NIA โชว์สุดยอดตัวอย่าง "นิลมังกร" แพลตฟอร์มอัปเกรดธุรกิจนวัตกรรมท้องถิ่น
“ผมคิดว่าแชมป์ “นิลมังกร เดอะเรียลลิตี้” ในปีนี้ต้องเป็นของผมแน่ๆ” คำกล่าวสั้นๆ เต็มเปี่ยมด้วยความมั่นใจจากผู้พัฒนา “Ving ผลิตภัณฑ์รองเท้าแตะวิ่งมาราธอน” หลังผ่านการบ่มเพาะในโครงการ “นิลมังกร”
โครงการนิลมังกรเป็นเวทีช่วยผลักดันและยกระดับธุรกิจนวัตกรรมท้องถิ่นจากภูมิภาคต่างๆ ของประเทศไทย โดยเน้นดึงจุดแข็งจากอัตลักษณ์ วัตถุดิบในท้องถิ่น และภูมิปัญญาในแต่ละภูมิภาคมาผสมผสานกับเทคโนโลยีสมัยใหม่
เพื่อยกระดับศักยภาพการแข่งขัน เพิ่มมูลค่าสินค้าและบริการใน 4 มิติ เพื่อให้เกิดรายได้จากสินค้าและบริการเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 3 เท่า ได้แก่
1. การใช้นวัตกรรมเพิ่มจุดเด่น-สร้างจุดขาย
2. การวางแผนรูปแบบธุรกิจ
3. การพัฒนาเทคนิคการตลาดแบบใหม่
4. การสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักและยอมรับ
Ving ลุ้นแชมป์ซีซั่น 3
Ving ผลิตภัณฑ์รองเท้าแตะวิ่งมาราธอน โดยบริษัท วีอิ้ง อินเตอร์เทรด จำกัด จังหวัดขอนแก่น ยังเป็น 1 ใน 20 ผู้ประกอบการนวัตกรรมจาก 4 ภูมิภาคของประเทศไทย ที่จะเข้าแข่งกันในรายการ “นิลมังกร เดอะเรียลลิตี้ ซีซั่น 3” ซึ่งจะออนแอร์เทปแรกวันเสาร์ที่ 2 ส.ค. เวลา 22.25 น. ทางช่อง 3 HD
วาที วิเชียรนิตย์ โปรแกรมเมอร์และนักวิ่งเจ้าของแบรนด์ VING แชมป์นิลมังกรจากภาคอีสาน กล่าวถึงการพัฒนารองเท้าแตะวิ่งมาราธอนเพื่อแก้ pain point การบีบรัดหน้าเท้าของรองเท้าผ้าใบวิ่งทำให้วิ่งต่อไปไม่ไหว
วาทีเล่าถึงประสบการณ์ในการแข่งขันวิ่งมาราธอนรายการหนึ่งทำให้ต้องซื้อรองเท้าแตะมาสวมแทนรองเท้าผ้าใบ ประกอบกับเห็นว่ามีนักวิ่งคนหนึ่งใส่รองเท้าแตะวิ่งตลอดระยะทางแถมยังทำเวลาได้ดี จึงเห็นว่ารองเท้าแตะวิ่งได้ก็น่าจะมีโอกาสพัฒนาเป็นธุรกิจนวัตกรรมได้
“ต่างประเทศเขาก็ทำกันมานานแล้วแต่มันจะเป็นรองเท้าที่เขาเรียกกันว่า “มินิมอล” คือพื้นทั้งหน้าและหลังนั้นเรียบเท่ากัน แต่ผมไม่ชอบเพราะใช้กล้ามเนื้อคนละส่วน
ผมจึงพัฒนารองเท้าแตะที่มีพื้นรองเท้าที่รองรับการกระแทก เพิ่มแรงส่ง ลดอาการบาดเจ็บสะสมเมื่อต้องวิ่งเป็นเวลานาน
โดยออกแบบให้พื้นใน (Insole) ทำจากวัสดุ VERPO ซึ่งเป็นโฟมชนิด EPOS มีคุณสมบัติในการคืนตัวกลับสู่สภาพสูงถึง 66% ส่วนพื้นกลางมีการเพิ่มแผ่นคาร์บอนเพื่อเพิ่มแรงส่ง เหมาะสำหรับนักวิ่งระยะไกล”
ปัจจุบันนอกจากช่องทางออนไลน์แล้ว VING ยังมีสาขาทั่วทุกภาคของไทย ทั้งสาขาตัวเองและสาขาในร้านรองเท้าวิ่งกว่า 80 สาขา แถมยังมีสาขาที่สิงคโปร์อีก 4 สาขา อีกทั้งกำลังขยายไปขายที่ร้านขายยา คลินิกกายภาพ คลินิกกระดูกและโรงพยาบาลต่างๆ
จับตาธุรกิจสเต็มเซลล์สัตว์เลี้ยง
