พาณิชย์ ออกประกาศบังคับโรงงานรับซื้อข้าวโพด กก.ละ 9.80 บ.
กระทรวงพาณิชย์ ออกประกาศราคารับซื้อข้าวโพด บังคับโรงงานรับซื้อ 9.80 บ. มีผลพรุ่งนี้ ไม่ทำตามรับโทษตามกฎหมาย
นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ (นบขพ.) ครั้งที่ 5/2568 ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการคลัง กระทรวงอุตสาหกรรม สมาคมการค้าพืชไร่ และสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย ว่า ที่ประชุมเห็นชอบร่วมกัน ให้กระทรวงพาณิชย์ออกประกาศกำหนดราคา รับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เพื่อแก้ปัญหาราคาตกต่ำ
ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการขอความร่วมมือให้รับซื้อตามราคาที่กำหนดแต่ไม่ได้รับความร่วมมือ เนื่องจากยังมีความเห็นต่าง จึงจำเป็นต้องออกประกาศกระทรวงเพื่อให้มีผลบังคับใช้
โดยกำหนดราคารับซื้อข้าวโพดที่ความชื้นร้อยละ 30 จังหวัดเพชรบูรณ์ รับซื้อที่กิโลกรัม 7.50 บาท และ ข้าวโพดความชื้น ร้อยละ 14.5 ที่หน้าโรงงานอาหารสัตว์ กรุงเทพฯและปริมณฑล ที่กิโลกรัมละ 9.80 บาท จนสิ้นสุดฤดูกาล ส่วนพื้นที่อื่นขึ้นกับระยะทางขนส่ง โดยให้มีผลตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (29 ส.ค.68) เป็นต้นไป
นอกจากนี้ ยังกำหนดให้ผู้รวบรวมและโรงงานผลิตอาหารสัตว์ ต้องรายงานปริมาณการรับซื้อและเก็บสต๊อก เพื่อนำมากำหนดการขออนุญาตนำเข้าต่อไป
และหากมีการรับซื้อในราคาที่ต่ำกว่าประกาศ ถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 มาตรา 25(3) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 1 แสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ หรือตามมาตรา 29 มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนเกษตรกรที่มีการขายผลผลิตไปแล้วจะมีการหารือกันอีกครั้งว่าจะมีแนวทางช่วยเหลืออย่างไร
ด้านนายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน ระบุว่า ในช่วงที่ผ่านมาผลผลิตข้าวโพดออกสู่ตลาดราว 2 แสนตัน ซึ่งเกษตรกรไม่สามารถขายได้ตามราคาที่กำหนดเพราะโรงงานผลิตอาหารสัตว์ไม่รับซื้อตามที่ขอความร่วมมือ แต่หลังจากมีการออกประกาศเชื่อว่าจะทำให้เกษตรกรขายผลผลิตได้ตามราคาที่กำหนด
ทั้งนี้ผลผลิต จะเริ่มออกมากในช่วงเดือนกย.- ธค. และจะค่อยๆลดลดง ใน ช่วงมค.-กพ. คาดว่าผลผลิตปีนี้จะอยู่ที่ 4.7 ล้านตัน ขณะที่ความต้องการใช้อยู่ที่ 9.2 ล้านตัน
โดยไทยผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ไม่พอกับความต้องการทำให้ต้องนำเข้า ในแต่ละปีประมาณ 4-5 ล้านตัน ซึ่งมีการนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน เช่น สปป.ลาว กัมพูชา เมียนมา ประมาณ 1.6 ล้านตัน ต่อปี
แต่ปีนี้คาดว่าการนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้านลดลงไปครึ่งหนึ่ง จากมาตรการลดฝุ่น PM 2.5 ที่ต้องรับซื้อผลผลิตที่ไม่มีการเผาไร่ และ จากมาตรการปิดด่านจากข้อพิพาทไทย-กัมพูชา ทำให้การรับซื้อลดลง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook: https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews