สส. พรรคประชาชน หั่นงบตำรวจ เปิดโครงการคฤหาสน์ ผบ.ตร. ค้านงบเก็บดีเอ็นเอชายแดนใต้ พร้อมเผยกองบินตำรวจใช้ได้จริงไม่ถึง 10%
วันนี้ (15 สิงหาคม) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 11 สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 1 วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 วาระ 2 ต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ซึ่งเป็นวันสุดท้าย ในมาตรา 27 ว่าด้วยงบประมาณของส่วนราชการไม่สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวง ทบวง และหน่วยงานภายใต้กำกับของนายกรัฐมนตรี โดยสมาชิกได้ลุกขึ้นอภิปรายเสนอขอตัดลดงบประมาณ
บ้านพัก ผบ.ตร. คฤหาสน์ 91.4 ล้าน
ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สส. กทม. พรรคประชาชน อภิปรายว่า ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มักจะบอกว่า มีงบประมาณไม่เพียงพอ โดยในปีงบประมาณ 2569 ได้รับจัดสรรงบประมาณทั้งหมด 125,788 ล้านบาท เมื่อดูรายละเอียดงบประมาณของสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะพบว่าเป็นงบบุคลากร ประมาณ 89,000 ล้านบาท งบก่อสร้างอาคาร ประมาณ 5,000 ล้านบาท และงบเช่ารถประมาณ 3,000 ล้านบาท เหลืองบประมาณในการบริการประชาชนไม่เท่าไร
ศศินันท์เปิดเผยข้อมูลคฤหาสน์ใจกลางเมือง 91.4 ล้านบาท หรือบ้านพักข้าราชการตำรวจ ซึ่งเป็นโครงการใหม่ วัตถุประสงค์เพื่อเป็นศูนย์บัญชาการของ ตร. และเป็นที่หลบภัยสำหรับข้าราชการระดับสูง เมื่อเกิดความไม่สงบ เนื่องจากหากมีการชุมนุมทางการเมือง เพราะตำรวจอาจเป็นเป้าหมายสำคัญของผู้ไม่หวังดี
“เมื่อดูงบประมาณกลับกลายเป็นบ้านพักของ ผบ.ตร. และ รอง ผบ.ตร. ทั้ง 6 คน มากกว่าอาคารของตำรวจท่องเที่ยวกว่า 70 ครอบครัว เมื่อดูแปลนจะพบว่าอยู่กันเป็นกระจุก หากมีผู้บุกมาทีเดียวก็เรียบร้อยทั้ง 7 คน น่าสงสัยว่าสร้างเพื่อหลบภัยจริงหรือไม่ ดูจากแปลนแล้วน่าจะเป็นวังมากกว่า ขณะที่งบประมาณตกแต่งภายในบ้านพักของ ผบ.ตร. สูงถึง 23.9 ล้านบาท ส่วนงบประมาณการตกแต่งบ้านของรอง ผบ.ตร. 7 ล้านบาทต่อหลัง” ศศินันท์กล่าว
ศศินันท์ชี้ว่า ในรายละเอียดจะพบห้องจัดเลี้ยงและห้องจัดเลี้ยงกลางแจ้ง จึงตั้งคำถามว่า หลบภัยกันแบบใดถึงมีงานกาลาดินเนอร์ด้วย โดยเมื่อวานนี้ (14 สิงหาคม) สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มีการออกมาแถลงข่าวว่า ผบ.ตร. ได้มีการตัดงบประมาณส่วนนี้ เนื่องจากคิดถึงประชาชนและสวัสดิการของตำรวจชั้นผู้น้อย คำถามคือ ผบ.ตร. สั่งให้ตัดงบตอนไหน ในเมื่อท่านไม่ได้อยู่ในห้องงบประมาณ เรื่องนี้มีการตั้งคำถามจากคณะกรรมาธิการหลายท่าน ทำให้ท่านต้องตัดงบนี้ออกไป หากท่านคำนึงถึงสวัสดิการของตำรวจชั้นผู้น้อยคงจะไม่เสนอมาตั้งแต่แรก