นอกจาก Ving ผลิตภัณฑ์รองเท้าแตะวิ่งมาราธอน อีกหนึ่งผู้ประกอบการนวัตกรรมที่จะเข้าร่วมในรายการ “นิลมังกร เดอะเรียลลิตี้ ซีซั่น 3” คือ PetgeneX ธนาคารสเต็มเซลล์สำหรับสัตว์เลี้ยงโดยบริษัท ไซเอนซ์ อินโนเวทีฟ โปรดักส์ จำกัด จังหวัดนครราชสีมา โดยให้บริการคัดแยก เพาะเลี้ยงและจัดเก็บสเต็มเซลล์สัตว์เลี้ยงด้วยวิธีที่มีความปลอดภัยสูง
บริษัทได้พัฒนาน้ำยาเพาะเลี้ยงเซลล์ ร่วมกับการเพิ่มจำนวนสเต็มเซลล์ด้วย Explant Technology ทำให้ได้เซลล์ตั้งต้นเพิ่มขึ้น 3 เท่า สามารถเจริญเติบโตได้มากกว่า 2 เท่าและได้เซลล์ที่มีชีวิตมากกว่าเทคโนโลยีทั่วไป 13% ก่อนตรวจสอบและแช่แข็งด้วยไนโตรเจนเหลว
อีกทั้งมีบริการขนส่งที่ช่วยเก็บรักษาเซลล์ทำให้มีอัตราการรอดชีวิตสูงกว่า 90% สเต็มเซลล์สามารถนำมารักษาโรคในสัตว์บางชนิด อีกทั้งยังใช้ฟื้นฟู ชะลอวัย และยืดอายุขัยให้กับสัตว์เลี้ยงในอนาคต
บริษัทได้เริ่มทำการตลาดอย่างจริงจังเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โดยเน้นช่องทางออนไลน์และ Influencer เพื่อสร้างการรับรู้ในวงกว้าง โดยกลุ่มเป้าหมายหลักคือเจ้าของที่มีความผูกพันกับสัตว์เลี้ยงและกลุ่มฟาร์มเพาะพันธุ์
บทบาทหน่วยงานนโยบาย-สถาบันการศึกษา
ดร. กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ NIA กล่าวว่า โครงการ “นิลมังกร” ถือเป็นกลไกสำคัญในการผลักดันแบรนด์ธุรกิจนวัตกรรมไทยที่มีศักยภาพให้สามารถเติบโตอย่างก้าวกระโดด
ผลจากการดำเนินงานของนิลมังกรรุ่นที่ 1 และรุ่นที่ 2 สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นของผู้ประกอบการแบรนด์นวัตกรรมไทยกว่า 40 ราย เฉลี่ย 3.4 เท่า หรือคิดเป็นมูลค่าเศรษฐกิจกว่า 530 ล้านบาท
และสามารถต่อยอดการสร้างแบรนด์ให้กับผู้ประกอบการด้วยการคว้า 3 รางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ และ 15 รางวัลจากการประกวด 7 Innovation Awards รวมถึงได้รับการต่อยอดการลงทุนร่วมอีกมากมาย
ตัวอย่างของความสำเร็จ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ทรายแมวจากมันสำปะหลัง Hide&Seek โดยบริษัท เวลตี้ ม็อกกี้ อินโนเวชั่น จำกัด แชมป์นิลมังกรรุ่นที่ 1 มีมูลค่าบริษัทเพิ่มขึ้น 50 เท่า ภายในระยะเวลา 2.5 ปี ได้รับการร่วมทุนจากกลุ่มนักลงทุนอิสระและสามารถนำผลิตภัณฑ์ส่งออกไปยัง 16 ประเทศทั่วโลก
ผลิตภัณฑ์ชุดหุ่นยนต์เพื่อการเรียนรู้สำหรับเด็ก โดยบริษัท อีซี่คิดส์ โรโบติกส์ จำกัด แชมป์นิลมังกรรุ่นที่ 2 มีรายได้ของบริษัทเพิ่มขึ้น 8.82 เท่า ภายในระยะเวลา 1 ปี สามารถสร้างบุคลากรที่มีทักษะด้านการเขียน/พัฒนาโปรแกรมรวมแล้วกว่า 12,500 ราย รวมถึงมีการต่อยอดร่วมงานกับกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ในประเทศ
