงฆ์ ควบคุมบัญชีวัด และกำกับพฤติกรรมพระสงฆ์ในจังหวัดให้สอดคล้องกับพระไตรปิฎกและพระธรรมวินัย หลังเกิดกรณีอื้อฉาวเกี่ยวกับอดีตพระมหาทิวากร ดีไพร อดีตเจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ต.ท่าจีน อ.เมืองสมุทรสาคร ที่พัวพันกับสีกากอล์ฟ
อดีตพระมหาทิวากรลาสิกขาเมื่อคืนวันที่ 17 ก.ค.2568 ณ วัดหลักสี่ราษฎร์สโมสร โดยมีพระราชวัชรสาครคณี เจ้าคณะจังหวัดสมุทรสาคร เป็นผู้ดำเนินการ โดยอดีตพระมหาทิวากรระบุว่าตัดสินใจสึกเพื่อความสบายใจของคณะสงฆ์ในจังหวัด และยืนยันว่าไม่มีการกระทำผิดปาราชิก
ยอมรับว่ารู้จักสีกากอล์ฟ ซึ่งเคยมาทำบุญที่วัด และต่อมาได้โทรศัพท์ขอยืมเงินโดยอ้างว่าป่วยหนัก เข้าโรงพยาบาล และไม่มีเงินจ่ายค่ารักษา จึงโอนเงินช่วยเหลือรวมกว่า 1,176,740 บาท ตั้งแต่ปี 2565-2568 โดยสีกากอล์ฟโอนคืนบางส่วน 357,500 บาท การยืมเงินเป็นจำนวนหลักหมื่นต่อครั้ง และบางครั้งมีการคืนเป็นเงินสดหรือโอนคืน อดีตพระมหาทิวากรยืนยันว่าไม่มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาว และเรื่องนี้อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบของตำรวจ
พระราชวัชรสาครคณี เผยว่า อดีตพระมหาทิวากรได้นำเอกสารบัญชีรายรับ-รายจ่ายของวัดใหญ่จอมปราสาทตั้งแต่ปี 2564-2567 มาส่งคืน พร้อมเงิน 30,000 บาท ซึ่งเป็นส่วนที่เหลือจากเงินบริจาค 70,000 บาทที่นำติดตัวไป โดยระบุว่าใช้จ่ายค่าไฟฟ้ากว่า 30,000 บาท ส่วนที่เหลือส่งมอบให้เจ้าคณะตำบลและผู้รักษาการเจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาทเพื่อความโปร่งใส
ขณะเดียวกัน ที่ จ.ลพบุรี วัดกว่า 250 แห่งใน อ.เมืองลพบุรี อ.บ้านหมี่ และ อ.ท่าวุ้ง ได้นำบัญชีรายรับ-รายจ่ายของวัดมาให้เจ้าหน้าที่สำนักงานสรรพากรแนะนำวิธีการทำบัญชีที่ถูกต้อง ไม่ใช่การตรวจสอบ แต่เป็นการสร้างความเข้าใจและกำหนดแนวทางให้วัดจัดการบัญชีอย่างเป็นระบบ เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการของมหาเถรสมาคมและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะเริ่มบังคับใช้ในเดือน ต.ค.2568
อ่านข่าวเพิ่ม :
ลาสิกขาแล้ว "พระมหาทิวากร" เจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท หลังมีข่าวโยง "สีกากอล์ฟ"
"บิ๊กเต่า" เดินหน้าสอบปม "พระสมณศักดิ์สูง" ขอบริจาคเงินสร้างศาสนสถาน