โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

“จิรายุ” ลุยปราบ “บุหรี่เถื่อน-บุหรี่ไฟฟ้า” เต็มรูปแบบ คุมเข้มลักลอบนำเข้า-ขาย-ออนไลน์

สยามรัฐ

อัพเดต 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา

“ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี” เผยวิกฤตบุหรี่เถื่อนพุ่งหลังรัฐมุ่งปราบบุหรี่ไฟฟ้าทำบุหรี่เถื่อนโตไม่หยุด ยันสั่งกวาดล้าง “บุหรี่เถื่อน” ให้ราบคาบ วาง 3 มาตรการ ปูพรมปราบบุหรี่เถื่อนให้เด็ดขาดเช่นเดียวกับบุหรี่ไฟฟ้า คุมเข้มแพลตฟอร์มออนไลน์ สกัดช่องทางจำหน่ายทั่วไทย

วันที่ 17 กรกฎาคม 2568 นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เผย ช่วง 6 เดือนแรกปี 2568 รัฐบาล “แพทองธาร ชินวัตร” เร่งเดินหน้าปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง ทั้งการปิดหน้าร้านและช่องทางออนไลน์ เพื่อลดอัตราการใช้บุหรี่ไฟฟ้าในกลุ่มเด็กและเยาวชนไทย แต่กลับพบว่าการปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้าทำให้ผู้บริโภคจำนวนมากหันกลับไปสูบบุหรี่มวน โดยเฉพาะ “บุหรี่เถื่อน” ที่ราคาถูก หาซื้อได้ง่ายและมีรสชาติที่ตรงใจผู้สูบบุหรี่ แต่สิ่งที่ตามมา คือ เกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ทำให้รัฐบาลเก็บภาษีบุหรี่มวนได้ลดลง

สอดรับกับข้อมูล “สมาคมการค้ายาสูบไทย” ที่ระบุผลการสำรวจบุหรี่ผิดกฎหมายประจำไตรมาสแรก ปี 2568 พบอัตราบุหรี่เถื่อนพุ่งสูงถึง 28.1% หากเทียบกับช่วงไตรมาส 3 ปี 2567 ซึ่งถือเป็นการเพิ่มขึ้นสูงสุดอย่างเป็นประวัติการณ์ โดยพบว่ามีสองพื้นที่ที่น่าเป็นห่วง ได้แก่ 1. จังหวัดในภาคใต้ ได้แก่ สตูล สงขลา พัทลุง ภูเก็ต และ นครศรีธรรมราช คือพื้นที่ครองแชมป์ที่มีสัดส่วนการบริโภคบุหรี่เถื่อนในจังหวัดสูงสุด คิดเป็นมากกว่า 60% ในขณะที่กรุงเทพมหานคร ปริมณฑล แม้มีสัดส่วนบุหรี่เถื่อนอยู่ในระดับ 40%-50% แต่เนื่องจากเป็นเมืองขนาดใหญ่ที่มีประชากรอาศัยอยู่มาก ทำให้ 40% ของปริมาณการบริโภคบุหรี่เถื่อนในประเทศมาจากพื้นที่ดังกล่าว

“ภาครัฐมีความเป็นห่วงในสถานการณ์ดังกล่าว และจะสั่งเดินหน้าแก้ไขวิกฤติบุหรี่เถื่อนอย่างจริงจัง เช่นเดียวกับ การแก้ไขปัญหาบุหรี่ไฟฟ้า”

นายจิรายุ กล่าวว่า ผลดำเนินการปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้า ภายใต้นโยบายของ “น.ส. แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ที่สั่งการให้ปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศอย่างจริงจัง นับตั้งแต่ 25 กุมภาพันธ์ 2568 จนถึง เดือนมิถุนายน 2568 สามารถลดจำนวนการใช้บุหรี่ไฟฟ้าในกลุ่มเยาวชนและดำเนินคดีกับผู้นำเข้าได้เป็นจำนวนมาก

“การปราบปรามบุหรี่เถื่อน ถือเป็นนโยบายที่ขับเคลื่อนควบคู่มากับการปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้ามาตลอด ทั้งระยะเร่งด่วน ระยะสั้น และ ระยะยาว โดยมี น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ดูแลนโยบาย โดยประสานงานร่วมกับ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหน่วยงานรับผิดชอบด้านปราบปราม ซึ่งมีการมอบหมายให้ พล.ต.อ. ประจวบ วงศ์สุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นหัวหน้าชุดปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้าและบุหรี่เถื่อน”

นายจิรายุ กล่าวต่อว่า ปัจจัยเริ่มต้นที่การบริโภคบุหรี่ผิดกฎหมาย ทั้งบุหรี่ไม่เสียภาษี และบุหรี่ปลอม ทวีเพิ่มขึ้น เกิดผลกระทบจากนโยบายการปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้าสกัดสิงห์อมควันที่เข้มข้นของภาครัฐ รวมถึงการยึดของกลางหลายล้านชิ้นที่ไม่สามารถลักลอบเข้ามาได้ จึงทำให้บุหรี่ไฟฟ้าขาดตลาด จนถึงขั้นมีการบุกโจรกรรมของกลางบุหรี่ไฟฟ้าในโกดังศุลกากรจนเป็นข่าวเผยแพร่เมื่อเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา

