III โชว์รายได้ Q2 แตะ 642 ล้านบาท เคาะปันผล 0.10 บ. ขึ้น XD 19. ส.ค.นี้

บริษัท ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ III รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2568 และงวด 6 เดือนแรก สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2568 มีกำไรสุทธิลดลง ดังนี้

บริษัทฯ รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2568 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 73.54 ล้านบาท ลดลง 27.36% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 101.23 ล้านบาท โดยมีสาเหตุมาจากไตรมาส 2/2568 บริษัทมีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารอยู่ที่ 105.50 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 27.90% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อยู่ที่ 82.50 ล้านบาท

มีสาเหตุหลักมาจากในไตรมาส 2/2567 จากการกลับรายการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญจากลูกหนี้การค้าของบริษัทฯ และการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายพนักงาน และเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนเพิ่มขึ้น 11.20 ล้านบาท หรือ 11.80% เนื่องจากมีค่าใช้จ่าย ในการปรับโครงสร้างรูปแบบการบริหารจัดการคลังสินค้า ทั่วไป ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว (One-Timeitem) ในไตรมาสนี้

อีกทั้ง ไตรมาส 2/2568 บริษัทฯ ได้รับส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนอยู่ที่ 71.6 ล้านบาท ลดลง 22.40% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และหดตัว 32.20% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน มีสาเหตุหลักประกอบด้วย ส่วนแบ่งกำไรจาก SAL ซึ่งเป็นบริษัทที่ถือหุ้นใน AOTGA มีจำนวน 15.60 ล้านบาท ลดลง 14.50% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ส่วนแบ่งกำไรจาก ANI มีอยู่ที่ 48.70 ล้านบาท ลดลง 20.40% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

อย่างไรก็ตามไตรมาส 2/2568 บริษัทฯ มีรายได้รวมอยู่ที่ 642.60 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 104.30 ล้านบาท หรือคิด 19.40% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนและเติบโต 111.3 ล้านบาท หรือ 20.90% จากไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งรายได้ที่เพิ่มขึ้นมีสาเหตุมาจากผลดำเนินงาน ที่เติบโตของทุกกลุ่มธุรกิจ โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจการขนส่งสินค้าทางอากาศ (Air Freight Business) โดยมีปัจจัยสนับสนุนมาจากการ Synergy ภายในกลุ่มธุรกิจและการขยายตัวของการเร่งส่งออกสินค้าเพื่อหลีกเลี่ยงอัตราภาษีนำเข้าสินค้าของสหรัฐฯ ที่จะมีผลในเดือนสิงหาคม

ส่วนมีกำไรขั้นต้นในไตรมาส 2/2568 อยู่ที่ 116.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.90 ล้านบาท หรือคิดเป็น 13.50 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนและเติบโต 15.60 ล้านบาทหรือคิดเป็น 15.40 จากไตรมาสก่อนหน้า

ขณะที่ผลงานงวด 6 เดือนแรกบริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 182.14 ล้านบาท ลดลง 16.18% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อยู่ที่ 217.31 ล้านบาท

นอกจากนี้ บริษัทเตรียมจ่ายปันผลระหว่างกาลจากงวดดำเนินงานวันที่ 1 ม.ค. 68 ถึงวันที่ 30 มิ.ย. 68 จากกำไรสะสมเป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.10 บาท กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 19 ส.ค. 68 และกำหนดจ่ายปันผล 4 ก.ย. 68

นายทิพย์ ดาลาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารIII กล่าวว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานครึ่งปีหลัง 2568 คาดว่าจะเติบโตได้ดีกว่าครึ่งปีแรก โดยมีปัจจัยหนุนจากกลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ การขนส่งสินค้าทางอากาศที่บริษัทฯ ได้ออกแบบบริการไว้อย่างครบทุกความต้องการ ซึ่งจะได้รับอานิสงส์จากการคลายความกังวล หลังจากการประกาศอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากไทยไปยังสหรัฐอเมริกาที่ 19% มีผลตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยในครึ่งปีหลัง

รวมถึงการเข้าสู่ไฮซีซั่นของธุรกิจขนส่งสินค้าทางอากาศและการท่องเที่ยว โดยบริษัทฯ ได้เตรียมความพร้อมอย่างครบวงจร ทั้งบริการ Multimodal Warehouse ที่สนามบินสุวรรณภูมิ การร่วมมือกับ AOTGA เปิดบริการ Airport Truck Link เชื่อม 3 สนามบินหลัก (สุวรรณภูมิ-ดอนเมือง-ภูเก็ต) ซึ่งในขณะนี้ได้ขยายการให้บริการไปยังมาเลเซียแล้ว และมีแผนขยายไปยังประเทศอื่นๆ ในอาเซียน

นอกจากนี้ ยังร่วมมือกับ ANI เพื่อพัฒนา Cargo Airline หรือสายการบินขนส่งสินค้า เพื่อตอบสนองความต้องการในเส้นทางที่มีดีมานด์และอัตรากำไรที่ดี คาดว่าจะเห็นความชัดเจนในปีนี้ รวมถึงการขยายเส้นทาง Transit Hub ไปยังตะวันออกกลางและยุโรปตะวันออก เพื่อส่งเสริมประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการบิน (Aviation Hub) ของภูมิภาค ในขณะที่กลุ่มโลจิสติกส์สำหรับเคมีภัณฑ์และสินค้าอันตราย และกลุ่มธุรกิจบริหารจัดการโลจิสติกส์ มีแนวโน้มเติบโตเช่นกัน

นายทิพย์ กล่าวเสริมว่า บริษัทฯ เร่งดำเนินการตามแผน Synergy 360° เพื่อผสานศักยภาพและ Eco-system ภายในกลุ่มบริษัทและพันธมิตรเพื่อร่วมกันยกระดับประสิทธิภาพทางธุรกิจ ด้วยแนวคิดเพิ่มรายได้ ขยายโอกาส และบริหารจัดการต้นทุน เพื่อมุ่งสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน โดยบริษัทฯ ได้ขยายความร่วมมือกับ SJWD ในการบริหารจัดการต้นทุนของการให้บริการคลังสินค้าสำหรับสินค้าทั่วไป และพิธีการศุลกากร ซึ่งช่วยพัฒนาศักยภาพการให้บริการและการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ในส่วนบริษัท บริการภาคพื้นท่าอากาศยานไทย จำกัด หรือ AOTGA ที่ทริพเพิล ไอ ได้ลงทุนผ่าน บริษัท เอสเอแอล กรุ๊ป (ไทยแลนด์) หรือ SAL คาดว่าจะได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่จากไฮซีซั่นของธุรกิจขนส่งสินค้าทางอากาศและการท่องเที่ยวในครึ่งปีหลัง นอกจากนี้ AOTGA ยังมีโอกาสได้รับเลือกเป็นผู้ให้บริการภาคพื้นดินรายที่ 3 ของสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งจะประกาศผลภายในเดือนสิงหาคมนี้ ส่วนบริษัท เอเชีย เน็ตเวิร์ค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด หรือ ANI ก็มีสัญญาณเติบโต โดยได้ขยายการลงทุนเปิดสาขาที่นอร์เวย์และญี่ปุ่น ซึ่งจะเริ่มรับรู้รายได้และผลักดันผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลังอีกด้วย