โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

‘กลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดด่านขุนทด’ บุก ‘อำเภอ-สถานีตำรวจ’ ร้องทุกข์ทุนเหมืองโปแตชครอบครองวัตถุระเบิดเกินกำหนด

เดลินิวส์

อัพเดต 20 สิงหาคม 2568 เวลา 2.28 น. • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เดลินิวส์
‘กลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดด่านขุนทด‘ บุก ‘อำเภอ-สถานีตำรวจ’ ร้องทุกข์ทุนเหมืองโปแตช ครอบครองวัตถุระเบิดเกินกำหนด ทั้งที่ EIA ระบุไม่จำเป็นต้องใช้ ย้ำหน่วยงานรัฐต้องโปร่งใส–พร้อมจี้เร่งตรวจสอบปมเสียงคล้ายระเบิดดังในพื้นที่

เมื่อวันที่ 19 ส.ค. ที่ที่ว่าการอำเภอด่านขุนทด จ.นครราชสีมา นักปกป้องสิทธิมนุษยชนกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดด่านขุนทด พร้อมนายกริษณุภูมิ นิลนามะ ทนายความสิทธิมนุษยชน ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อนายอำเภอด่านขุนทด เพื่อเรียกร้องให้ดำเนินการเอาผิดต่อบริษัทเอกชนเหมืองแร่โปแตช ในกรณีการมีวัตถุระเบิดโดยไม่มีใบอนุญาตหลังพบความผิดปกติหลายอย่างในการขออนุญาตใช้ระเบิดและการครอบครองวัตถุอันตรายเกินระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด ทั้งที่รายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ปี 2556 ระบุชัดเจนว่าโครงการทำเหมืองใต้ดินไม่จำเป็นต้องใช้วัตถุระเบิด

โดยพบว่าบริษัทได้รับใบอนุญาต ซื้อ มี และใช้วัตถุระเบิด (แบบ ป.5) ตั้งแต่วันที่ 28 มี.ค. 2559 และใบอนุญาตสิ้นสุดในวันที่ 27 มี.ค. 2560 แต่กลับมีการครอบครองวัตถุระเบิดไว้นานกว่า 2 ปี จนถึงวันที่ 26 มี.ค. 2562 ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดทำลายวัตถุระเบิด (EOD) ได้เข้าดำเนินการทำลาย การกระทำดังกล่าวถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ มาตรา 37, 38 และ 41 ซึ่งมีโทษปรับและจำคุก นอกจากนี้ ยังพบว่าบริษัทฯ มีการครอบครองยุทธภัณฑ์โดยไม่มีใบอนุญาตนานกว่า 10 เดือน หลังใบอนุญาตมีซึ่งยุทธภัณฑ์ (แบบ ย.ภ.5) สิ้นสุดลงในวันที่ 23 พ.ค.

ด้วยเหตุนี้ กลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดด่านขุนทดจึงขอให้อำเภอด่านขุนทดฐานะนายทะเบียนท้องที่ ดำเนินการเอาผิดกับบริษัทเอกชนดังกล่าว ตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด ทั้งในเรื่องการให้ข้อมูลเท็จและการครอบครองวัตถุอันตรายโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อความปลอดภัยของประชาชนและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ประชาชนต้องเผชิญกับความเสี่ยงจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ด้านนางเดือนรุ่ง มูลขุนทด ผู้หญิงนักปกป้องสิทธิมนุษยชนกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดด่านขุนทด กล่าวว่า วันนี้อยากให้นายอำเภอด่านขุนทดชี้แจงว่า ได้มีการเข้าตรวจสอบบริษัทเหมืองหรือไม่ หลังจากที่มีการร้องเรียนไปก่อนหน้านี้ พร้อมแสดงความกังวลต่อเสียงคล้ายวัตถุระเบิดที่ยังเกิดขึ้นในพื้นที่ ทั้งที่ในปีนี้บริษัทไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้วัตถุระเบิดแต่อย่างใดสิ่งที่ประชาชนต้องการ คือความชัดเจน โปร่งใส และการดำเนินการตามกฎหมายจากหน่วยงานต้นทาง เพื่อสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยและปกป้องสิทธิของคนในพื้นที่ต่อไป

ส่วน น.ส.สุธีรา เปงอิน จากองค์กรโพรเทคชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล (PI) กล่าวว่า ในการใช้สิทธิทางกระบวนการยุติธรรมครั้งนี้เพื่อให้ตรวจสอบความไม่ชอบธรรมและดำเนินการเอาผิดทางกฎหมายกับบริษัทเอกชน ของนักปกป้องสิทธิมนุษยชนกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดด่านขุนทดในครั้งนี้ มิใช่เพียงการหยุดยั้งการทำเหมืองแร่โปแตชเพียงอย่างเดียว แต่เพื่อปกป้องสิทธิพลเมือง สิทธิในการมีสิ่งแวดล้อมที่ดี สิทธิในการเข้าถึงข้อมูล การมีส่วนร่วม และการเข้าถึงความยุติธรรม ซึ่งเป็นสิทธิที่ได้รับการรับรองภายใต้กฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ ซึ่งรัฐต้องปกป้อง คุ้มครองนักปกป้องสิทธิมนุษยชน การใช้สิทธิในกระบวนการยุติธรรมเพื่อตรวจสอบการดำเนินการของโครงการเหมืองแร่โปแตชที่มิชอบด้วยกฎหมายอย่างรวดเร็วและทันที

