โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ทนายเกิดผล หวิดฉุนขาด ดวล! ข้อกฎหมาย กับตำรวจ ช่วยผู้เสียหายผู้หญิง!!

TOJO NEWS

อัพเดต 8 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา • Admin Tojo

ทนายเกิดผล ช่วยหญิงผู้เสียหาย ฝ่ายผิด ประสบอุบัติเหตุรถเชี่ยวชน คุยกับตำรวจ

ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า ทนายเกิดผล แก้วเกิด ประธานมูลนิธิทนายเกิดผลเพื่อประชาชน โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า…

เมื่อเช้าเวลาประมาณ 4:30 น มีโทรศัพท์ดังขึ้นและมีเสียงผู้หญิง โทรมา ในลักษณะตื่นตระหนก ขอความช่วยเหลือ

ผมสอบถามว่ามีเหตุด่วนอะไร น้องผู้หญิงเล่าให้ฟังว่า
เธอเป็นสาวโรงงานแห่งหนึ่ง ในจังหวัดปทุมธานี เพิ่งเลิกงาน กะดึก และกำลังจะกลับบ้านพัก

ขณะขับรถกลับบ้าน ถูกรถยนต์คันหนึ่งขับมา เฉี่ยวชน คนขับรถเป็นผู้ชายลักษณะเป็น เหมือนทหาร

เธอไม่แน่ใจว่าใครผิด แต่ตำรวจมาที่เกิดเหตุ ชี้ว่าเธอผิด และสั่งให้เธอรับสารภาพ ประกอบกับคู่กรณี พูดคุยกับร้อยเวรเหมือนรู้จักกัน เธอเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม แต่ไม่รู้จะปรึกษาใคร เลยโทรมาขอแความช่วยเหลือจากผม

ผมเองก็พึ่งตื่นนอน จึงบอกให้น้องค่อยๆตั้งสติ เพราะผมก็กำลังงัวเงีย จึงต้องขอตั้งสติก่อนเช่นกัน

เมื่อทั้ง 2 ฝ่ายได้สติดีแล้ว ผมจึงให้เธอเล่าเรื่อง และส่งรูปถ่ายที่เกิดเหตุประกอบมาดูด้วย

เมื่อผมทราบรายละเอียด และเห็นรูปถ่ายประกอบแล้ว เห็นว่า น้องเป็นฝ่ายผิด จริง จึงแนะนำให้รับสารภาพ และ จ่ายค่าปรับไป เนื่องจาก ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จึงสามารถเปรียบเทียบปรับได้

ตำรวจจึงดำเนินการเปรียบเทียบปรับเธอไป 400 บาท

ผมให้น้องขอใบเสร็จรับเงินจากตำรวจมาด้วย เพื่อเป็นหลักฐาน

หลังจากจ่ายค่าปรับ ตามที่ตำรวจเปรียบเทียบปรับไปแล้ว ก็ยังไม่จบ เพราะคู่กรณีต้องการให้เธอชดใช้ค่าเสียหาย ค่าซ่อมรถจำนวน 20,000 บาท

เธอไม่มีเงินและเห็นว่ามันแพงเกินไป ขอต่อรองเท่าไหร่ ก็ไม่ยอม

ตำรวจ บอกกับน้องว่า ถ้าเธอไม่ยอมชดใข้ค่าเสียหายให้คู่กรณี ตำรวจจำเป็นต้อง ยึดรถเธอไว้ก่อนนะ จนกว่าเธอจะหาเงินมาจ่ายค่าเสียหายให้คู่กรณี

