แกร็บ-ไลน์แมน เปิดเกมชิง ‘ทุนมนุษย์’ แจกสวัสดิการจูงใจ ‘ไรเดอร์’
การประท้วงของเหล่า “ไรเดอร์” เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม ค่าตอบแทนในการวิ่งงานแต่ละเที่ยว หรือค่ารอบ และการต่อสู้ต่อข้อบังคับที่ไม่เป็นธรรม ตามที่เคยปรากฏอยู่บนหน้าสื่อตลอดหลายปีที่ผ่านมา เป็นดั่ง “แผล” ที่สะท้อนถึงความสัมพันธ์อันเปราะบางระหว่างกลุ่มไรเดอร์ และผู้ให้บริการแพลตฟอร์มดีลิเวอรี่-แอปเรียกรถ
แม้ทุกวันนี้สถานะทางแรงงานของไรเดอร์จะเป็น “ฟรีแลนซ์” หรือ “พาร์ตเนอร์” ที่ทำงานกับแพลตฟอร์มแบบไม่มีข้อผูกมัด แต่แพลตฟอร์มก็ไม่สามารถปล่อยให้ความสัมพันธ์กับไรเดอร์ระหองระแหงต่อไปได้ เพราะพวกเขาคือ “ทุนมนุษย์” ที่สำคัญกับการทำธุรกิจ และเป็นแกนหลักของการให้บริการ
ทำให้ในช่วง 2-3 ปีมานี้ เหล่าผู้ให้บริการแพลตฟอร์มดีลิเวอรี่ ไม่ว่าจะเป็น “ไลน์แมน” (LINE MAN) และ “แกร็บ” (Grab) ต่างก็พยายามออกแบบสวัสดิการ สิทธิประโยชน์ และกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อสมาน “แผล” และรักษาความสัมพันธ์กับไรเดอร์ให้ทำงานด้วยกันอย่างราบรื่นในระยะยาว
เจาะอินไซต์ไรเดอร์ “ไลน์แมน”
“อิสริยะ ไพรีพ่ายฤทธิ์” รองประธานฝ่ายนโยบายสาธารณะและรัฐกิจสัมพันธ์ LINE MAN Wongnai เปิดเผยว่า ปัจจุบันไลน์แมน (LINE MAN) มีคนขับอยู่ในระบบกว่า 1.4 แสนคน ครอบคลุมพื้นที่ให้บริการ 300 อำเภอทั่วประเทศ แบ่งเป็น “ไรเดอร์” ขับรถ 2 ล้อ ประมาณ 1 แสนคน และ “ไดรเวอร์” ขับรถ 4 ล้อ อีก 4 หมื่นคน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มแท็กซี่ เพราะไลน์แมนเริ่มต้นจากการให้บริการ LINE MAN TAXI มาก่อน
“ไรเดอร์มีหลายช่วงวัย ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มอายุ 25-34 ปี คิดเป็นสัดส่วนราว 40% ของไรเดอร์ทั้งหมด หรือถ้าแบ่งตามเพศ 80% ยังเป็นผู้ชาย แต่ก็เริ่มเห็นแนวโน้มที่ผู้หญิงเข้ามาร่วมงานกับแพลตฟอร์มมากขึ้นเรื่อย ๆ”
ในส่วนของรายได้งานดีลิเวอรี่จะมาจากหลายส่วน แต่หลัก ๆ คือ 1.ค่าตอบแทนในการวิ่งแต่ละเที่ยว ที่แบ่งตามพื้นที่และปริมาณคำสั่งซื้อ โดยย่านธุรกิจ (CBD) รวมถึงแหล่งรวมร้านอาหารอร่อย ๆ เช่น ปทุมวัน สยาม สุขุมวิท ทองหล่อ และเยาวราช จะมีอัตราค่ารอบสูงกว่าย่านอื่น เพราะเป็นพื้นที่แข่งขันสูง มีปริมาณคำสั่งซื้อเยอะ
