กลับมาไทยในรอบ 12 ปี The Phantom of the Opera ไขคำตอบ ละครเวทีที่ต้องดูสักครั้งในชีวิต
กลับมาไทยในรอบ 12 ปี The Phantom of the Opera ไขคำตอบ ละครเวทีที่ต้องดูสักครั้งในชีวิต
“ต้องดูสักครั้งในชีวิต” เรียกว่าเป็นประโยคคลาสสิก ที่ถูกหยิบยกมาบรรยาย เมื่อพูดถึง สุดยอดละครเวทีระดับโลก The Phantom of the Opera (เดอะ แฟนธอม ออฟ ดิ โอเปร่า) ที่เพิ่งมาเปิดการแสดงอีกครั้งที่ประเทศไทย หลังผ่านไป 12 ปี ณ เมืองไทยรัชดาลัย เธียเตอร์
The Phantom of the Opera นับเป็นชื่อที่หลายคนเคยได้ยิน แม้ไม่ใช่แฟนละครเวทีก็ตาม ผลงานก้องโลก บทประพันธ์ของกัสตง เลอรู ที่นำมาดัดแปลงเป็นละครเวที แบบ Mega-Musical ที่ต้องยิ่งใหญ่อลังการ ฟังแล้วรู้สึกทรงพลัง โดยโปรดิวเซอร์ชื่อดัง แอนดรูว์ ลอยด์ เว็บเบอร์
ละครเวทีเรื่องนี้ ได้รับการยกย่องว่าเป็น 1 ในโปรดักชั่นที่งดงามและน่าตื่นตาที่สุดในประวัติศาสตร์ มีผู้เข้าชมแล้วกว่า 160 ล้านคน ใน 205 เมือง 21 ภาษา การันตีความเป็นที่สุดของละครเวทีด้วยรางวัลสำคัญต่างๆ มากมายกว่า 70 รางวัล จัดแสดงมายาวนานเกือบ 4 ทศวรรษ โดยถือเป็นละครเพลงที่จัดแสดงยาวนานที่สุดเป็นอันดับ 2 ของลอนดอน รองจาก Les Misérables
ข้อมูลในเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ The Phantom of the Opera ในขณะที่ผู้ชมชาวไทยกำลังอิ่มเอมกับละครเวทีดังกล่าว ผู้ชมใน นิวยอร์ก ลอนดอน ฟุกุโอกะ และ อเมริกาเหนือ ก็กำลังรับชมทัวร์ละครเวทีนี้อยู่เช่นกัน สำหรับในเวอร์ชั่นที่แสดงในเมืองไทยนั้น ได้ ซามูเอล วิน มอร์ริส มารับบท แฟนธอม “ปีศาจโรงละคร” ,เกรซ โรเบิร์ตส์ รับบท คริสทีน ดาเอ้ และ รอรี่ แมคคอลลัม รับบท ราอูล
บทประพันธ์รักอมตะเรื่องนี้ เล่าเรื่องราวโดยมีโรงละครเป็นฉากหลัง ซ่อนไว้ด้วยโศกนาฏกรรมรัก ของ อัจฉริยะทางดนตรีผู้มีใบหน้าอัปลักษณ์ “แฟนธ่อม” ที่หลงรักนักร้องอุปรากรสาว“คริสตีน ดาเอ้” คอยสนับสนุนลูกศิษย์คนนี้ให้ประสบความสำเร็จ ทำให้คริสตีน มองว่าเขาเป็นเทวดา
ก่อนที่ “ราอูล” บุรุษรูปงาม น้องชายของเคาต์ฟิลลิปป์ เดอ ชานี ผู้อุปถัมภ์โรงละคร ผู้เป็นเพื่อนวัยเด็กของคริสตีน จะเข้ามา ทำให้กลายเป็นเรื่องรักสามเส้า ที่คริสตีน จะต้องตัดสินใจครั้งสำคัญ และด้วยเล่าเรื่องผ่านโรงละคร จึงได้เห็นตัวละครที่สร้างสีสัน และทำให้เรื่องราวน่าสนใจ อีกไม่น้อย
The Phantom of the Opera เปิดฉากเริ่มเรื่องได้อย่างน่าสนใจ เพียงแค่ฉากแรกที่ได้เห็นแชนเดอเลียร์ ค่อยๆเคลื่อนขึ้นไปบนหลังคาของโรงละคร พร้อมกับเพลงโหมโรง (Overture) แบบสดๆ ก็ทำให้ผู้ชมขนลุกไปตามๆกัน
ก่อนที่เราจะได้อิ่มเอมกับการเล่าเรื่องราวแบบฉับไว มาครบบทเพลงตำนานที่รอฟังอย่าง The Music of the Night, All I Ask of You, Wishing You Were Somehow Here Again หรือ Masquerade ซึ่งนักแสดงร้องดีไม่มีตก ผสานกับบรรเลงโดยนักดนตรีชาวไทย อย่างลงตัว สมศักดิ์ศรีโปรดักชั่นระดับโลก
และด้วยเป็นโปรดักชั่นระดับโลก ฉากแต่ละฉากที่เห็นยิ่งใหญ่ สวยงาม เปลี่ยนฉากอย่างที่ผู้ชมต่างอึ้งถึงความรวดเร็ว อย่างฉากใต้โรงละครอันงดงาม และฉากเพลง Masquerade ที่รู้สึกประทับใจกับบันไดที่แค่ไปดูฉากก็นับว่าคุ้ม ขณะที่นักแสดงในเรื่อง มิใช่แค่นักแสดงนำทั้ง 3 ก็ขับร้อง และโชว์เสน่ห์เฉพาะตัวของตัวละครได้อย่างกินใจ สมบทบาท
กลับไปดูแฟนธอมอีกครั้งหลัง 12 ปีผ่านไป คล้ายกับว่า ละครเวทีได้ปรับเปลี่ยนบท และการถ่ายทอดอารมณ์บางอย่าง ที่ทำให้รู้สึกว่า คริสตีน เองก็รู้สึกดีกับแฟนธอม ผู้ให้สิ่งต่างๆกับเธอด้วยความรัก และจำเป็นต้องเลือกเส้นทางที่แสนจะยากเย็น เป็นความยินยอมและเลือกได้เอง มิใช่การบังคับเหมือนกับที่เคยติดใจ ทำให้เมื่อถึงคราวที่ละครเวทีเรื่องนี้ต้องจบลง เราอาจรู้สึกสงสารตัวละครบางตัวอย่างจับใจ
ปิดม่านการแสดงพร้อมกับความอิ่มใจ สมกับคำว่า “ระดับโลก” จริงๆ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เปิดม่านแล้ว Phantom of the Opera มิวสิคัลดังระดับโลก เหล่าคนดัง ตบเท้าพิสูจน์โปรดักชั่น
- นักแสดงนำ THE PHANTOM OF THE OPERA โชว์เพลงฮิต อุ่นเครื่องแฟนๆ ก่อนโชว์จริง 5-31 ส.ค.นี้
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : กลับมาไทยในรอบ 12 ปี The Phantom of the Opera ไขคำตอบ ละครเวทีที่ต้องดูสักครั้งในชีวิต
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th