ชัดเจนตามคำขอ!! “กัน จอมพลัง” พร้อมเสิร์ฟรถขี้ถึงชายแดนเขมร ระบุ ต้องให้กำลังใจทหารต่อสู้เอาแผ่นดินไทยคืนมา
สระแก้ว – “กัน จอมพลัง” จัดรถบรรทุกขี้พร้อมเสิร์ฟถึงชายแดนเขมร เรียกร้องให้อินฟลูฯเขมร ออกมาแสดงตัวตามคำท้า ระบุ คนไทยไม่เคยกลัว ต้องให้กำลังใจทหารต่อสู้เอาแผ่นดินไทยคืนมา เค้าอยู่มาประเทศไทยกี่ปี เราให้ที่ซุกหัวนอน ช่วยเหลือเค้ามา แต่เค้าจะมายึดเป็นแผ่นดินตัวเอง มันไม่ถูก ถ้าวันนี้ไม่เกิดเรื่องนี้ขึ้นมา เชื่อว่า เค้าก็ขยายต่อไปเรื่อย ๆ วันนี้ต้องให้มันจบได้แล้ว เมื่อวันที่ 28 ส.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลัง นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ “กัน จอมพลัง” นำรถขนสิ่งปฏิกูล หรือรถบรรทุกขี้ จำนวน 14 คัน เดินทางมาถึงชายแดนบ้านหนองจาน ม.3 ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแกว ซึ่งอยู่ห่างจากชายแดน ประมาณ 400-500 เมตร โดยมี พ.อ.ชัยณรงค์ กาสี ผบ.ฉก.อรัญประเทศ ,พ.ต.อ.ปริชาติ บรรจงปรุ ผกก.ตชด.ที่ 12 และเจ้าหน้าที่ทหารตำรวจ สภ.โคกสูง เจ้าหน้าที่ทหารสังกัดกองกำลังบูรพา ให้การต้อนรับ พร้อมนำรถบรรทุกขี้ จำนวน 14 คัน เดินทางเข้ามาบริเวณเส้นทางถนนศรีเพ็ญ ใกล้กับศูนย์อพยพบ้านหนองจานเดิม หลังอินฟลูฯเขมร ได้โพสต์ท้าทายและร้องขอกับ “กัน จอมพลัง” เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม ทำให้ “กัน จอมพลัง” ต้องจัดให้ตามคำขอ พร้อมกับวิ่งวอนเชิญชวนให้อินฟลูฯเขมร มาลิ้มลองรสชาติกากอาหารของคนไทยได้เลย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเที่ยงถึงบ่าย 3 เป็นช่วยที่พีคที่สุด เนื่องจากมีมวลชนคนไทยที่เดินทางมาจากหลายพื้นที่ในประเทศไทย โดยเฉพาะ จ.สระแก้ว ภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคใต้ รวมประมาณ 4,000 คน ร่วมกับถือธงชาติไทยและผลัดกันปราศรัย บริเวณหน้าจุดตรวจ จต.ส.40 ซึ่งห่างจากจุดที่ชาวกัมพูชาบุกรุกพื้นที่ประเทศไทย หลังแนวลวดหนามหีบเพลงและผ้าสแลนดำ ประมาณ 400-500 เมตร โดยผู้ร่วมแสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ ได้ร่วมกันร้องเพลงชาติ และเพลงปลุกใจ ด้วยเครื่องเสียงขนาดใหญ่ 2-3 จุด ส่งผลให้เกิดเสียงดังไปทั่วบริเวณถึงฝั่งกัมพูชา ทำให้บรรยากาศคึกคัก โดยเฉพาะช่วงที่ “กัน จอมพลัง” นำขบวนรถบรรทุกขี้เข้าพื้นที่ ซึ่งช่วงบ่ายมีการเปิดให้รถบรรทุกขี้หลายคนพร้อมด้วยทีมงานของ กัน จอมพลัง เข้าไปบริเวณหน้าแนว จุดที่ทหารไทยวางรั้วลวดหนามและสแลนดำด้วย
นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ “กัน จอมพลัง” กล่าวว่า วันนี้เรามาเพื่อให้รู้ว่า คนไทย ไม่ใช่จะพูดอะไรก็ได้ เราของแท้อยู่แล้ว บอกว่า กันจอมพลัง อยู่ไหน รถส้วมอยู่ไหน รถส้วมตอนนี้อยู่แล้ว ไอ้คนที่พูดรอกินด้วย วันนี้จัดให้แบบของสด เพิ่งดูดเมื่อคืน สารอาหารยังอยู่ การที่คุณประกาศหารถส้วม วินาทีแรกคิดว่า มันหิวหรือไม่ ผมก็จัดให้และอีกอย่างหนึ่ง ทุกคนต้องเป็นพยานให้ผม เพราะดูคลิปกันแล้วนะ ผมไม่ได้เป็นคนเรียกร้องนะ เค้าเรียกร้อง ผมเสิร์ฟหัวฉีดเลยปกติต้องเป็นรถรุ่นเก่า เปิดแล้วระบายออก แต่ตอนนี้เป็นแบบพุ่งอย่างแรง พรวด ๆ เลย ตอนแรกเตรียมมา 10 คัน กลัวไม่อิ่ม แถมให้อีก 4 เป็น 14 คัน
“เต็มทุกคัน เต็มปากเต็มคำ กลัวอย่างเดียว กลัวอร่อย ขอเพิ่ม เดี๋ยวหาของไม่ทัน เรียกแล้ว ของมาแล้วนะ ซึ่งผมก็ได้คุยกับท่านผู้การฯ แล้วก็มา วันนี้แสดงให้เห็นว่า คนไทยไม่เคยกลัว ซึ่งในบริบทของทหารอาจจะไปทำประชาชนไม่ได้ แต่ในมุมมองของประชาชนด้วยกัน ผมเป็นประชาชนคนไทย คุณเป็นประชาชนเขมร คนไทยไม่เคยกลัว ประเทศไทยยามศึกสงครามหรือเกิดอะไรก็แล้วแต่ คนไทยทุกคนพร้อมช่วยอยู่แล้ว วันนี้เราลุกขึ้นมาเพื่อปกป้องอธิปไตยของประเทศไทย วันนี้เค้าอยู่มาประเทศไทยกี่ปี เราให้ที่ซุกหัวนอนช่วยเหลือเค้ามาแต่เค้าจะมายึดเป็นแผ่นดินตัวเอง มันไม่ถูก ถ้าวันนี้ไม่เกิดเรื่องนี้ขึ้นมา เชื่อว่า เค้าก็ขยายต่อไปเรื่อย ๆ วันนี้ต้องให้มันจบได้แล้ว” กัน จอมพลัง กล่าว
นอกจากนั้น กัน จอมพลัง ยังบอกอีกว่า ถ้าวันนี้ตนไม่มา จะเกิดอะไรขึ้น พอมาจริง ๆ ถือว่า อ่อนว่ะ เจอของจริงไม่กล้าว่ะ ส่วนกรณีที่ทหารชายแดนอีสานเหยียบกับระเบิดนั้น ซึ่งตนใกล้ชิดกับทหารชั้นผู้น้อยมาก หลังมีทหารเหยียบกับระเบิดก็รู้สึกเสียใจ บางคนเป็นหน่วยที่ผมดูแลด้วย ทางมูลนิธิฯ ก็จะให้เยียวยาขาละ 50,000 บาท ก็พยายามที่จะเยียวยา แต่พยายามที่จะไม่ให้มันเกิดขึ้น ไม่รู้จะต้องมีอีกกี่ขา แต่มั่นใจว่ามันต้องมีทางออกทางจบ ตอนนี้เราต้องช่วยกันเป็นกำลังให้ทหาร ตำรวจที่เค้าทำงานในพื้นที่ ซึ่งตนก็ทำงานช่วยทหาร ตำรวจ ปกครอง เยอะมาก ไม่อยากให้มีการบั่นทอนความรู้สึกของการทำงาน ใครอยากทำงานไปด้วย ถูกด่าไปด้วย ทำคนมีแผนการทำงานเต็มที่ มีแผนการทำงาน แต่เค้าออกมาพูดไม่ได้ ไม่อยากให้ทำไปด่าไป เรามาช่วยก็มาช่วย ไม่จำเป็นต้องด่าใคร
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรานว่า สำหรับบรรยากาศทางด้านฝั่งกัมพูชา ในช่วงที่คนไทยรวมตัวกันเป็นจำนวนมาก ได้รับข้อมูลว่า ชาวกัมพูชารวมตัวกันบางตา โดยยังไม่พบว่า กลุ่มอินฟลูฯและชาวบ้านเขมร ที่ออกมาท้าทาย กัน จอมพลัง ออกมาแสดงตัวในบริเวณฝั่งตรงข้ามแต่อย่างใด —————————— ขอบคุณภาพเพิ่มเติม/รัชตะ ปัตธาธรรมกุล