คาดพื้นที่สีแดง ตาควาย-ตาเมือนธม ยัง “กลับบ้านไม่ได้” รอแม่ทัพภาค 2 หารือผู้ว่าฯ

อัพเดต 3 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ภาพไฮไลต์

สุรินทร์-คาดพื้นที่สีแดง “ตาควาย-ตาเมือนธม” ชาวบ้านผู้อพยพยังกลับเข้าบ้านไม่ได้ หลังประชุมจีบีซี ไทย-กัมพูชาสงบศึก ล่าสุด “บิ๊กเล็ก” ประสาน “แม่ทัพภาค 2” หารือผู้ว่าฯ 4 ชายแดนไทย-กัมพูชาอย่างเร่งด่วน พื้นที่จังหวัดใดที่สถานการณ์เหมาะสม ให้ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาได้
เสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยและจบลงด้วยดี สำหรับการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ที่มีขึ้นอย่างเร่งด่วนระหว่างวันที่ 4-7 ส.ค. ณ ประเทศมาเลเซีย เพื่อหาแนวทางสู่สันติภาพคลี่คลายปัญหาการสู้รบบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาใน 3 จังหวัดคือสุรินทร์ อุบลราชธานี และศรีสะเกษ หลังกัมพูชาเป็นฝ่ายเปิดศึกยิงไทยก่อนเมื่อเช้ามืดวันที่ 24 ก.ค. ต่อมาการสู้รบรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนทหารกับพลเรือน 2 ประเทศบาดเจ็บล้มตายไม่น้อย โดยการเจรจาได้ข้อยุติที่ดีและมีการแถลงอย่างเป็นทางการ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานถึงบรรยากาศตามหมู่บ้านชายแดน หลังจากเมื่อวานนี้มีการประชุมจีบีซีไทย-กัมพูชา ได้ข้อสรุป 13 ข้อตกลงหยุดยิง เห็นพ้องรักษาสันติภาพเพื่อความผาสุกของประชาชนสองประเทศ โดยพบว่าในพื้นที่ชายแดนยังไม่พบการยิงปะทะกันเกิดขึ้นเป็นวันที่ 11 แล้ว แม้ในพื้นที่ชายแดนด้าน จ.สุรินทร์ จะยังคงมีทหารของทั้งสองประเทศตรึงกำลังอยู่ตลอดแนวชายแดนก็ตาม
โดยเฉพาะที่หมู่บ้านหนองคันนา ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่อยู่ใกล้กับปราสาทตาเมือนธม พื้นที่สีแดงที่มีการสู้รบมากที่สุด ก็เป็นไปอย่างเงียบเหงา ชาวบ้านได้อพยพออกไปยังที่ปลอดภัยกันหมดตั้งแต่วันยิงปะทะกันวันแรกแล้ว แต่ยังคงพบว่ามีชาวบ้านบางส่วนที่เดินทางกลับมาดูบ้าน สวนยาง ไร่นา หลังการเจรจาหยุดยิงเมื่อวันที่ 28 ก.ค. 68 ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตามศูนย์พักพิงต่างๆ โดยเฉพาะประชาชนผู้อพยพจากพื้นที่สีแดง ยังคงต้องรอการประกาศจากกองทัพว่าจะให้สามารถกลับบ้านได้เมื่อไหร่ต่อไป โดยเฉพาะพื้นที่สีแดง ต.บักได อ.พนมดงรัก ที่ติดชายแดนปราสาทตาควาย และ ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก ติดพื้นที่ชายแดนปราสาทตาเมือนธม ส่วนพื้นที่อื่นๆ ที่ติดชายแดน รอคำสั่งที่ชัดเจนจากฝ่ายความมั่นคงและจังหวัดอีกครั้ง หลัง ศบ.ทก.แถลงเวลา 09.00 น. นี้
นายเอกอนันต์ ศรีอินทร์ นายอำเภอพนมดงรัก กล่าวว่า ตนมาประจำอยู่ในพื้นที่หมู่บ้านหนองคันนาทุกวัน ในพื้นที่ก็ยังเงียบสงบ ทางทหารก็ยังคงทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดี ทาง อ.พนมดงรักก็ยังรอประกาศจากกองทัพอยู่ว่าจะเอาอย่างไรต่อ ยังไม่ได้มีคำสั่งให้ประชาชนอพยพกลับแต่อย่างใด ซึ่ง อ.พนมดงรักไม่มีศูนย์พักพิง มีแต่ประชาชนอพยพไปอยู่ที่ศูนย์พักพิงพื้นที่อื่น ซึ่งที่นี่เป็นพื้นที่การสู้รบ ฉะนั้นนายอำเภอก็จะมาดูแลความสงบเรียบร้อยของหมู่บ้าน ซึ่งมีผู้นำชุมชน ชรบ. ฝ่ายทหารและตำรวจดูแลในพื้นที่ นายอำเภอก็จะอยู่แนวหลังของทหารนิดนึง
ทั้งนี้ เมื่อคืนที่ผ่านมา พบว่ามีประชาชนในหลายพื้นที่ ยังคงพบโดรนบินอยู่เช่นเดิม แม้จะลดปริมาณลงบ้างก็ตาม ท่ามกลางการสอดส่องและเฝ้าระวังของผู้นำชุมชน ชรบ. จิตอาสา ฝ่ายความมั่นคงและฝ่ายปกครองอย่างเข้มงวด แม้จะยังไม่มีรายงานจับผู้บังคับโดรนปริศนาได้ก็ตาม

ความคืบหน้าล่าสุด พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม รักษาราชการแทน รมว.กลาโหม ได้แถลงให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน โดยระบุว่า ผมได้ประสานกับทางพลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ในฐานะ ผอ. รมน.ภาค 2 ให้หารือกับทางผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดนไทยกัมพูชา 4 จังหวัด (บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ สุรินทร์ อุบลราชธานี) ว่าจังหวัดใดที่สถานการณ์เหมาะสม ให้ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาได้ ขอให้เร่งดำเนินการด้วย แต่ถ้าจังหวัดใดที่ทางแม่ทัพภาคที่ 2 ยังห่วงใย ก็ขอให้พี่น้องประชาชนให้ความร่วมมือในการที่จะอยู่ในศูนย์อพยพก่อน

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : คาดพื้นที่สีแดง ตาควาย-ตาเมือนธม ยัง “กลับบ้านไม่ได้” รอแม่ทัพภาค 2 หารือผู้ว่าฯ