“สมเด็จพระสังฆราช”ประทานพระคติธรรม “คนชาติไทย” จะรักษาความเป็นไทยอยู่ได้ด้วยมีสติ สำนึกอยู่ในความสามัคคี
เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2568 เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานพระคติธรรม เพื่อเป็นหลักการสำหรับพุทธบริษัทไทยทุกหมู่เหล่าในอันที่จะพิทักษ์รักษาพระพุทธศาสนาและคณะสงฆ์ ความว่า
ในท่ามกลางสถานการณ์ที่เกิดขึ้นต่อคณะสงฆ์ยามนี้ ขอคณะสงฆ์จงมีสติระลึกรู้ในอันที่สำรวมระวัง ครองตนในพระปาฏิโมกข์ อันสมเด็จพระบรมศาสดาได้โปรดประทานไว้เป็นหลักประพฤติของเราทั้งหลายผู้เป็นสมณะอย่างเคร่งครัด เพื่อธรรมนั้นจักได้ปกป้องคุ้มครองผู้ประพฤติธรรม ให้มีชัยเหนือปัญหา และก้าวข้ามพ้นอุปสรรคไปได้โดยสวัสดี ขอถวายกำลังใจให้สมณะที่ดี จงมีขันติธรรม พรหมวิหารธรรม และอิทธิบาทธรรม อย่างแกล้วกล้าเข้มแข็ง เพื่อรักษาพระบวรพุทธศาสนาให้ดำรงอยู่คู่สังคมไทยตลอดกาลนาน ขอให้ทราบถึงความห่วงใยที่มหาเถรสมาคมมีต่อบรรพชิตทุกรูปผู้เป็นสหธรรมิก ซึ่งมุ่งมั่นครองตน และครองงานด้วยวิริยภาพอาจหาญ แม้ในยามที่กำลังใจของท่านอาจถูกบั่นทอนโดยเหตุปัจจัยนานาประการ
ขอพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย ไม่ว่าจะอยู่ในภาครัฐ ภาคเอกชน หรือภาคประชาชน โปรดช่วยกันประคับประคองคณะสงฆ์ ถวายสรรพกำลังสนับสนุนและอารักขาคุ้มครองให้พระภิกษุสามเณร มีเรี่ยวแรงกำลังกาย กำลังใจ และกำลังความรู้ความสามารถ ในอันที่จะธำรงรักษาพระศาสนา ประพฤติปฏิบัติตนตามพระธรรมวินัย ปกครองดูแลวัด ดำรงฐานะเป็นหลักใจของชุมชน เป็นศูนย์กลางแห่งความสมัครสมานสามัคคีของชาวบ้าน ชาววัด และหน่วยราชการ ซึ่งเป็นรากฐานสัมพันธภาพของสังคมไทย ขอจงใช้มุ่งสนองงานคณะสงฆ์ด้วยไมตรีจิต ตามขนบวัฒนธรรมประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์ของชาติ จงละวางจริยาอันอาจก่อให้เกิดความบาดหมางคลางแคลงใจกัน จงเพิ่มพูนทัศนคติอันดี ด้วยกระบวนวิธีอย่างกัลยาณมิตร เฉกเช่นสาธุชนคนดีพึงปฏิบัติต่อสมณะในพระพุทธศาสนา ตามวิถีอันชอบด้วยพระธรรมวินัยและกฎหมายในที่ทุกสถานและในกาลทุกเมื่อ
“สติ” เป็นธรรมอันมีอุปการะมาก จึงขอให้พุทธบริษัทไทยทุกหมู่เหล่า จงมั่นในธรรมภาษิตที่ว่า “ทยฺยชาติยา สามคฺคิยํ สติสญฺชานเนน โภชิสิยํ รกฺขนฺติ” ความว่า “คนชาติไทย จะรักษาความเป็นไทยอยู่ได้ด้วยมีสติ สำนึกอยู่ในความสามัคคี”