โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที

“ดีป้า”เชื่อดัชนีดิจิทัลดีขึ้นหลังไทยโดนภาษีทรัมป์ลดเหลือ 19%

เดลินิวส์

อัพเดต 11 สิงหาคม 2568 เวลา 19.41 น. • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เดลินิวส์
ชี้ไทยโดนภาษีทรัมปฺลดลงเหลือ 19 % เป็นสัญญาณที่ดี เชื่อดัชนีกิจิทัลไทย จะปรับตัวดีขึ้นในไตรมาสต่อไป

นายณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า เปิดเผยว่า การที่ประเทศไทยถูกสหรัฐอมริกาเรียกเก็บภาษีลดลงเหลือ 19% จากเดิมในอัตรา 36% นั้น ซึ่งเป็นอัตราเดียวกันและใกล้เคียงกับประเทศอื่นๆในภูมิภาคอาเซียน หากมองเป็นรายสินค้า อย่างเช่น สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ก็เป็นบริษัทที่ถือหุ้นโดยสหรัฐฯอยู่แล้ว ซึ่งปกติโรงงานเหล่านี้จะหาฐานการผลิตที่มีต้นทุน ค่าแรง รวมถึงสียภาษีที่ถูกอยู่แล้ว จึงคิดว่าไม่ค่อยมีผลกระทบมาก ส่วนการที่ให้บริษัทจากสหรัฐเข้ามาดำเนินธุรกิจในไทยได้สะดวกมากขึ้น ถือเป็นเรื่องที่ดี แต่ต้องไปดูผลกระทบที่เกิดขึ้นกับบริษัทจากจีน ไม่ให้เกิดความเสียเปรียบมากเกินไป หรือผลกระทบที่เกิดกับบริษัทผู้ลงทุนคนไทย เมื่อมองตัวเลขการลงทุนกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ฮาร์ดไดรฟ์ และอุตสหากรรมซอฟต์แวร์ ก็ตอบรับดีกับมาตรการภาษี 19% ของประธานนาธิบดีทรัมป์ จากเดิมที่หลายฝ่ายคาดการณ์ว่าจะโดนเรียกเก็บภาษีมากกว่านี้ ทำให้เสียงตอบรับจากนักลงทุนเป็นในทิศทางที่ดี”

“ดีป้า คาดกาณ์ว่าตัวเลขดัชนีดิจิทัลของไทยน่าจะปรับตัวดีขึ้น โดยประธานาธิบดีทรัมป์ น่าจะผลักดันให้บริษัทอเมริกา เข้ามาใช้สิทธิพิเศษภาษีในการบริการในไทยมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น คลาว์ด ดาต้าเซ็นเตอร์ เอไอ สิ่งเหล่านี้จะมีการลงทุนเพิ่มขึ้นตามมา สำหรับในส่วนที่ที่เป็นฮาร์ดแวร์ ที่แข่งในเรื่องต้นทุนผลิต แต่เชื่อว่าธุรกิจและผู้ประกอบการเหล่านี้มีวิธีในการทำงานและปรับตัว เพราะอุปกรณ์ส่วนใหญ่ไม่ได้ผลิตสุดท้ายในไทย อย่างไรก็ตามในส่วนของตัวเลขการของส่งเสริมการลงทุน จากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ ในส่วนของกลุ่มอุตสาหกรรมดิจิทัลรวมดาต้าเซ็นเตอร์ อยู่ที่ประมาณ 5 แสนล้านบาท ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาไม่เคยมีตัวเลขสูงแบบนี้ ซึ่งดีป้าเชื่อว่าจะส่งผลต่อ ดัชนีดิจิทัลของไทยในช่วงไตรมาสถัดไป และหากในอนาคตตัวเลขการลงทุนใน กลุ่มอุตสาหกรรมดิจิทัลรวมดาต้าเซ็นเตอร์เพิ่มขึ้นเป็น 6-7 แสนล้านบาท ก็ถือว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่มีศักยภาพน่าลงทุนสูงอยู่

นายณัฐพล กล่าวต่อว่า ปัญหาถัดไปของประเทศไทย คือ เมื่อมีการแข่งขันสูง ต้องกลับมาดูสิ่งอำนวยความสะดวกให้กลุ่มนักลงทุนเหล่านี้ เช่น พลังงานสีเขียว ต้นทุนการลงทุน ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องสนับสนุนอุตสาหกรรมดิจิทัล "โก กรีน" ให้ดำเนินธุรกิจในไทยได้ ส่วนเรื่องบุคลลากรที่ขาดแคลน ไทยควรจะต้องทำ ทาเล้นท์ ดิจิทัล วีซ่า ให้เกิดขึ้นให้ได้ เมื่อไทยผลิตแรงงานด้านนี้ไม่ทันก็ต้องเปิดโอกาสให้แรงงานต่างชาติที่มีทักษะส่วนนี้เข้ามา หลังจากนั้นค่อยมาดูแผนการพัฒนากำลังคน เพราะการจะสร้างบุคลากรที่เชี่ยวชาญใน1-2 ปี เป็นเรื่องยาก” นายณัฐพล กล่าว

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก เดลินิวส์

Humanica ผนึก TBS ขับเคลื่อน HR วงการแพทย์ไทย

33 นาทีที่แล้ว

ชวนสำรวจเมืองกรุงด้วยวิทยาศาสตร์ ‘งาน Wit in Bangkok 2025’

55 นาทีที่แล้ว

‘โฆษกทบ.’ โต้ ‘มาลี’ ป้อง ‘แม่ทัพภาค 2’ ย้ำไทยไม่ยั่วยุ ใช้กำลังทางทหารต่อปราสาทตาควาย

55 นาทีที่แล้ว

สหราชอาณาจักรเล็งขยายโครงการ “เนรเทศอาชญากรต่างชาติ”

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความไอทีอื่น ๆ

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...