และ 2.เบี้ยขยัน (Incentive) ที่ปรับตามช่วงเวลา และสภาพอากาศ เพื่อจูงใจให้ไรเดอร์เข้ามาวิ่งงานในพื้นที่ ช่วงที่มียอดคำสั่งซื้อสูงกว่าปกติ รวมถึงช่วงเวลาที่ฝนตกด้วย ซึ่งจากสถิติที่ผ่านมาไรเดอร์มีรายได้งานดีลิเวอรี่เฉลี่ยเดือนละ 12,000-23,000 บาท
ส่วนงานเรียกรถผ่านบริการ LINE MAN RIDE บริษัทจะใช้วิธีหักส่วนแบ่งรายได้เป็นค่าคอมมิชชั่น 10%
ต้องบริหารดีมานด์-ซัพพลาย
“อิสริยะ” อธิบายต่อว่า การจูงใจไรเดอร์ด้วยการให้เบี้ยขยันเพิ่มเติม เป็นกลไกบริหารดีมานด์-ซัพพลายรูปแบบหนึ่ง เพราะช่วงที่มีคำสั่งซื้อเข้ามามาก ๆ และไรเดอร์ต้องวิ่งงานเยอะ ๆ กระจุกอยู่แค่ไม่กี่ชั่วโมง อย่างงานดีลิเวอรี่จะยุ่งช่วงเที่ยงกับเย็น งานเรียกรถยุ่งเช้ากับเย็น ส่วนเวลาอื่น ๆ ก็ทำงานตามความถี่ปกติ
“ถ้าแพลตฟอร์มตัดสินใจแก้ปัญหาเรื่องดีมานด์สูงด้วยการเพิ่มปริมาณไรเดอร์ในพื้นที่ หมายความว่าช่วงเวลาปกติจะมีไรเดอร์เยอะเกินไป และกลายเป็นว่าแย่งงานกันเอง เราก็ต้องดูว่าแต่ละพื้นที่ต้องมีไรเดอร์เท่าไร ถึงจะกระจายงานและแข่งขันกันอย่างเหมาะสม และจะรับไรเดอร์ก็ต่อเมื่อในพื้นที่มีไรเดอร์เลิกทำหรือขาดคนจริง ๆ เท่านั้น”
“อิสริยะ” ย้ำว่า แพลตฟอร์มกับไรเดอร์ทำงานกันในสถานะพาร์ตเนอร์ โดยไรเดอร์มีอิสระในการรับงาน แต่ต้องอยู่ภายใต้ข้อกำหนดการปฏิบัติของแพลตฟอร์ม เพื่อรักษาคุณภาพในการให้บริการ ซึ่งแต่ละคนจะมีรูปแบบการทำงานที่ต่างกันออกไป เช่น วิ่งงานยาวทั้งวัน, แบ่งวิ่งเป็น 2 กะ, รับงานส่งคน วิ่งรถระยะไกล, รับแต่งานดีลิเวอรี่ในพื้นที่ใกล้ ๆ และรับแต่งาน Express เป็นต้น
“ไรเดอร์ที่ใช้ในการรับงานต่าง ๆ เป็นชุดเดียวกัน อยู่ที่ว่าเขาจะเปิดรับงานประเภทอะไรบ้าง บางคนไม่เปิดงานดีลิเวอรี่ เพราะไม่อยากเข้าไปหาร้านในห้าง หรือบางคนก็เป็นสายรับงาน Express ส่งของ หรือรับเช็คตามออฟฟิศ ซึ่งงานประเภทนี้จะได้ค่ารอบเยอะกว่างานดีลิเวอรี่ เพราะต้องใช้ความชำนาญในการจัดการมากกว่า แต่ก็ใช้เวลาในการจบงานนานกว่าด้วย”
“สวัสดิการ” รักษาไรเดอร์
สิ่งที่หลายคนมักเข้าใจผิดเกี่ยวกับอาชีพไรเดอร์ คืองานของไรเดอร์ดูเหมือนจะไม่ซับซ้อน แค่ “รับ” และ “ส่ง” แต่จริง ๆ ต้องใช้ความเชี่ยวชาญทางวิชาชีพสูงมาก เช่น รู้ว่าร้านนี้อยู่ที่ไหน หรือตึกนี้อยู่ซอยอะไร กว่าจะทำงานได้เก่ง ๆ ก็ต้องมีประสบการณ์ทำงานในระยะเวลาที่พอแก่การสั่งสมความเชี่ยวชาญ ซึ่งในมุมของแพลตฟอร์มต้องการทำงานร่วมกับคนเก่ง ๆ ไปนาน ๆ จึงต้องเพิ่มสวัสดิการต่าง ๆ เข้ามา เพื่อรักษา “Retention” ของไรเดอร์ไว้