โครงการ “นิลมังกร” จึงเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยผลักดันศักยภาพและเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการภูมิภาคเข้าถึงระบบนิเวศนวัตกรรมอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อสร้างต้นแบบธุรกิจที่เติบโตจากถิ่นฐานของตนเอง และช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากสู่เศรษฐกิจนวัตกรรมอย่างยั่งยืน
รศ.ดร.จุฬาลักษณ์ เขมาชีวะกุล ผู้ช่วยผู้อำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า ผู้ประกอบการในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพมหานครมักเข้าถึงแหล่งทุน ทรัพยากรบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ และเครือข่ายธุรกิจที่เอื้อต่อการเติบโต
แต่ผู้ประกอบการในภูมิภาคจะมีความได้เปรียบด้านต้นทุนเชิงพื้นที่ ผลิตภัณฑ์ที่มีอัตลักษณ์และวัฒนธรรม ซึ่งความเชี่ยวชาญในบริบทท้องถิ่นนับเป็นจุดแข็งที่แตกต่างและมีศักยภาพในการเติบโตเช่นกัน หากได้รับการสนับสนุนที่ตรงจุด
ในโครงการนี้ สถาบันการศึกษาที่มีความเชี่ยวชาญในการวิจัยและพัฒนา ซึ่งสามารถต่อยอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีสู่การใช้งานจริง
อุทยานวิทยาศาสตร์ฯ จึงทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการช่วยบ่มเพาะผู้ประกอบการนวัตกรรม ผ่านกระบวนการให้คำปรึกษาเชิงลึก การสร้างองค์ความรู้ และการเชื่อมโยงสู่ตลาด เพื่อให้ธุรกิจของผู้ประกอบการสามารถเติบโตอย่างก้าวกระโดดโดยมีนวัตกรรมเป็นเครื่องมือสำคัญ
ดร.ดำรงค์ ศรีพระราม รักษาการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในฐานะหนึ่งในพันธมิตรร่วมดำเนินโครงการ“สุดยอดธุรกิจนวัตกรรมประเทศไทย” หรือ “นิลมังกร” ตั้งแต่รุ่นที่ 1 เชื่อมั่นในศักยภาพของธุรกิจนวัตกรรมจากภูมิภาคต่างๆ ของประเทศไทยว่าจะสามารถยกระดับศักยภาพธุรกิจนวัตกรรมระดับท้องถิ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เป็นสถาบันการศึกษาที่มีความเชี่ยวชาญในการวิจัยและพัฒนา ซึ่งสามารถต่อยอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีสู่การใช้งานจริง เพื่อสนับสนุนธุรกิจนวัตกรรมที่มีศักยภาพในการเติบโตอย่างยั่งยืน
ม.เกษตรศาสตร์มีบทบาทสำคัญในการให้คำปรึกษาทางวิชาการ ถ่ายทอดเทคโนโลยี และสนับสนุนทรัพยากรบุคคล เช่น นักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจนวัตกรรมในภูมิภาค
รวมถึงเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการเข้าถึงเครือข่ายวิจัยทั้งในประเทศและต่างประเทศ พร้อมผลักดันให้เกิดผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์ตลาดได้จริง นำไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน และสร้างระบบนิเวศนวัตกรรมที่แข็งแรงในทุกภูมิภาคของไทย.