สิงคโปร์คุมเข้มบุหรี่ไฟฟ้า ปรับสูงสุด 54,000 บาท โบยหนักถึง 15 ครั้ง
รัฐบาลสิงคโปร์ประกาศใช้มาตรการใหม่เพื่อควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะ “K-pods” ซึ่งเป็นบุหรี่ไฟฟ้าที่ตรวจพบว่ามีการปนเปื้อนสาร etomidate หรือยาชาเฉพาะจุดที่ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มยาเสพติดประเภทซี (Class C drug) กฎหมายฉบับนี้เริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2568 เป็นต้นไป
มาตรการดังกล่าวมีขึ้นภายหลังเจ้าหน้าที่ตรวจยึดบุหรี่ไฟฟ้าในเดือนกรกฎาคม และพบว่า ร้อยละ 30 ของของกลางมีการปนเปื้อนสาร etomidate สร้างความกังวลอย่างมากต่อทางการ เนื่องจากถือเป็นพัฒนาการใหม่ของการลักลอบใช้สารเสพติดในสิงคโปร์ โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนที่เริ่มเข้าถึงผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมากขึ้น
รัฐบาลได้กำหนดโทษปรับที่แตกต่างกันตามอายุของผู้กระทำผิด โดยผู้ใหญ่ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปจะถูกปรับ 700 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ประมาณ 19,000 บาท) ขณะที่เยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปีจะถูกปรับ 500 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ประมาณ 13,500 บาท) หากผู้ใดกระทำผิดซ้ำ จะถูกปรับสูงสุด 2,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ประมาณ 54,000 บาท) และถูกส่งเข้ารับโปรแกรมฟื้นฟูพฤติกรรม
นอกจากผู้ใช้แล้ว กฎหมายยังมุ่งปราบปรามขบวนการลักลอบอย่างเข้มงวด โดยผู้ที่ นำเข้า K-pods จะต้องเผชิญโทษจำคุก 3–20 ปี พร้อมโทษโบย 5–15 ครั้ง ส่วนผู้ที่ จำหน่ายหรือแจกจ่าย จะถูกลงโทษจำคุก 2–10 ปี และโบย 2–5 ครั้ง ซึ่งถือเป็นโทษที่รุนแรงที่สุดในภูมิภาคสำหรับการกระทำความผิดที่เกี่ยวข้องกับบุหรี่ไฟฟ้า
มาตรการกับโรงเรียนและเจ้าหน้าที่รัฐ
สิงคโปร์ยังบังคับใช้มาตรการภายในโรงเรียนอย่างเข้มงวด หากนักเรียนถูกตรวจพบว่ามีการครอบครองหรือใช้บุหรี่ไฟฟ้า อาจถูกลงโทษทางวินัย เช่น การตัดคะแนนความประพฤติ การงดกิจกรรม หรือแม้แต่โทษเฆี่ยนสำหรับนักเรียนชาย รวมถึงการตรวจสอบพฤติกรรมต่อเนื่องด้วยการใช้ชุดตรวจน้ำลาย
ในส่วนของข้าราชการและเจ้าหน้าที่รัฐ หากถูกตรวจพบว่ามีการกระทำผิด อาจเผชิญโทษทางวินัยตั้งแต่การลดตำแหน่ง ไปจนถึงการปลดออกจากราชการ รวมถึงการบังคับเข้าร่วมโปรแกรมฟื้นฟูเพิ่มเติม
มาตรการสำหรับชาวต่างชาติ
นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ถูกจับได้ว่ามีการครอบครองบุหรี่ไฟฟ้า อาจถูกยึดของกลางและถูกปรับ หากมีการกระทำผิดซ้ำอาจถูกห้ามเดินทางเข้าประเทศอีก ส่วนผู้ถือใบอนุญาตพำนักระยะยาวหรือชั่วคราว หากถูกพบว่ากระทำผิดซ้ำหลายครั้ง อาจถูกเพิกถอนสถานะและถูกเนรเทศออกนอกประเทศ
จุดยืนของรัฐบาล
นายกรัฐมนตรี ลอว์เรนซ์ หว่อง กล่าวย้ำว่า ปัญหาบุหรี่ไฟฟ้าและ K-pods ไม่ใช่เพียงปัญหาพฤติกรรมของเยาวชน แต่เป็น ปัญหายาเสพติด ที่ต้องใช้มาตรการเข้มงวดเพื่อจัดการอย่างจริงจัง เขาเน้นว่าเป้าหมายสำคัญคือการปกป้องเยาวชนและประชาชนสิงคโปร์จากอันตรายของสารเสพติดที่กำลังแพร่ระบาดในรูปแบบใหม่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- บุหรี่ไฟฟ้าใช้กลยุทธ์จิตวิทยาล่าเหยื่อ ดันภาพลวงตาวัยรุ่นไทย
- บุหรี่ไฟฟ้าใช้กลยุทธ์จิตวิทยาล่าเหยื่อ ดันภาพลวงตาวัยรุ่นไทย
- บุหรี่ไฟฟ้า เพิ่มความเสี่ยงหัวใจขาดเลือด อันตรายถึงชีวิต วิจัยชี้
- ไทย–สิงคโปร์เดินเกมคาร์บอนเครดิต ขยับเศรษฐกิจสีเขียวอาเซียน
- วิจัยเผยสูบบุหรี่ไฟฟ้า เพิ่มความเสี่ยง โรคหลอดเลือดสมอง อัมพาตเฉียบพลัน