ตัวอย่างของสวัสดิการที่ไลน์แมนมีให้ไรเดอร์ เช่น สิทธิในการผ่อนสินค้า เป็นทางเลือกที่ช่วยให้ไรเดอร์เข้าถึงการซื้อของมีค่า เครื่องใช้ไฟฟ้า และโทรศัพท์มือถือได้ง่ายขึ้น ลดโอกาสในการพึ่งพาหนี้นอกระบบ เพราะไรเดอร์สามารถใช้ข้อมูลการทำงานมาวิเคราะห์ความสามารถในการผ่อนได้
ประกันอุบัติเหตุฟรี คุ้มครองคนขับทุกประเภทและผู้โดยสารทุกเที่ยว ชดเชยการรักษาพยาบาลสูงสุด 1 แสนบาท/คน และชดเชยกรณีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุสูงสุด 2 แสนบาท/คน รวมถึงสิทธิในการเช่ารถ EV เพื่อประกอบอาชีพ
ทั้งนี้ สิทธิในการเข้าถึงสวัสดิการต่าง ๆ จะขึ้นอยู่กับระดับของไรเดอร์ ซึ่งมีอยู่ 5 ระดับ แบ่งตามรอบขับและจำนวนงานที่ทำ เริ่มที่ระดับเริ่มต้น Bronze, Silver, Gold, Master และ Legend ที่เป็นระดับสูงสุด ยิ่งระดับสูงเท่าไร ก็ยิ่งเข้าถึงสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ได้มากขึ้น เช่น ระดับ Legend สามารถผ่อนทองคำได้
“สิ่งที่ผู้ใช้หลายคนไม่ค่อยรู้ คือนอกจากกดดาวให้คะแนนไรเดอร์แล้ว การพิมพ์ข้อความขอบคุณ หรือชื่นชมเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ช่วยให้ไรเดอร์ได้โบนัสเพิ่มเติมเช่นกัน”
เชื่อมสัมพันธ์ด้วยกิจกรรม
นอกจากสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ แล้ว ไลน์แมนยังมีการจัดกิจกรรมพิเศษ เพื่อเชื่อมสัมพันธ์กับไรเดอร์อย่างต่อเนื่อง เป็นกิจกรรมกระชับมิตรตามจังหวัดต่าง ๆ ทั้งล้อมวงกินข้าว พูดคุยปัญหาต่าง ๆ และจับกลุ่มเตะบอล
รวมถึงยังมีการจัดอบรมในด้านต่าง ๆ เพื่อเสริมทักษะในการประกอบอาชีพ เช่น การซ่อมบำรุงรถจักรยานยนต์ การอบรมภาษาอังกฤษและภาษาจีนเพื่อสื่อสารกับลูกค้าชาวต่างชาติ และการออมเงินเพื่อการเกษียณอย่างมั่นคง เป็นต้น
หรือช่วงเทศกาลต่าง ๆ ก็มีการจัดกิจกรรมให้ไรเดอร์ได้เชื่อมสัมพันธ์กับคนในครอบครัว เช่น เทศกาลวันแม่ปีนี้ ก็มีกิจกรรม “พาแม่เที่ยว 1 วัน ฟินทั่วกรุง” โดยคัดเลือกไรเดอร์ 5 คน ที่ส่งเรื่องราวความผูกพันที่มีต่อคุณแม่มาร่วมทริปกัน ส่วนกิจกรรมอื่น ๆ ก็มีการมอบทุนการศึกษาให้บุตรหลานของไรเดอร์รวมปีละ 1 ล้านบาท และปีนี้ก็มีการมอบทุนให้กับไรเดอร์ที่กำลังศึกษาอยู่ด้วย
