ชัวร์ก่อนแชร์ : กินทุเรียนพร้อมกาแฟ อันตราย จริงหรือ ?
ตามที่บนสื่อสังคมออนไลน์มีการเผยแพร่คำแนะนำเกี่ยวกับข้อควรระวังในการบริโภคทุเรียน โดยระบุว่า “ทุเรียนไม่ควรรับประทานคู่กับกาแฟ อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพอย่างรุนแรง จนเป็นอันตรายถึงชีวิตได้” นั้น
บทสรุป : แชร์ได้ อธิบายเพิ่ม “ทุเรียน” เป็นผลไม้ที่มีคาร์โบไฮเดตและไขมันสูง ขณะที่กาแฟมีสารที่อาจส่งผลต่อระดับไขมันในเลือด รวมถึงมีกาเฟอีนซึ่งออกฤทธิ์กระตุ้นการทำงานของหัวใจ การบริโภคทั้งสองอย่างพร่อมกันอาจทำให้ได้รับพลังงานและกาเฟอีนสูง ซึ่งส่งผลต่อผู้ที่มีโรคประจำตัวที่จำเป็นต้องคุมอาหาร เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจ และอาจกระตุ้นให้อาการของโรคกำเริบ ซึ่งในบางกรณีอาจรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้
FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง :
ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบพบว่า ข้อแนะนำที่ว่า “ห้ามรับประทานทุเรียนร่วมกับกาแฟ” เป็นข้อมูลที่มีการส่งต่อและเผยแพร่กันอย่างแพร่หลายในสื่อสังคมออนไลน์ โดยมักปรากฏในรูปแบบของการให้ความรู้ควบคู่กับเรื่องเล่าเชิงอุทาหรณ์เกี่ยวกับอันตรายจากการบริโภคทุเรียนร่วมกับอาหารบางประเภท โดย “การรับประทานทุเรียนกับกาแฟ” เป็นสิ่งหนึ่งที่ได้รับการแนะนำว่า “ไม่ควรรับประทานคู่กัน” อ้างว่าอาจก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพอย่างรุนแรง ถึงขั้นเป็นอันตรายต่อชีวิตได้ รวมทั้งยังมีประชาชนสอบถามในประเด็นดังกล่าวเข้ามาที่ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ด้วย
ทำไมทุเรียน ห้ามรับประทานคู่กับกาแฟ ?
รศ.ดร.รัชนี คงคาฉุยฉาย อาจารย์ สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล ให้ข้อมูลเกี่ยวกับทุเรียน ในรายการชัวร์ก่อนแชร์ FACTSHEET : 5 ข้อควรรู้ ก่อนกินทุเรียน จริงหรือ ? ว่า ทุเรียน เป็นผลไม้ที่มีคาร์โบไฮเดรตและไขมันสูง โดยให้พลังงานสูงถึง 130 – 190 กิโลแคลอรีต่อน้ำหนัก 100 กรัม ซึ่งปริมาณเท่ากับทุเรียน 2 เม็ด ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ ซึ่งเมื่อรับประทานคาร์โบไฮเดรตเข้าไปในร่างกาย เมื่อเกิดการย่อยก็จะกลายเป็นน้ำตาลกลูโคสที่จะเข้าไปสู่เซลล์ โดยหากรับประทานทุเรียนในปริมาณที่มากเกินไป เมื่อร่างกายใช้พลังงานไม่หมด ก็จะเก็บสะสมกลายเป็นไขมัน
ข้อมูลจากคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ระบุว่า กาแฟเป็นเครื่องดื่มที่มีสารกาเฟอีน ซึ่งออกฤทธิ์กระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง ส่งผลให้สมองตื่นตัว รู้สึกกระปรี้กระเปร่า อีกทั้งยังกระตุ้นการหลั่งอะดรีนาลีน (Adrenaline) ส่งผลให้หัวใจทำงานเพิ่มขึ้น โดยทำให้หัวใจเต้นเร็วและแรงขึ้น รวมถึงทำให้หลอดเลือดหดตัว ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะความดันโลหิตเพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้ คาเฟอีนยังมีผลต่อระบบทางเดินหายใจ โดยช่วยขยายหลอดลม และมีฤทธิ์ต้านการทำงานของอินซูลิน ส่งผลให้ความไวต่ออินซูลินลดลง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อผู้ป่วยโรคเบาหวาน
ดังนั้น การรับประทานทุเรียนและกาแฟพร้อมกัน ทำให้ร่างกายได้รับพลังงานและกาเฟอีนที่สูงเกินไป ซึ่งอาจส่งผลให้ผู้ผู้ที่มีโรคประจำตัวที่จำเป็นต้องคุมอาหาร เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจ และอาจกระตุ้นให้อาการของโรคกำเริบ ซึ่งอาจรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้
นอกจากนี้ การรับประทานทุเรียนร่วมกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่ให้พลังงานสูงเช่นเดียวกัน จะส่งผลให้ร่างกายได้รับพลังงานมากเกินไป ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และเกิดกระบวนการเผาผลาญที่เพิ่มขึ้น ซึ่งร่างกายต้องใช้น้ำจำนวนมากทำให้ร่างกายเกิดความร้อนสูงมากกว่าปกติ อาจเป็นผลให้ร่างกายเกิดภาวะขาดน้ำและเสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้
ทุเรียน เป็นผลไม้ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก แม้จะเป็นสิ่งที่รับประทานกันอย่างแพร่หลาย แต่ก็ยังมีข้อมูลเกี่ยวกับการบริโภคทุเรียนที่ถูกส่งต่อในสื่อสังคมออนไลน์ซึ่งก่อให้เกิดการเข้าใจผิดได้ เช่น การอ้างว่าการรับประทานทุเรียนร่วมกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อาจทำให้ไส้ทะลัก หรือทุเรียนสามารถช่วยลดไขมันในเส้นเลือดได้ ซึ่งสามารถรับชมเพิ่มเติมได้ที่ ชัวร์ก่อนแชร์ CHECK-LIST : 5 เรื่องฮิต ประโยชน์และโทษของทุเรียน จริงหรือ ?
หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบได้ที่ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
28 มิถุนายน 2568
ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์
สำนักข่าวไทย อสมท
เขียนและรวบรวม โดย นัฐภรณ์ ผลพฤกษา
อ้างอิง
5 ข้อควรรู้ ก่อนกินทุเรียน จริงหรือ ? | ชัวร์ก่อนแชร์ FACTSHEET
กรมอนามัย ชี้ กินทุเรียน 4-6 เม็ด เทียบกินข้าวมันไก่ 2 จาน ย้ำห้ามกินควบแอลกอฮอล์ ทำร่างกายร้อนเสี่ยงถึงชีวิต
https://multimedia.anamai.moph.go.th/news/news270462