เปิดประวัติ "เจ้าคุณอาชว์" พระนักปกครอง สู่การลาสิกขาที่ไร้สาเหตุ
วันนี้ (30 มิ.ย.2568) มีรายงานข่าวเมื่อเวลา 14.45 น. ของวันที่ 27 มิ.ย.2568 พระเทพวชิรปาโมกข์ หรือ "เจ้าคุณอาชว์" อดีตเจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพวรวิหาร และเจ้าคณะภาค 14-15 (ธรรมยุต) ได้เดินทางไปลาสิกขาบทอย่างเร่งด่วน ที่วัดจันทร์สามัคคี ต.มีชัย อ.เมืองหนองคาย จ.หนองคาย โดยไม่มีการเปิดเผยสาเหตุที่แท้จริงของการลาสิกขาครั้งนี้
หลังจากการลาสิกขาในวันเดียวกันนั้น เวลาประมาณ 21.08 น. อดีตเจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพได้เดินทางข้ามผ่านแดนจากจังหวัดหนองคายไปยังประเทศลาวทันที การดำเนินการที่รวดเร็วและกะทันหันนี้ได้ทิ้งคำถามและข้อสงสัยมากมายไว้เบื้องหลัง
ภายหลังการลาสิกขาของ "เจ้าคุณอาชว์" ตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพได้ว่างลง และเมื่อวันที่ 29 มิ.ย. เจ้าคณะภาค 1-2-3 (ธรรมยุต) ได้ออกคำสั่งแต่งตั้ง "พระพรหมวชิรรังษี" เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร และเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร (ธรรมยุต) ให้เป็นผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพ
การหายตัวไปอย่างปริศนานี้ ได้รับการตั้งข้อสังเกตจากนักวิชาการด้านพระพุทธศาสนาอย่าง จตุรงค์ จงอาษา ซึ่งได้โพสต์ข้อความตั้งคำถามว่า การหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยของ "เจ้าคุณอาชว์" นี้ เป็นการสมัครใจหนีไปเอง หรือถูกบังคับให้อุ้มหายไป
นอกจากนี้ ยังมีคำถามถึงประเด็นสำคัญเกี่ยวกับทรัพย์สินของวัดว่าได้มีการนำส่งคืนวัดก่อนการลาสิกขาหรือไม่ ปัจจุบัน ยังไม่มีคำชี้แจงอย่างเป็นทางการจากทางวัดตรีทศเทพ หรือสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เกี่ยวกับเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังการลาสิกขาและการเดินทางออกนอกประเทศครั้งนี้
ประวัติเส้นทางธรรม "เจ้าคุณอาชว์"
พระเทพวชิรปาโมกข์ (อาชว์ อาชฺชวปเสฏฺโฐ) หรือที่รู้จักกันในนาม "เจ้าคุณอาชว์" มีชื่อเดิมว่า นายอาชว์ ซื่อสัตย์ ท่านมีอายุ 54 ปี และมีพรรษา 34 เป็นพระสงฆ์ในสังกัดธรรมยุติกนิกาย
ด้านการศึกษา ท่านสำเร็จการศึกษา เปรียญธรรม 7 ประโยค ซึ่งถือเป็นระดับสูงในการศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกบาลี และยังสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีในสาขาศาสนศาสตรบัณฑิต (ศน.บ.)
ตลอดเส้นทางสมณเพศ "เจ้าคุณอาชว์" ได้รับการแต่งตั้งในตำแหน่งสำคัญทางปกครองสงฆ์อย่างต่อเนื่อง ได้แก่
- พ.ศ.2557: ผู้รักษาการแทนเจ้าคณะจังหวัดลพบุรี (ธรรมยุต)
- พ.ศ.2558: พระอุปัชฌาย์ ประเภทวิสามัญ
- พ.ศ.2562: ผู้รักษาการแทนเจ้าคณะจังหวัดนครปฐม-สุพรรณบุรี (ธรรมยุต)
- พ.ศ.2565: เจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพวรวิหาร
อดีตเจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพ ยังดำรงตำแหน่ง เจ้าคณะภาค 14-15 (ธรรมยุต) ซึ่งเป็นภาคที่ดูแลพื้นที่สำคัญของประเทศไทย โดยรายนามในตำแหน่งนี้สำหรับวาระการดำรงตำแหน่งปี พ.ศ.2568-2572 ได้รับการรับทราบจากที่ประชุมมหาเถรสมาคม (มส.)
นอกจากนี้ ยังเคยดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการแม่กองธรรมสนามหลวง ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการศึกษาธรรมะในระดับประเทศ และลำดับสมณศักดิ์ก็ก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง
- พ.ศ. 2534: ได้รับแต่งตั้งเป็น เปรียญธรรม 7 ประโยค
- 5 ธ.ค.2551: ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญเปรียญที่พระชินวงศเวที
- 5 ธ.ค.2557: ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่พระราชสารสุธี
- 27 มิ.ย.2566: ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นเทพที่พระเทพวชิรปาโมกข์ ซึ่งเป็นสมณศักดิ์สูงสุดของท่าน ก่อนที่ท่านจะลาสิกขาไปเพียง 2 ปีหลังจากได้รับสมณศักดิ์นี้
"เจ้าคุณอาชว์" เป็นที่รู้จักในฐานะพระนักปกครอง-นักบริหารสายธรรมยุต ผู้เปี่ยมเมตตา และมีบทบาทสูงในงานบริหารคณะสงฆ์ ด้วยภูมิธรรมและภูมิปัญญาที่สั่งสมมายาวนานกว่า 30 พรรษา สมณนาม "ปาโมกข์" มีความหมายถึง "ผู้เป็นใหญ่ในหมู่ภิกษุ" ส่วน "วชิร" หมายถึง "เพชร อาวุธที่แกร่งกล้า" และ "เทพ" หมายถึง "ชั้นสูง ผู้เปี่ยมเมตตา" ซึ่งสะท้อนถึงคุณสมบัติของผู้นำทางธรรมที่มั่นคง เข้มแข็ง และเปี่ยมด้วยเมตตา
แม้ว่าการลาสิกขาและการหายตัวไปของอดีตเจ้าอาวาสวัดดังจะยังคงเป็นปริศนาและอยู่ในระหว่างการติดตามความคืบหน้า แต่เส้นทางชีวิตในเพศบรรพชิตและบทบาทสำคัญที่ท่านได้ฝากไว้ในแวดวงพระพุทธศาสนา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคณะสงฆ์ธรรมยุต ยังคงเป็นที่กล่าวถึงอย่างกว้างขวาง
อ่านข่าวอื่น :