“ยิ่งไปกว่านั้นกลับมีการชี้แจงอุทธรณ์โครงการดังกล่าวในคณะกรรมาธิการงบประมาณชุดใหญ่ เพื่อขอคืนงบประมาณส่วนนี้ และให้เหตุผลต่างไปจากเดิมโดยระบุว่า เป็นบ้านพักของข้าราชการระดับสูงที่ไม่มีบ้านพักในกรุงเทพมหานคร และเอาไว้รับรองผู้มาติดต่อราชการจากต่างประเทศ ซึ่งถือว่าไม่จำเป็น จึงขอเสนอปรับลดงบประมาณครึ่งหนึ่งจาก 298 ล้านบาทเหลือ 149 ล้านบาท” ศศินันท์ระบุ
ค้านงบเก็บดีเอ็นเอประชาชนชายแดนใต้
รอมฎอน ปันจอร์ สส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน อภิปรายว่า งบประมาณจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติตั้งมา 9.2 ล้านบาท ขอตัดงบประมาณในส่วนนี้ในโครงการจัดทำข้อมูลสารพันธุกรรม แก้ปัญหาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งการจัดเก็บตอนนี้มีฐานข้อมูลอยู่ 267,464 ตัวอย่าง และมียอดในการจัดเก็บ 830 ตัวอย่างต่อเดือน ซึ่งปีนี้ต้องเก็บถึง 10,000 ราย ทั้งหมดนี้คือแผนที่วางไว้ แต่ประเด็นอยู่ที่ว่าการเก็บจริงในทางปฏิบัติ เมื่อเดือนมิถุนายน
หลายปีที่ผ่านมา มีเรื่องร้องเรียนแบบนี้คือการจัดเก็บแบบเหมือนจะไม่สมัครใจ เพราะมีการทำให้การจัดเก็บผู้ที่ถูกจัดเก็บมองว่าเป็นบุคคลกลุ่มเสี่ยง ถูกจับตา บางกรณีมีการเก็บข้างถนน ก่อให้เกิดความไม่น่าเชื่อถือของฐานข้อมูลนี้ เพราะตามกฏหมาย ป.วิอาญา อนุญาตให้เจ้าหน้าที่สามารถจัดเก็บเฉพาะผู้ต้องสงสัย หรือผู้เสียหาย หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องเท่านั้น สิ่งที่เจ้าหน้าที่ทำก็คาบลูกคาบดอก เพราะฉะนั้น การกระทำข้อมูลกระบวนการของมันอาจจะทำให้ฐานข้อมูลของเรา ไม่มีความน่าเชื่อถือและจะทำลายความไว้วางใจของประชาชน
”ถ้ายังมีกระบวนการในการจัดเก็บที่มีปัญหาอย่างนี้ การจัดทำฐานข้อมูลอาจจะมีปัญหาต่อไป เพราะฉะนั้น เจ้าหน้าที่ชั้นผู้น้อย ก็จะสะท้อนกลับ ผมว่าถ้ามีหลักเกณฑ์ที่แน่นอนถูกต้องตามกฎหมาย น่าจะดีกว่า เพราะฉะนั้น จึงขอให้ตัดไปก่อนสำหรับปีนี้“ รอมฎอนกล่าว
รอมฎอนกล่าวถึงเรื่องกำลังพล ซึ่งมีงบประมาณสำหรับเบี้ยเลี้ยง ที่พัก และพาหนะของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่คล้ายกันกับของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) โดยเมื่อไปดูจริงๆ แล้วจะพบว่ามียอดถึง 925 ล้านบาท เปรียบเทียบกันแล้วของ กอ.รมน. ตั้งอยู่ที่ 3,412 ล้านบาท และให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นค่าใช้จ่ายของกองกำลังตำรวจจังหวัดชายแดนใต้ 343 ล้านบาท แต่ตำรวจก็ตั้งงบประมาณ 925 ล้านบาท
