โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

แฟชั่น บิวตี้

ความรู้ใหม่ แอสตาแซนธินมีประสิทธิภาพมากกว่าวิตามินซี 6,000 เท่า!

SistaCafe

อัพเดต 14 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 14 ชั่วโมงที่ผ่านมา • SistaCafe

ชาวซิสเคยได้ยินประโยคที่ว่า “แอสตาแซนธินมีประสิทธิภาพมากกว่าวิตามินซี 6,000 เท่า” บ้างไหม ? จริง อยู่ที่วิตามินซีมีหน้าที่หลายประการ แต่หากเปรียบเทียบคุณสมบัติเด่นเรื่องการต้านอนุมูลอิสระระหว่างแอสตาแซนธินและวิตามินซีแล้วล่ะก็อาจจะได้ความรู้ใหม่กันเลยทีเดียว

โดยปกติมนุษย์เรารับออกซิเจนเข้าสู่ร่างกายโดยการหายใจ จากนั้นจะถูกดูดซึมเข้าสู่เส้นเลือดฝอยส่งต่อไปยังถุงลมในปอดและถ่ายโอนไปยังฮีโมโกลบินในเลือด จากนั้นจะถูกส่งไปทั่วร่างกายผ่านกระแสเลือด

เมื่อเซลล์หายใจ เซลล์จะใช้สารอาหารและออกซิเจนเพื่อย่อยสลายคาร์บอนไดออกไซด์และน้ำ ในกระบวนการนี้จะเกิดปฏิกิริยาเคมีที่ปล่อยสารที่เรียกว่า ATP (อะดีโนซีนไตรฟอสเฟต) ออกมา สารนี้จะทำหน้าที่เหมือนแบตเตอรี่ของเซลล์ คอยเก็บพลังงานที่ได้จากการสลายอาหารและนำไปใช้ในกระบวนการต่าง ๆ ของเซลล์

นอกจากนี้ พลังงานจะถูกผลิตขึ้นอีกครั้งเมื่อ ATP ถูกสลายให้เป็นสารที่เรียกว่า ADP (อะดีโนซีนไดฟอสเฟต) มีความสำคัญในกระบวนการเผาผลาญพลังงานของเซลล์ซึ่งจำเป็นต่อการดำรงอยู่ของมนุษย์

อย่างไรก็ตาม 2% ของออกซิเจนที่เข้าสู่ร่างกายผ่านการหายใจจะกลายเป็น "ออกซิเจนที่ทำปฏิกิริยาได้" (reactive oxygen species หรือ ROS) ซึ่งเกิดขึ้นตามธรรมชาติในกระบวนการเมตาบอลิซึมของเซลล์ แต่หากมีปริมาณมากเกินไปจะทำให้เกิดความเครียดและความเสียหายต่อเซลล์ สิ่งที่น่าสนใจคือแอสตาแซนธินสามารถช่วยกำจัดออกซิเจนที่ทำปฏิกิริยานี้ได้ หรือทำหน้าที่เป็นวิตามินซี-ป้องกันกรดอย่างได้ผล

ออกซิเจนที่ทำปฏิกิริยาได้จะมีฤทธิ์ออกซิไดซ์ที่รุนแรงมากและออกซิไดซ์เซลล์ต่างๆ ทั่วร่างกาย ส่งผลให้เซลล์เสื่อมสภาพลงจนก่อให้เกิดโรคต่างๆ ผมหงอก และอาจก่อให้เกิดปัญหาผิวได้

มนุษย์เราคงไม่อยากให้ร่างกายผลิตออกซิเจนที่ทำปฏิกิริยาได้มากจนเกินไป แต่ตราบใดที่เรายังคงหายใจเพื่อดำรงชีวิตออกซิเจนที่ทำปฏิกิริยาได้ก็จะถูกผลิตขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะออกซิเจนที่ทำปฏิกิริยาได้ยังคงมีประโยชน์ เช่น โจมตีไวรัสที่บุกรุกเข้าสู่ร่างกาย และโจมตีเซลล์มะเร็งที่เกิดขึ้นในร่างกายของเราทุกวัน กล่าวได้ว่าเป็นสารที่จำเป็นต่อร่างกายนั่นเอง