“ที่สำคัญรัฐต้องมีมาตรการป้องกันมิให้บริษัทเอกชนใช้การฟ้องคดีเชิงยุทธศาสตร์ (SLAPP) มาเป็นเครื่องมือในการข่มขู่และทำให้หวาดกลัวต่อการใช้สิทธิในการปกป้องของตนเองเป็นสิทธิที่ได้รับการรับรองภายใต้หลักการชี้แนะว่าด้วยธุรกิจและสิทธิมนุษยชนที่จะต้องได้รับการปกป้อง คุ้มครอง และเยียวยา และสอดคล้องกับข้อเสนอแนะของคณะกรรมการ CEDAW ที่เรียกร้องให้ประเทศไทยคุ้มครองผู้หญิงนักปกป้องสิทธิมนุษยชนโดยเฉพาะเกี่ยวข้องกับการเข้าถึงความยุติธรรมและการเยียวยาสำหรับผู้หญิง” น.ส.สุธีรากล่าว

ต่อมากลุ่มฯ ได้เดินทางไปยังสถานีตำรวจภูธรด่านขุนทดเพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สภ.ด่านขุนทด เพื่อให้พนักงานสอบสวนซึ่งมีอำนาจในการสอบสวนหาข้อเท็จจริง กรณีบริษัทเหมืองแร่โปแตชครอบครองหรือมีวัตถุระเบิดเกินกว่าระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด โดยนายกริษณภูมิ กล่าวว่า วันนี้ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อนายทะเบียนท้องที่อำเภอด่านขุนทด และได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.ด่านขุนทด เพื่อกล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับบริษัทเหมืองแร่ กรณีครอบครองวัตถุระเบิดโดยผิดกฎหมาย โดยเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเจ้าหน้าที่จะมีความจริงใจในการทำคดีนี้ เพื่อทวงคืนความยุติธรรมและความสงบเรียบร้อยของประชาชน และขอให้ประชาชนทุกคนช่วยกันติดตามผลการดำเนินคดี เพื่อปกป้องสิทธิและทรัพยากรธรรมชาติของพวกเรา.

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก เดลินิวส์

‘ทหารเรือ’เจอมือถือปริศนา‘ทหารเขมร’อัดคลิปวางทุ่นระเบิด PMN-2

13 นาทีที่แล้ว

‘ภูมิธรรม’ ขอบคุณ ‘อันวาร์’ หนุนแนวทางแก้ปัญหาไทย-กัมพูชา อย่างสันติ

15 นาทีที่แล้ว

ไลฟ์สไตล์แบบฉบับ “ดิว อริสรา” สวย หรู ดูแพงทุกอณูรูขุมขน กับต้นแบบชีวิตที่หลายคนฝันอยากเป็น

16 นาทีที่แล้ว

ผัวคลั่งยานรกตีหัวเมียด้วยเสาปูนดับคาไร่มัน พบประวัติทำร้ายคนในครอบครัวบ่อยครั้ง

17 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความการเมืองอื่น ๆ

ดิ้นไม่หลุด! พบมือถือปริศนาบนภูมะเขือ เปิดเจอภาพ-คลิปทหารกัมพูชาลอบวางระเบิด PMN-2

ไทยโพสต์

‘ทหารเรือ’เจอมือถือปริศนา‘ทหารเขมร’อัดคลิปวางทุ่นระเบิด PMN-2

เดลินิวส์

‘ภูมิธรรม’ ขอบคุณ ‘อันวาร์’ หนุนแนวทางแก้ปัญหาไทย-กัมพูชา อย่างสันติ

เดลินิวส์

ครม. ไฟเขียวชดเชยการนำเข้ายุทโธปกรณ์ Defence Offset กองทัพอากาศ

ประชาชาติธุรกิจ

“เท้ง” แนะรัฐบาล ตั้งโต๊ะสัญจร เยียวยาเหตุชายแดนถ้วนหน้า คาดใช้งบ 200 ล้าน

Thairath - ไทยรัฐออนไลน์

ทหารเรือ เจอโทรศัพย์ บนภูมะเขือ พบหลักฐานเพียบ ทหารกัมพูชาวางทุ่นระเบิด

กรุงเทพธุรกิจ

ข่าวและบทความยอดนิยม