“เมื่อถามไปมาก็มีการสับหว่างกัน ประเด็นเรื่องเหตุสงบ งบไม่มา ชาวบ้านกังขามาก ถ้าเป็นไปได้ ต้องขอทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ชี้แจงแจกรายละเอียดเกี่ยวกับงบกำลังพล ให้มันกระจ่างมากกว่านี้ เพื่อเป็นหลักประกันว่าเงินภาษีของเราจะไปถึงผู้ปฏิบัติงานจริงในพื้นที่จะไม่มีการยักยอกและเล่นแร่ แปรธาตุใดๆ ทั้งสิ้น และเราสามารถตัดงบประมาณส่วนนี้ได้เพื่อให้ใช้งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ” รอมฎอนกล่าว
งบกองบินตำรวจ 950 ล้าน แต่ไม่เพียงพอปฏิบัติงานจริง
พนิดา มงคลสวัสดิ์ สส. สมุทรปราการ พรรคประชาชน
อภิปรายเน้นไปที่งบซ่อมบำรุงอากาศยานกองบินตำรวจ 950 ล้านบาท ที่ไม่ได้ถูกปรับลดลงในชั้นกรรมาธิการ โดยชี้ถึงปัญหาการใช้งบไม่ตอบโจทย์ภารกิจหน้าที่จริง จนเป็นเหตุให้เกิดโศกนาฏกรรมอากาศยานตำรวจตก 3 ลำ ภายใน 3 ปี และมีตำรวจเสียชีวิต 9 คน
ทั้งนี้ งบประมาณซ่อมบำรุง 950 ล้านบาทในปี 2568 ยังไม่ได้ใช้ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติยังไม่ได้ชี้แจงเรื่องผลการตรวจสอบหรือการสอบทุจริตเกี่ยวกับงบซ่อมบำรุงเป็นอย่างไร ซึ่งตัวแทนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติชี้แจงว่า เครื่องบินมีปัญหา ปัจจุบันสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีเครื่องบิน 11 ลำ ใช้งานจริงได้ 1 ลำ อยู่ระหว่างการซ่อม 5 ลำ และพิจารณาจำหน่าย 5 ลำ ส่วนเฮลิคอปเตอร์ มี 71 ลำใช้งานจริงได้ 4ลำ อยู่ระหว่างการซ่อม 30 ลำ และพิจารณาจำหน่าย 37 ลำ
“ในขณะที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้รับงบก้อนนี้ทุกปี ปีละ 950 ล้านบาท หากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินขึ้น เราจะมีอากาศยานที่พร้อมปฏิบัติภารกิจได้เพียงพอได้อย่างไร” พนิดากล่าว
พนิดาอ้างอิงข้อมูลพบว่า อากาศยานตำรวจมีความจำเป็นต่อการฝึกของตำรวจ เช่น การฝึกกระโดดร่ม รบพิเศษ หลักสูตรต่อต้านการก่อการร้าย หลักสูตรการค้นหาช่วยเหลือผู้ประสบภัย ฯลฯ ทั้งการสับเปลี่ยนกำลัง ลาดตระเวนทางอากาศ ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการขาดความพร้อมด้านอากาศยาน ตำรวจไม่สามารถดำเนินการฝึกภาคอากาศตามแผนในหลักสูตร และไม่สามารถปฏิบัติภารกิจที่ต้องใช้อากาศยานสนับสนุนได้อย่างเพียงพอ
นอกจากนี้ ยังชี้ว่า อุปกรณ์ประกอบการบินยังมีปัญหา กรณีลวดสลิงกระตุกร่มที่ใช้ของไม่ได้มาตรฐาน ส่งผลให้ร่มไม่กาง ทำให้นักเรียนนายร้อยตำรวจเสียชีวิตถึง 2 คน พนิดาย้ำว่า นี่เป็นความสูญเสียที่ไม่ควรเกิดขึ้นแม้แต่ครั้งเดียว จึงสอบถามถึงการใช้จ่ายงบประมาณในปี 2569 โดยเฉพาะการประเมินงบที่ต้องใช้ซ่อมบำรุงทั้งหมดต้องใช้เท่าไร เพื่อนำมาสู่การตัดสินใจในการจัดหาเครื่องบินที่ปลอดภัย และพร้อมใช้งานใหม่ มากกว่าการดันทุรังซ่อมเครื่องเก่าเกินอายุการใช้งาน