อย่างไรก็ตามการแก่ตัวลง การออกกำลังกายอย่างหนัก ความเครียด มลภาวะทางอากาศและปัจจัยอื่นๆ อาจทำให้ปริมาณออกซิเจนที่ทำปฏิกิริยาได้นี้มีเพิ่มขึ้นมากเกินความจำเป็น ร่างกายจึงต้องการ *สารต้านอนุมูลอิสระเพื่อป้องกันไม่ให้ปริมาณออกซิเจนที่ทำปฏิกิริยาได้มีเพิ่มขึ้นมากเกินไป

(*ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ หมายถึง ความสามารถในการระงับฤทธิ์ออกซิเดชันของเซลล์ที่เกิดจากออกซิเจนที่ทำปฏิกิริยาได้ ยิ่งอายุมากขึ้นความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระจะยิ่งลดลง การรับประทานส่วนผสมที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระจะช่วยยับยั้งการเกิดออกซิเดชันในเซลล์หรือการเพิ่มกรดในร่างกายได้ ซึ่งคาดว่าจะช่วยบรรเทาปัญหาต่างๆ เช่น การแก่ก่อนวัยและโรคต่างๆ ที่กล่าวมา โดยส่วนผสมต้านอนุมูลอิสระ ได้แก่ วิตามินเอ, โพลีฟีนอล, วิตามินซี, และวิตามินอีที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระที่แข็งแกร่ง)

อย่างไรก็ตาม แอสตาแซนธินกำลังเป็นกระแสและได้รับความสนใจในแวดวงสุขภาพ ด้วยคุณสมบัติที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระสูงถึงขนาดที่หากเปรียบให้เห็นภาพง่าย ๆ ก็กล่าวได้ว่ามีประสิทธิภาพสูงกว่าวิตามินซีซึ่งมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระอย่างแข็งแกร่งถึง 6,000 เท่า

แอสตาแซนธินและวิตามินซีเหมาะกับใคร

อาหารเสริมแอสตาแซนธินบางชนิดก็มีวิตามินซีเป็นส่วนประกอบด้วย แล้วคนกลุ่มไหนกันล่ะที่เหมาะจะได้รับประโยชน์จากอาหารเสริมที่มีทั้งแอสตาแซนธินและวิตามินซี ?

สำหรับวิตามินซีเป็นวิตามินละลายในน้ำที่ร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์เองได้ ดังนั้นการได้รับสารดังกล่าวจากอาหารและอาหารเสริมจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยวิตามินซีช่วยป้องกันแสงแดดด้วยการยับยั้งการสร้างเมลานิน ยิ่งถ้ากินร่วมกับแอสตาแซนธินก็จะยิ่งช่วยเรื่องผิวสวยได้ดี

นอกจากนี้วิตามินซียังช่วยเพิ่มความต้านทานหวัดและความเครียดได้อีกด้วย ซึ่งความเครียดสามารถผลิตออกซิเจนที่ทำปฏิกิริยาได้ด้วย ดังนั้นสิ่งนี้อาจช่วยลดผลกระทบของออกซิเจนที่เป็นปฏิกิริยาได้ ฉะนั้นหากถามว่าเหมาะกับใคร ทั้งแอสตาแซนธินและวิตามินซีมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระที่แข็งแกร่ง จึงแนะนำว่าเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการ “ชะลอวัย” และผู้ที่ต้องการ “ป้องกันและแก้ไขปัญหาผิว” เป็นหลักจะเหมาะสมที่สุด

แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า “ถ้าทานเยอะๆ จะได้ผลดีขึ้น” เพราะปริมาณที่แนะนำให้บริโภคต่อวันสำหรับผู้ใหญ่คือ 100 มก. และไม่แนะนำให้รับประทานวิตามินซีจากอาหารเสริมเกิน 1 กรัมต่อวัน และอย่าลืมตรวจสอบปริมาณแอสตาแซนธินและปริมาณวิตามินซีในอาหารเสริมก่อนกินเสมอด้วย

จริงหรือไม่ แอสตาแซนธินมีประสิทธิภาพมากกว่าวิตามินอี 1,000 เท่า!

