“เวียดนาม” เปิดเสรีตลาดทองคำ ยุติการผูกขาดของรัฐ หวังลดช่องว่างราคากับตลาดโลก
"เวียดนาม" ออกกฤษฎีกาเปิดทางเอกชน–ธนาคารพาณิชย์ผลิตทองคำแท่งและนำเข้าทองคำดิบ หลังยกเลิกการผูกขาดโดยรัฐ หวังเพิ่มอุปทาน ลดปัญหาราคาทองในประเทศสูงกว่าตลาดโลก
วันที่ 27 สิงหาคม 2568 เวลา 13.57 น. สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า เวียดนามประกาศเปิดเสรีตลาดทองคำ ยุติการผูกขาดของรัฐที่ครอบคลุมทั้งการนำเข้า–ส่งออกทองคำดิบและการผลิตทองคำแท่ง โดยคาดว่ามาตรการดังกล่าวจะช่วยเพิ่มปริมาณอุปทานและลดช่องว่างราคาทองคำในประเทศกับตลาดโลก
Pham Luu Hung หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ SSI Securities Corp. ระบุว่า นี่คือจุดเปลี่ยนสำคัญ เพราะถือเป็นการเปลี่ยนผ่านจากระบบควบคุมโดยรัฐไปสู่ตลาดแข่งขันภายใต้กฎเกณฑ์ที่โปร่งใสและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ตามพระราชกฤษฎีกาฉบับใหม่ บริษัทเอกชนและธนาคารพาณิชย์ที่ได้รับอนุญาตจากธนาคารกลางสามารถผลิตทองคำแท่งได้ ขณะที่ธนาคารกลางจะเป็นผู้อนุมัติใบอนุญาตนำเข้าทองคำดิบ รวมถึงการค้าทองคำแท่งระหว่างประเทศ
ก่อนหน้านี้ รัฐเป็นผู้ควบคุมการผลิตทองแท่งและการค้าทองคำดิบระหว่างประเทศแต่เพียงผู้เดียว ภายใต้ระบบผูกขาดโดยรัฐ
สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการใบอนุญาต ต้องมีทุนจดทะเบียนอย่างน้อย 1 ล้านล้านด่อง หรือราว 41 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนธนาคารพาณิชย์ต้องมีทุนอย่างน้อย 50 ล้านล้านด่อง ทั้งนี้ทองคำดิบที่นำเข้าจะต้องมีความบริสุทธิ์ขั้นต่ำ 99.5% และใช้เฉพาะเพื่อวัตถุประสงค์ที่กฎหมายกำหนด เช่น การผลิตทองคำแท่งและเครื่องประดับ
ทั้งนี้ ทองคำ ถือเป็นสินทรัพย์ที่ชาวเวียดนามนิยมเก็บสะสมมานาน จากประสบการณ์สงคราม การปฏิวัติ และความผันผวนทางเศรษฐกิจในอดีต แต่ราคาทองในประเทศมักสูงกว่าตลาดโลกมาก แม้รัฐบาลจะสั่งการหลายครั้งให้ธนาคารกลางและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพยายามรักษาเสถียรภาพตลาด
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ราคาทองในเวียดนามอยู่ที่ 128 ล้านด่องต่อ “เทล” (หน่วยท้องถิ่น) หรือราว 4,857 ดอลลาร์สหรัฐต่อเทล คิดเป็นประมาณ 4,028 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ สูงกว่าราคาทองคำสปอตโลกซึ่งอยู่ที่ราว 3,377 ดอลลาร์ต่อออนซ์
To Lam เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม เคยระบุในการประชุมเมื่อเดือนพฤษภาคมว่า ความไม่ยืดหยุ่นของตลาดทองคำภายในประเทศที่ไม่สอดคล้องกับอุปสงค์–อุปทานโลก ส่งผลกระทบเชิงลบต่อเศรษฐกิจ จึงต้องเร่งเปิดเสรีตลาด เพิ่มอุปทาน และแก้ปัญหาการลักลอบข้ามพรมแดน
เมื่อปีที่แล้วความต้องการทองคำของผู้บริโภคเวียดนามอยู่ที่ 55.3 ตัน เพิ่มขึ้นจาก 39.8 ตันในปี 2563 ตามข้อมูลของสภาทองคำโลก (World Gold Council) ในขณะที่ราคาทองคำโลกทำสถิติสูงสุดในเดือนเมษายน จากแรงซื้อสะสมของธนาคารกลางและนักลงทุน ส่งผลให้ตลาดทองคำในเอเชีย รวมถึงเวียดนาม ยิ่งคึกคัก
อ้างอิง : bloomberg.com