“กิจกรรมทั้งหมดออกแบบมาจากความต้องการของไรเดอร์ อย่างเรื่องซ่อมรถ ไรเดอร์ก็ขอมา เพราะถ้าทำเองเป็นจะช่วยให้ประหยัดได้มาก ๆ อย่างทุนก็ขยับมาให้กลุ่มนักศึกษาด้วย เพราะน้อง ๆ บอกว่าเขาต้องส่งตนเองเรียน หรือถ้าเป็นในต่างจังหวัด ไรเดอร์บางคนทำอาชีพกู้ภัยด้วย เวลาเกิดเหตุอะไรในพื้นที่แล้วเขาคิดว่าเราช่วยได้จะบอกมา ซึ่งเราพร้อมส่งความช่วยเหลือไปให้ ล่าสุดก็มีทีมลงพื้นที่ จ.น่าน ไปช่วยเรื่องน้ำท่วม”
“แกร็บ” ปั้นแคมเปญปลุกพลังคน
ตัดภาพมาที่ฝั่งของ “แกร็บ” (Grab) ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มดีลิเวอรี่รายใหญ่อีกราย ก็มีกิจกรรมสานสัมพันธ์และสวัสดิการจูงใจไรเดอร์ไม่ต่างกัน เช่น ประกันอุบัติเหตุ การผ่อนชำระสินค้ารายวัน สินเชื่อ การอบรม GrabAcademy ส่วนลดจากพันธมิตร ทั้งค่าน้ำมันและการดูแลรถ รวมถึงสิทธิประโยชน์ตามระดับที่สูงขึ้น ซึ่งแกร็บแบ่งระดับของคนขับออกเป็น 4 ระดับ ได้แก่ พลทหาร จอมยุทธ์ เซียน และเทพ
อีกทั้งในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา แกร็บได้เปิดตัวแคมเปญ “Grab HUMAN RIDE-คน ขับ แกร็บ” จัดเต็มทั้งสื่อโฆษณาออนไลน์ และสื่อนอกบ้าน เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวการทำงานของไรเดอร์ที่ต้องเผชิญกับความท้าทายมากมาย ช่วยให้ผู้ใช้ได้เห็นอีกมุมในการทำงาน เช่น ส่งอาหารในวันฝนตก และรับ-ส่งคนช่วงเวลาเร่งรีบ
นอกจากนี้ ในวันที่ 16-17 ส.ค. 2568 แกร็บเตรียมจัดกิจกรรม “คุย ขับ แกร็บ Human Drivebrary” งานทอล์กห้องสมุดมนุษย์บนรถ ที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ได้เลือกสนทนากับคนขับแกร็บ ที่มีภูมิหลังชีวิตต่างกันทั้งหมด 19 คน เช่น คุณพ่อ-คุณแม่เลี้ยงเดี่ยว ทาสแมว วัยเกษียณ และโค้ชสุขภาพ เป็นต้น
สวัสดิการและแคมเปญต่าง ๆ ที่ 2 ยักษ์ค่ายเขียวพยายามทำออกมาเพื่อเอาใจเหล่าไรเดอร์ เป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นว่า “คน” เป็น “ต้นทุน” ที่สำคัญกับการดำเนินธุรกิจมาก และใครสั่งสมไว้ได้มากกว่า ก็สามารถเฉือนชนะคู่แข่งในแง่ของการให้บริการได้ทันที
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : แกร็บ-ไลน์แมน เปิดเกมชิง ‘ทุนมนุษย์’ แจกสวัสดิการจูงใจ ‘ไรเดอร์’
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.prachachat.net