มักมีการเขียนวิเคราะห์ให้เห็นกันบ่อย ๆ ว่าแอสตาแซนธินมีคุณสมบัติที่มีประสิทธิภาพยังไงถึงมากกว่าวิตามินอีถึง 1,000 เท่า ซึ่งเมื่อสืบค้นข้อมูลก็พบว่าแอสตาแซนธินมีประสิทธิภาพในการออกฤทธิ์ต่อต้านอนุมูลอิสระมากกว่าวิตามินอีถึง 1,000 เท่าจริง

ดังที่กล่าวไว้ตอนต้นว่าเมื่อเราหายใจเอาออกซิเจนเข้าไป จะใช้พลังงานออกซิเจนเพื่อสร้างพลังงานที่จำเป็นในการทำงานของเซลล์ แต่จะมีประมาณ 2% ของออกซิเจนที่จะเปลี่ยนเป็นสิ่งที่เรียกว่า "ออกซิเจนที่ทำปฏิกิริยาได้ หรือ ROS" ซึ่งการที่ออกซิเจนเหล่านั้นทำปฏิกิริยากับธาตุอื่นๆ ในร่างกาย จะเรียกว่า “ปฏิกิริยาออกซิเดชัน” และทำให้ได้สารประกอบที่เกิดจากปฏิกิริยานั้น เรียกว่า “ออกไซด์” เช่น เมื่อออกซิเจนทำปฏิกิริยากับธาตุเหล็กจะทำให้ร่างกายเกิดสนิม หรือเหล็กออกไซด์นั่นเอง หรือหากคุณหั่นแอปเปิลทิ้งไว้สักพักก็จะกลายเป็นสีน้ำตาล นี่ก็คือ “ออกซิเดชัน”

การ “ออกซิเดชัน” ที่เกิดขึ้นแม้จะเป็นปฏิกิริยาที่เป็นผลมาจากกระบวนการเพื่อความอยู่รอดปกติของมนุษย์ แต่ก็เป็นออกซิเจนที่ไม่เสถียรและเมื่อรวมตัวกับสารอื่นก็จะยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้น และมีผลออกซิไดซ์ที่แข็งแกร่งกว่าออกซิเจนด้วยซ้ำ

และดังที่กล่าวมาว่า แม้ออกซิเจนที่ทำปฏิกิริยาได้จะมีผลดีต่อภูมิคุ้มกัน โจมตีไวรัส แบคทีเรีย เซลล์มะเร็ง ฯลฯ แต่พวกมันยังส่งผลอันตรายต่อการเปลี่ยนแปลงเซลล์ปกติในร่างกายได้อีกด้วย

ตัวอย่างเช่น เมื่อออกซิเจนที่ทำปฏิกิริยาได้จับกับเยื่อหุ้มเซลล์บริเวณภายนอกเซลล์ที่ประกอบกันเป็นร่างกายของเรา เซลล์ต่างๆ ก็จะเริ่มเสื่อมสภาพลง อาจส่งผลให้การทำงานของอวัยวะต่างๆ ลดลงได้

เมื่อเซลล์ผิวรวมตัวกับออกซิเจนที่ทำปฏิกิริยาได้ จะส่งผลเสียต่อเซลล์ผิวที่แข็งแรง ส่งผลให้เกิดคราบริ้วรอย ผิวหยาบกร้าน สิ่งเหล่านี้สามารถนำไปสู่ปัญหาผิวต่างๆ ได้

ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อออกซิเจนที่ทำปฏิกิริยาได้ส่งผลต่อ DNA ก็สามารถเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งได้ และเมื่อมันจับกับคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL - คอเลสเตอรอล) ในเลือดและทำลายผนังหลอดเลือดกลายเป็นคราบพลัคทำให้หลอดเลือดแดงแข็งตัว จนอาจเป็นสาเหตุของการทำให้หลอดเลือดแดงแข็งและตีบตัน นำไปสู่โรคหลอดเลือดและหัวใจได้

และออกซิเจนที่ทำปฏิกิริยาได้ยังผลิตขึ้นจากการหายใจ ความเครียด และอาจเกิดจากวัยที่เพิ่มขึ้นและรังสียูวีได้ด้วยทำให้ออกซิเจนที่ทำปฏิกิริยาได้นั้นยิ่งอาจส่งผลเสียต่อเรา ฉะนั้นเพื่อให้มีสุขภาพที่ดีร่างกายจึงจำเป็นต้องกำจัดออกซิเจนที่มีฤทธิ์นี้ออกให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

ซึ่งตามที่กล่าวกันมาว่าแอสตาแซนธินมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระมากกว่าวิตามินอีถึง 1,000 เท่า และยังมีผลิตภัณฑ์เสริมอาหารหลายชนิดที่ประกอบด้วยแอสตาแซนธินร่วมกับวิตามินอีด้วย นั่นก็เป็นไอเทมตัวช่วยที่น่าสนใจไม่น้อย

แอสตาแซนธินและวิตามินอีเหมาะกับใคร ?