“เมื่อบุหรี่ไฟฟ้าขาดตลาด ปฏิเสธไม่ได้ว่า ผู้สูบบุหรี่จำนวนมาก ย่อมหาทางเลือกอื่น จึงหันไปบริโภคบุหรี่มวนแบบเดิม รวมถึงบุหรี่เถื่อนที่มีราคาถูก ซึ่งต้องยอมรับว่า พื้นที่จังหวัดสตูล สงขลา พัทลุง ภูเก็ต และ นครศรีธรรมราช มีกลุ่มผู้บริโภคสูบบุหรี่หนีภาษี หรือบุหรี่เถื่อน จำนวนมากมาเป็นเวลานาน เนื่องจากหาซื้อง่ายและราคาถูก เมื่อเปรียบเทียบราคาบุหรี่ถูกกฎหมาย แต่ทั้งนี้ได้กำชับให้หน่วยปราบปรามทางท้องทะเลเพิ่มความเข้มในการปราบปรามตามที่นายกรัฐมนตรีสั่งการ”

สำหรับแนวทางปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้าที่ประสบความสำเร็จ นายจิรายุ กล่าวว่า เป็นต้นแบบแนวทางการนำไปสู่การขับเคลื่อนปฏิบัติการปราบปรามบุหรี่เถื่อนเชิงรุก รวม 3 แนวทาง คือ 1) เข้มการปราบปรามแนวชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน ภาคเหนือ ภาคตะวันออก ภาคใต้ และภาคตะวันตก ปิดช่องทางลักลอบนำเข้าผ่านช่องทางธรรมชาติทั้งทางบกและทางทะเล ภายใต้แผนเฉพาะกิจการปราบปรามบุหรี่ผิดกฎหมาย

2) เข้มการปราบปรามและจับกุมดำเนินคดีร้านค้าลักลอบนำเข้าและขายบุหรี่เถื่อน โดยมอบหมายให้ผู้บังคับบัญชาการตำรวจแห่งชาติ กวดขันจับกุมในทุกพื้นที่ทั่วประเทศอย่างจริงจัง ให้เหมือนกับการปราบปรามบ่อนการพนัน รวมถึงบูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่และส่วนกลาง เช่น กระทรวงการคลัง (กรมศุลกากรและกรมสรรพสามิต) กระทรวงมหาดไทย และทหาร ตามแผนปฏิบัติการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหาการลักลอบนำเข้าบุหรี่หนีภาษีอย่างมีประสิทธิภาพ และ

3) เข้มการปราบปรามผ่านช่องทางออนไลน์ ที่ปัจจุบันเป็นช่องที่ได้รับความนิยมในการซื้อขาย โดยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอี รับเป็นเจ้าภาพในการปิดกั้นโซเชียลมีเดีย เพจ และเว็บไซต์ URLs ที่เกี่ยวข้องกับบุหรี่เถื่อน ตัดวงจรช่องทางการซื้อ-ขาย และลักลอบนำเข้า

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก สยามรัฐ

ปัตตานี แถลงจับยาไอซ์ล็อตใหญ่ 317 กก. ลำเลียงจากภาคกลางลงใต้ ซุกซ่อนในรถบรรทุก

31 นาทีที่แล้ว

เงินบาทปิดที่ 32.48 บาท/ดอลลาร์ ทรงตัวรอปัจจัยใหม่ จับตาข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ คืนนี้

37 นาทีที่แล้ว

เช็กเลย! อ.ไวท์ เผยดาวพุธย้าย 19 ก.ค. ราศีใดได้เงินก้อนใหญ่ในรอบปี

39 นาทีที่แล้ว

โดนแล้ว ปลัด อบจ.นครพนม ถูกปลดออกจากราชการ หลัง ป.ป.ช.ชี้มูลทุจริต

41 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความไอที ธุรกิจอื่น ๆ

"มุกดา ไพรัชเวทย์" นั่งตำแหน่ง ซีอีโอ OSP คนใหม่ 1 ต.ค. 68

ทันหุ้น

“บลจ.” เคาะซื้อตราสารหนี้ไทย 1.7 หมื่นล้าน “ต่างชาติ” เทขาย 291 ลบ.

ข่าวหุ้นธุรกิจ

Evening Report 2025-07-17

StockRadars

แรงซื้อ AOT–DELTA หนุน SET ปิดพุ่ง 40 จุด ลุ้นดีลลดภาษีไทย–สหรัฐ

ข่าวหุ้นธุรกิจ

ศาลรธน. มีมติ 8:1 รับวินิจฉัยคดี “พิเชษฐ์” ปมแทรกแซงงบ “สภา” ปี 69

ข่าวหุ้นธุรกิจ

ราคาทองวันนี้เปลี่ยนแปลง 7 ครั้งปรับลง 150 บาท รูปพรรณขายออกอยู่ที่ 52,050 บาท

ทันหุ้น

Gen Z ใช้คริปโตซื้อของรายวันพุ่ง ส่วน Gen X เน้นใช้จ่ายก้อนโต

ทันหุ้น

จับตา! “ทีมไทยแลนด์” ถก USTR ค่ำนี้ ลุ้นปิดดีล “ภาษีสหรัฐ” ต่ำกว่า 36%

ข่าวหุ้นธุรกิจ

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...