สภาผู้บริโภค เสนอรัฐโยกงบทางด่วนสองชั้น 34,000 ล้าน ต่ออายุรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายแทน มองเกินความจำเป็น ไม่ช่วยแก้ปัญหารถติดได้จริง
BTimes
อัพเดต 27 สิงหาคม 2568 เวลา 22.43 น. • เผยแพร่ 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา • อัพเดตข่าวหุ้น ธุรกิจ การเงิน การลงทุน การตลาด การค้า สุขภาพ กับ บัญชา ชุมชัยเวทย์ - BTimes.Bizสภาองค์กรของผู้บริโภค (สภาผู้บริโภค) เสนอให้รัฐบาลใช้งบประมาณ 34,000 ล้านบาท ที่กระทรวงคมนาคมได้ตั้งงบประมาณในการดำเนินโครงการทางด่วนสองชั้น เพื่อแก้ปัญหาจราจรในกรุงเทพมหานคร ขอให้รัฐบาลเลือกนโยบายและดำเนินการขนส่งสาธารณะ แทนการสร้างถนนทางด่วนสองชั้นที่เกินความจำเป็น และไม่สามารถแก้ปัญหาการจราจรได้จริง และเสนอให้นำงบประมาณเดินหน้านโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย
ทั้งนี้ นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เป็นนโยบายสำคัญของพรรคเพื่อไทย และหลายพรคการเมืองก็มีนโยบายใกล้เคียงกัน เช่น พรรคภูมิใจไทย 40 บาทต่อวันไม่จำกัดเที่ยว, พรรคประชาชน รถเมล์และรถไฟฟ้า 8-45 บาทตลอดสาย, พรรคประชาธิปัตย์ 50 บาทตลอดวันตลอดสายไม่จำกัดเที่ยว และมีอีกหลายพรรคการเมืองที่สนับสนุนให้มีบริการขนส่งสาธารณะที่เข้าถึงและเท่าเทียมมากขึ้น
สภาผู้บริโภค และสมาชิกสภาผู้บริโภคใน 58 จังหวัด ได้เสนอและผลักดันนโยบาย "ขนส่งมวลชน ทุกคนขึ้นได้ทุกวัน" เดินออกจากบ้าน 500 เมตร เจอป้ายรถสองแถว (รถเมล์) ค่าบริการขนส่งสาธารณะไม่ควรเกิน 10% ของค่าแรงขั้นต่ำของประชาชนทุกคนทั่วประเทศ และจากการทำงานของสภาผู้บริโภค มีข้อมูลเชิงประจักษ์รองรับชัดเจน ผลการศึกษาของอนุกรรมการผู้เชี่ยวชาญสภาผู้บริโภค ชี้ชัดว่า ค่าใช้จ่ายเดินรถ/คน/เที่ยว ของผู้บริโภคระหว่าง พ.ศ. 2557-2562 มีต้นทุนเฉลี่ย/คน/เที่ยวโดยสาร ระหว่าง 10.10-16.30 บาท ขึ้นกับจำนวนผู้โดยสาร และค่าใช้จ่ายในแต่ละปี
ซึ่งข้อมูลดังกล่าว สอดคล้องกับผลการศึกษาของกรุงเทพมหานคร (กทม.) ที่ยืนยันว่า ค่าบริการเดินรถประมาณ 11-13 บาท/คน/เที่ยว รวมถึงโครงการศึกษากำหนดอัตราค่าโดยสาร ของกรมการขนส่งทางราง ปี 2567 ที่ระบุว่า ค่าเฉลี่ยต้นทุนงานระบบรถไฟฟ้าต่อผู้โดยสาร สำหรับรถไฟฟ้ารางหนัก (Heavy rail) จะอยู่ที่ 14.31 บาท และรถไฟฟ้ารางเบา (LRT หรือ Monorail) จะอยู่ที่ 11.67 บาทเท่านั้น
แสดงให้เห็นว่า ค่าโดยสาร 20 บาท มีความเป็นไปได้จริง และเป็นราคาที่ยุติธรรมต่อผู้บริโภค และที่สำคัญบริการรถไฟฟ้ายังมีรายได้เพิ่มเติมจากการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และรายได้จากการโฆษณาของรถไฟฟ้าที่เกิดขึ้นอีกจำนวนมาก เพียงแต่การดำเนินการที่ผ่านมา สัญญาสัมปทานที่เกิดขึ้นทั้งหลาย มี "มรดกบาป" หรือ "ค่าโง่" ที่ติดค้างการดำเนินการมาจนถึงปัจจุบัน
ดังนั้น จึงขอเสนอและเรียกร้องต่อรักษาการนายกรัฐมนตรี และรัฐบาล ให้ยึดมั่นในหลักการที่ว่า ระบบขนส่งสาธารณะเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของผู้บริโภคทุกคนที่ต้องขึ้นได้จริงทุกวัน ขอให้นำงบประมาณจำนวนไม่น้อยกว่า 34,000 ล้านบาท ที่กระทรวงคมนาคมได้ตั้งงบประมาณไว้ในการดำเนินโครงการทางด่วนสองชั้น โดยใช้เหตผลเพื่อแก้ปัญหาการจราจรในกรุงเทพฯ ที่ไม่สามารถแก้ปัญหาการจรจรได้จริงปรับเปลี่ยนนำงบประมาณส่วนนี้ มาใช้เพื่อให้บริการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย สามารถเดินหน้าได้จริง ถึงแม้จะยังไม่มี "กฎหมายตั๋วร่วม" หรือกฎหมายอื่นๆ ตามที่ชี้แจง เพื่อให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลในฐานะผู้บริหารประเทศ สะท้อนให้เห็นว่า ได้ตัดสินใจปรับเปลี่ยนงบประมาณบางด้านที่เกินความจำเป็น และมีประโยชน์น้อยกว่า โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ที่แท้จริงของผู้บริโภค และประเทศชาติโดยรวม
ทั้งนี้ บริการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทาง แก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ลดการใช้พลังงานฟอสซิล ก้าวสู่การใช้พลังงานสะอาด ลดค่าครองชีพเพิ่มคุณภาพชีวิตประชาชน และสร้างความเท่าเทียมในการเข้าถึงระบบขนส่งสาธารณะให้กับประชาชนทุกคน ซึ่งสอดคล้องกับหลักการที่ว่า ระบบขนส่งสาธารณะเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของผู้บริโภคทุกคน
นอกจากนี้ ยังมีงบประมาณเหลือจำนวน 28,500 ล้านบาท (34,000-5,500 = 28,500 ล้านบาท) ซึ่งรัฐบาลสามารถจัดซื้อรถเมล์ไฟฟ้าให้บริการผู้บริโภคในต่างจังหวัดได้มากถึง 5,700 คัน หรือจำนวน 75 คัน/จังหวัด (ประมาณราคารถเมล์ไฟฟ้า 5 ล้านบาท/คัน) และที่สำคัญโครงการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ยังมีประโยชน์และมีมูลค่ามากถึง 10,049.73 ล้านบาท ต่อการพัฒนาในด้านต่าง ๆ อาทิ ประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางได้มากถึง 7,360.43 ล้านบาท ลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุ และเพิ่มคุณภาพชีวิตประชาชน คิดเป็นมูลค่า 2,612.02 ล้านบาท ลดการปล่อย CO2 เป็นเงิน 77.28 ล้านบาท