แอสตาแซนธินมีประโยชน์มากมาย เช่น ออกฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันและปรับปรุงอาการเมื่อยล้าของดวงตา และป้องกันโรคไต

สำหรับวิตามินอีก็ทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการยับยั้งการเกิดออกซิเดชั่นของไขมัน เสริมสร้างระบบประสาทอัตโนมัติ มีฤทธิ์ปรับสมดุลและส่งเสริมการไหลเวียนของเลือด ที่อาจมีผลในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันอีกด้วย

ดังนั้นแนะนำว่าแอสตาแซนธินและวิตามินอีจึงเหมาะกับผู้ที่กังวลเรื่องผลกระทบจากความเครียดหรือการแก่ก่อนวัย และผู้ที่ต้องการคงความอ่อนเยาว์ อยากรักษาผิวสวยเอาไว้นาน ๆ

แนะนำผลิตภัณฑ์แนะนำที่มีส่วนผสมของแอสตาแซนธินยอดนิยม 2025

ว่ากันว่าแอสตาแซนธินเป็นราชินีแห่งสารต้านอนุมูลอิสระ เราพามาเจาะลึกผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแอสตาแซนธินที่น่าสนใจในปี 2025 กัน สำหรับคนที่ชอบข้อมูลที่ละเอียดขึ้นสามารถศึกษาจากรายละเอียดของผลิตภัณฑ์ที่แนะนำที่ด้านล่างนี้ได้เลย

Astaxanthin Plus CoQ10 Smooth Life by Smooth E

"แอสตาแซนธินบริสุทธิ์ที่ผลิตจากสาหร่ายสีแดงที่เพาะเลี้ยงตามธรรมชาติ"

ความน่าสนใจของแอสตาแซนธินที่ผลิตจากสาหร่ายสีแดง Haematococcus Pluvialis ที่เพาะเลี้ยงตามธรรมชาติคือจะทนแดดและทน UV ได้ดีกว่าสาหร่ายที่เพาะเลี้ยงในระบบปิดนั่นเอง

จุดเด่น: มี Coenzyme Q10 ชะลอความเสื่อม เสริมสร้างความจำ, วิตามินอี, น้ำมันมะกอก และยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ 5 ชนิด ใน 1 แคปซูล ซึ่งมีปริมาณแอสตาแซนธินมากที่สุดถึง 6 mg ต่อแคปซูลตามที่ อย. กำหนดว่าเหมาะสมต่อร่างกาย

เหมาะกับ: คนที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย มีริ้วรอย และตาแห้งปวดตาที่มองหาตัวช่วยให้ผิวแข็งแรง ลดอาการตาล้า สามารถทานได้ตามปริมาณที่แนะนำต่อวัน

ราคา: 890 บาท 30 แคปซูล

พิกัด : LAZADA , SHOPEE

Zenji ASTA CAMU C

"แอสตาแซนธินสกัดจากสาหร่ายสีแดงนำเข้าจากญี่ปุ่นที่มาพร้อมด้วยวิตามินซีอัดแน่นในตัวเดียว"

ข้อดีคือทานแคปซูลเดียวก็ได้ครบทั้งแอสตาแซนธินและวิตามินซี ไม่ต้องไปหาทานเพิ่ม จบในตัวเดียวไปเลย

จุดเด่น: แอสตาแซนธินจากประเทศญี่ปุ่น มีปริมาณตามที่ อย.กำหนด 6 mg ต่อแคปซูลพร้อมด้วยซิตรัสไบโอฟลาโวนอยด์ที่ช่วยให้ดูดซึมได้ดี และวิตามินซีสกัดอีก 5 ชนิดได้แก่ คามู คามู, ส้มสีแดง, อะเซโรล่าเชอร์รี่, ซีบัคธอร์น, แครนเบอร์รี่

เหมาะกับ: คนที่มีปัญหาผิวหมองคล้ำ ผิวพังหลังโดนแดดหรือมีรอยดำรอยแดงจากสิว มีริ้วรอย อยากให้ผิวแข็งแรงขึ้น สามารถทานพร้อมมื้ออาหารได้

ราคา: 387 บาท 30 แคปซูล

พิกัด : LAZADA , SHOPEE

Astacumin (แอสต้าคิวมิน) อ้วยอันโอสถ

"แอสตาแซนธินสกัดที่มาพร้อมขมิ้นชันช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในแคปซูลเดียว"

แอสตาแซนธินจากสาหร่ายสีแดงและขมิ้นชันต่างก็อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยบำรุงร่างกาย ผิวพรรณ ดวงตา และเสริมเรื่องภูมิคุ้มกันได้ด้วย