สักพัก น้องผู้หญิงโทรศัพท์กลับมาหาผมใหม่ ว่าตำรวจจะยึดรถ

น้องผู้หญิงเขาคงกลัว เลยโทรมาร้องไห้กับผมว่าเขาไม่มีเงินแล้วเขาต้องใช้รถไปทำงาน

ผมฟังแล้ว ถึงกับตกใจว่าทำไมตำรวจกล้าพูดอย่างนั้น

ผมเลยถามน้องเขาไปว่าน้องจ่ายค่าปรับไปหรือยัง

น้องตอบ จ่ายค่าปรับไปแล้วและได้ใบเสร็จแล้ว

ผมจึงบอกกับน้องให้สบายใจว่า ตำรวจยึดรถจักรยานยนต์ ไม่ได้หรอก เพราะเราจ่ายค่าปรับไปแล้วทำให้คดีอาญาเลิกกันตามกฎหมายไปแล้ว

เธอก็ไปบอกตำรวจเหมือนที่ผมบอกแต่ตำรวจว่าเธอหัวหมอ

และพูดพาดพิงมาถึงผมว่า ไปเชื่อทำไมพวกทนาย เชื่อทนายก็มีแต่จะเสียเงินค่าทนาย

น้องเขาโทรมาเล่าให้ฟังทนายฟัง และร้องไห้ไปด้วย

ผมโมโหมาก นี่ถ้าอยู่ใกล้ๆผมจะขับรถไปเอง และจะไปถามตำรวจภึงที่แน่นอน

ผมเลยขอพูดกับตำรวจแล้วน้องเอาโทรศัพท์ไปให้ตำรวจคุยกับผม

ผมถามตำรวจว่า สารวัตรมีอำนาจอะไรยึดรถจักรยานยนต์

เขาตอบผมมา เหมือนไม่คนไม่เรียนกฎหมายว่า
ผมเป็นเจ้าพนักงานมีอำนาจยึดรถของกลางได้ตามกฎหมาย

ผมเลยตำหนิตำรวจและพูดว่า คุณพูดเหมือนคุณไม่รู้กฎหมายเลยนะครับสารวัตร คุณลองเปิดประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความอาญามาตรา 39 (4) ดูหรือยังครับ …

… เมื่อผู้ต้องหาเขาจ่ายค่าปรับไปแล้ว ก็ทำให้คดีอาญาเลิกไปแล้วคุณก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะ ดำเนินคดีอะไรได้อีกแล้ว คุณจะเอาอำนาจอะไรมายึดรถเขาไว้

พนักงานสอบสวน เถียงผมว่า คดีอาญายังไม่ระงับเนื่องจากการปรับไม่ถูกต้อง

ผมถามว่าไม่ถูกต้องยังไง

เขาตอบว่าความผิดตาม พรบ.จราจรทางบก มาตรา 43(4) มีโทษปรับสูงสุด 4,000 บาท #ผมเปรียบเทียบผิดไป เพียง 400 บาท #ผมเขียนผิดและผมจะปรับใหม่เป็น 4,000 บาท ซึ่งเท่ากับว่าผู้ต้องหายังจ่ายค่าปรับไม่ครบ

อ.ห. ที่ไม้ได้แปลว่า โอ้โห้ นี่่คุณตำรวจมาไม้นี้เลยใช่ใหม ‼

ได้ เอาอย่างนั้นก็ได้ ‼

ผมเลยสวนกลับไปว่า ถ้าจะเอาแบบนี้ก็ได้ครับ ผมยังยืนยันว่าตามกฎหมายคุณไม่มีอำนาจจับหรือยึดรถไว้เหมือนเดิม

ถ้าคุณกล้ายึดรถไว้ผมดำเนินการร้องวินัยและดำเนินคดีอาญา157กับคุณแน่นอน

ตำรวจเงียบ นิ่งไปสักพัก แล้วถามว่า ผมเบาๆว่า "ผมทำอะไรผิดครับทนาย

ผมบอกว่า ผิดแน่นอน 100% ครับ

คุณเป็นตำรวจ มีอำนาจ หน้าที่ตามกฎหมาย ซึ่งหน้าที่ของคุณคือ การจับกุมผู้กระทำความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา หรือความผิดทางอาญา เท่านั้น

คุณไม่รู้หรือว่าความผิดตาม พรบ. จราจรทางบก ที่มีโทษปรับสถานเดียวนั้น กฎหมายให้เปรียบเทียบปรับ เป็นค่าปรับเป็นพินัย ตาม พรบ ว่าด้วยปรับเป็นพินัย พ.ศ. 2565 มาตรา 39 และ มาตรา 5 วรรคสอง ก็บัญญัติไว้ชัดเจนว่า การปรับเป็นพินัยไม่เป็นโทษทางอาญา

เมื่อการปรับเป็นพินัย ไม่ใช่โทษทางอาญาก็ไม่ใช่ความผิดทางอาญา แล้วมีกฎหมายอะไรให้ตำรวจมีอำนาจจับกุมหรือยึดทรัพย์สิน ของกลางในความผิดปรับเป็นพินัยได้ครับ

ตำรวจอึ้งไปสักพักหนึ่งแล้วบอกว่า ขอเวลาปรึกษาผู้บังคับบัญชาก่อน

ผมบอกว่า คุณไม่ต้องไปขอปรึกษาหรอก เพราะแค่คุณหน่วงเหนี่ยวเขาไว้คุณก็เป็นความผิดแล้ว ถ้าคุณไม่ปล่อยเขากลับบ้านผมจะตามไปดำเนินคดีกับคุณทันทีวันนี้แน่นอน

ตำรวจเลยนิ่งไปสักพักแล้วพูดว่า "ครับ" จากนั้นก็วางสายไปเลย

สักพักหนึ่งน้องผู้หญิง โทรกลับมาบอกผมว่า ตำรวจให้กลับบ้านแล้วและบอกว่าให้ผู้เสียหายไปฟ้องเรียกค่าเสียหายเอาเอง

แต่หนูได้ยินตำรวจบ่นว่า ทนายมาเสือกอะไรด้วย นะคะ

ผมยิ้มแล้วก็ไม่โต้ตอบอะไร แค่น้องกลับบ้านได้ พี่ก็นอนต่อได้แล้ว

บอกแล้ว อย่าให้ทนายเสือก

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก TOJO NEWS

พิชิต แนะ พรรคประชาชน ชู 3 นิ้ว ให้คนผิด ม.112!!

4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

แฉ!! ขบวนการลักลอบน้ำมันปาล์มเถื่อน คลัง-พาณิชย์ ปล่อยได้อย่างไร??

4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

“ทีมไทยไวท์” เก็บชัยนัดแรก ฮอกกี้น้ำแข็ง Thailand Invitation 2025

สำนักข่าวไทย Online

“มิคเกลสัน” รับรางวัลนักฟุตบอลชายยอดเยี่ยมแห่งปี

สำนักข่าวไทย Online

“ภูมิธรรม” ย้ำต้องแก้กฎหมายสงฆ์

สำนักข่าวไทย Online

กรมธรณี เตือน 11 จังหวัดเสี่ยงภัย ดินถล่ม-น้ำป่าไหลหลาก จากฝนตกหนักต่อเนื่อง

สยามนิวส์

สถ.ร่อนเอกสารแจงลั่นจัดสรรงบ อปท.เหมาะสม

สำนักข่าวไทย Online

วินด์เซิร์ฟชิงแชมป์โลก ไทยพลาดติด 1-50 อันดับแรก

สำนักข่าวไทย Online

‘สีกากอล์ฟ’ ปัดข้อหารีดทรัพย์ อ้างแค่ยืมเงิน! ไม่ได้บังคับ ตร.ชี้แผนปทุษกรรมหวังเงินเลี้ยงดู พบทำคนเดียว

เดลินิวส์

งานเข้าแล้ว นักแสดงสาวชื่อดัง โดนโทษหนัก หลังขับรถเร็วเกินกำหนด (ข่าวต่างประเทศ)

News In Thailand

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...