“ทรัมป์” ลงดาบอินเดีย! สั่งขึ้นภาษี 50% เหตุซื้อน้ำมันรัสเซีย
วันที่ 7 สิงหาคม 2568 บีบีซี รายงานว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกคำสั่งบริหารเพิ่มอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากอินเดียอีก 25% เนื่องจากอินเดียยังคงนำเข้าน้ำมันรัสเซียท่ามกลางความขัดแย้งในยูเครน ส่งผลให้อัตราภาษีรวมสำหรับสินค้าจากอินเดียสูงถึง 50% ซึ่งถือเป็นหนึ่งในอัตราภาษีที่สูงที่สุดที่สหรัฐฯ เคยกำหนด
ภาษีใหม่นี้จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 27 สิงหาคมเป็นต้นไป โดยคำสั่งนี้มีเป้าหมายเพื่อกดดันอินเดียไม่ให้นำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย เพราะสหรัฐฯ เห็นว่ายังเป็นการสนับสนุนให้รัสเซียดำเนินกิจกรรมในยูเครนต่อไป
กระทรวงการต่างประเทศของอินเดียออกแถลงการณ์ประณามมาตรการนี้ว่าเป็น “ไม่เป็นธรรม, ไม่มีเหตุผล และไม่สมควร” พร้อมย้ำว่าอินเดียจะดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของชาติ
ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ได้กล่าวโจมตีอินเดียว่าไม่สนใจจำนวนผู้เสียชีวิตในยูเครนจากสงครามรัสเซีย ขณะที่ทำเนียบขาวชี้ว่า การนำเข้าน้ำมันรัสเซียของอินเดียเป็นการบ่อนทำลายความพยายามของสหรัฐฯ ในการกดดันรัสเซีย
ข้อมูลระบุว่า รัสเซียเป็นผู้ขายน้ำมันรายใหญ่ที่สุดให้แก่อินเดีย คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 35% ของน้ำมันนำเข้าทั้งหมด ขณะที่อินเดียซื้อน้ำมันรัสเซียเฉลี่ย 1.75 ล้านบาร์เรลต่อวันในครึ่งแรกของปีนี้
การขึ้นภาษีครั้งนี้จะส่งผลกระทบต่อสินค้าส่งออกหลักของอินเดีย เช่น สิ่งทอ อัญมณีและเครื่องประดับ อะไหล่รถยนต์ และอาหารทะเล ซึ่งล้วนเป็นอุตสาหกรรมที่สร้างงานจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม สินค้ากลุ่มอิเล็กทรอนิกส์และยาได้รับการยกเว้นภาษีในตอนนี้
ทางด้านสมาพันธ์องค์กรส่งออกของอินเดียเรียกการตัดสินใจนี้ว่า “น่าตกใจอย่างมาก” และเตือนว่าจะกระทบต่อร้อยละ 55 ของการส่งออกของอินเดียไปสหรัฐฯ ขณะที่สถาบันวิจัย Global Trade Research Initiative (GTRI) ประเมินว่าภาษีนี้อาจทำให้การส่งออกอินเดียไปสหรัฐฯ ลดลงถึง 40–50%
แม้ประธานาธิบดีทรัมป์และนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี จะเคยแสดงความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน แต่เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงความแตกต่างในผลประโยชน์ระหว่างสหรัฐฯ และอินเดียในประเด็นสงครามยูเครน
อนึ่ง สหรัฐฯ เตรียมออกมาตรการคว่ำบาตรและขึ้นภาษีอย่างเข้มงวดต่อประเทศที่นำเข้าน้ำมันรัสเซียเพิ่มเติมหลังจากวันที่ 11 สิงหาคมนี้ ซึ่งอาจกระทบกับหลายประเทศอื่น ๆ ด้วย