จุดเด่น: เป็นการผสมผสานของขมิ้นชันและแอสตาแซนธินซึ่งเป็น king และ queen ของสารต้านอนุมูลอิสระ จึงช่วยทั้งบำรุงผิวพรรณ ดวงตา ลดการอักเสบ รักษาแผลในกระเพาะ ลดไขมันในเลือดและเสริมภูมิคุ้มกัน

เหมาะกับ: คนที่รู้สึกร่างกายอ่อนเพลีย เหนื่อยล้า ดวงตาล้า ผิวพรรณไม่สดใส แห้งกร้าน มีริ้วรอย

ราคา: 410 บาท 30 แคปซูล

พิกัด : LAZADA , SHOPEE

DHC Astaxanthin

"แอสตาแซนธินสกัดพร้อมวิตามินอี เน้นบำรุงดูแลผิวเป็นพิเศษ"

ไม่ว่าจะผิวหมองคล้ำ ไม่สดใส ผิวโทรมไม่เปล่งปลั่ง แห้งกร้านมีริ้วรอย จุดด่างดำ รุ่นนี้มีทั้งแอสตาแซนธินและวิตามินอีที่ช่วยบำรุงผิวพรรณได้แบบไม่กั๊ก

จุดเด่น: วิตามินอีคือพระเอกเรื่องบำรุงผิวพรรณ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวได้ดี เมื่อมาเจอกับนางเอกของสารต้านอนุมูลอิสระอย่างแอสตาแซนธินจึงเหมือนเป็นการบำรุงเรื่องผิวแบบอัดแน่น โดดเด่นเรื่องลดวัยให้ผิว ชะลอการเสื่อมสภาพของผิวที่เป็นไปตามวัย

เหมาะกับ: คนที่เน้นการดูแลบำรุงผิวพรรณโดยเฉพาะ ทานหลังอาหารเช้าวันละเม็ด

ราคา: 329 บาท 30 แคปซูล

พิกัด : LAZADA , SHOPEE

Bomi AstaReal Asta Concentrate 6

"แอสตาแซนธินสกัดในเม็ดซอฟต์เจลช่วยคงความสดใหม่และคุณภาพสูงให้ยาวนานที่สุด"

เทคโนโลยีบรรจุเม็ดซอฟต์เจลจากเกาหลีใต้ นอกจากช่วยคงประสิทธิภาพของแอสตาแซนธินแล้ว ตัวแคปซูลนิ่ม ๆ แบบนี้จะมีน้ำมันเป็นส่วนผสมช่วยเรื่องดูดซึมได้ดีอีกด้วย

จุดเด่น: แอสตาแซนธินสกัดจากญี่ปุ่น บรรจุเม็ดซอฟต์เจลเทคโนโลยีเกาหลีใต้ มีส่วนผสมต้านอนุมูลอิสระจากทั้งแอสตาแซนธิน น้ำมันเมล็ดถั่วเหลือง และน้ำมันเมล็ดองุ่นกับวิตามินอีช่วยเสริมเรื่องผิวพรรณในตัวเดียว

เหมาะกับ: คนที่มีปัญหาผิวเรื่องฝ้า กระ จุดด่างดำ และต้องการบำรุงร่างกาย สมอง หัวใจ ทานหลังอาหารวันละเม็ด

ราคา: 369 บาท 30 แคปซูล

พิกัด : LAZADA , SHOPEE

VISTRA Astaxanthin 6 mg PLUS Vitamin E

"สารต้านอนุมูลอิสระสกัดจากธรรมชาติ พร้อมวิตามินอีบำรุงผิว"

อีกหนึ่งเจ้าของอาหารเสริมแอสตาแซนธินที่มาพร้อมกับวิตามินอี นอกจากต้านอนุมูลอิสระแล้วยังช่วยบำรุงผิวพรรณ ดวงตา

จุดเด่น: แอสตาแซนธินสกัดจากสาหร่ายสีแดง Haematococcus pluvialis ลิขสิทธิ์จาก AstaReal ประเทศญี่ปุ่น มาพร้อมวิตามินอี จึงช่วยทั้งบำรุงร่างกายโดยรวม บรรเทาอาการปวดข้อ ตาล้า และยังส่งเสริมการทำงานของระบบประสาท ดูแลปกป้องผิวหลังเผชิญแดดได้ดี

เหมาะกับ: คนที่มีปัญหาเรื่องอาการอ่อนเพลีย เหนื่อยล้า ออกกำลังกายได้ไม่นานก็เหนื่อย จะช่วยบำรุงร่างกายได้ เสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกายและผิวแข็งแรง

ราคา: 480 บาท 30 แคปซูล

พิกัด : LAZADA , SHOPEE

Blackmores Astaxanthin 6 MG Plus

"แอสตาแซนธินสกัดพร้อมด้วยวิตามินอี จึงทั้งมีสารต้านอนุมูลอิสระและบำรุงผิวพรรณ"

แอสตาแซนธินจากแบรนด์ดัง สกัดจากสาหร่ายสีแดง Haemotococcus Pluvialis มีปริมาณตามที่กำหนด 6 mg. ต่อแคปซูล

จุดเด่น: แอสตาแซนธินสกัดมีส่วนผสมของวิตามินอีและเลซิตินที่มีฤทธิ์ช่วยต้านอนุมูลอิสระเหมือนกัน นิยมใช้เป็นตัวช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ บำรุงระบบประสาทและสมอง และช่วยให้ร่างกายดูดซึมแอสตาแซนธินได้ดีขึ้น

เหมาะกับ: คนที่ต้องการบำรุงร่างกาย บำรุงสมอง และเน้นบำรุงผิวพรรณไปด้วยพร้อมกัน

ราคา: 550 บาท 30 แคปซูล

พิกัด : LAZADA , SHOPEE

สรุป แอสตาแซนธินช่วยต้านอนุมูลอิสระได้สูงกว่าสารอื่น ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทาน

แอสตาแซนธินมีประโยชน์ เป็นราชินีของสารต้านอนุมูลอิสระและมีประสิทธิภาพสูงกว่าวิตามินซี และวิตามินอีก็จริง แต่อย่างไรก็ตามการเลือกกินผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแอสตาแซนธินควรอยู่ในความดูแลของแพทย์ หรือเภสัชกรและผู้เชี่ยวชาญ เช่น ควรได้รับในปริมาณที่เหมาะสมต่อวันประมาณ 4-12 มิลลิกรัม และไม่ควรใช้ร่วมกับยาบางชนิด เช่น ยารักษาความดันโลหิตสูง ยาสมุนไพร ยากดภูมิคุ้มกัน เป็นต้น รวมถึงไม่เหมาะกับเด็กและสตรีมีครรภ์ ฉะนั้นควรปรึกษาแพทย์ก่อนกิน เพื่อลดการเกิดอันตรายและผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ด้วยด้วย

บทความแนะนำ

อ่านบทความต้นฉบับได้ที่: SistaCafe.com ครบเครื่องเรื่องบิวตี้

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก SistaCafe

กลางปีนี้ ผิวต้องปัง ! ครีมบำรุงผิวแข็งแรง สาวผิวมันใช้ได้ ต้องลอง

11 ชั่วโมงที่ผ่านมา

สีผมหน้าฝน อัปเดตโทนใหม่เปลี่ยนลุคให้สวยเป๊ะ ทำแล้วปังเข้ากับหน้าฝน

13 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความแฟชั่น บิวตี้อื่น ๆ

เอ๊ะโอ! ได้เวลาสนุกแล้วสิ! CASETiFY ชวนย้อนวัยสุดคิวท์กับคอลเลกชั่น Teletubbies

WeR NEWS

Glenfiddich Club x Jaeger-LeCoultre จับมือเนรมิตงานเฉลิมฉลองสุดพิเศษ เปิดตัว Reverso รุ่นใหม่ภายใต้ธีม 1931 Polo Club

WeR NEWS

กลางปีนี้ ผิวต้องปัง ! ครีมบำรุงผิวแข็งแรง สาวผิวมันใช้ได้ ต้องลอง

SistaCafe

ครั้งแรกของ Collaboration สุดสร้างสรรค์ “SEXY COW x GIOVANI” เปิดตัวเอ็กซ์คลูซีฟแคมเปญ ‘Empower Your Sexy Confidence’

Hello Magazine Thailand

“ชาเม่” กวาดรางวัลคอลลาเจน ยอดเยี่ยม 2 ปีซ้อน! การันตีคุณภาพและความใส่ใจในทุกซอง

เดลินิวส์

สีผมหน้าฝน อัปเดตโทนใหม่เปลี่ยนลุคให้สวยเป๊ะ ทำแล้วปังเข้ากับหน้าฝน

SistaCafe

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...