‘ณัฐพล’ ย้ำข่าวปลอมทำสถานการณ์ชายแดนเปราะบาง ซัด ‘โฆษกกัมพูชา’ พูดเองเสียเองปมโดรนปริศนา
เมื่อเวลา 09.25 น. วันที่ 4 ส.ค. ที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ในฐานะรักษาราชการแทนรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีโดรนที่มีการพบบินอยู่ฝั่งไทยแต่ละพื้นที่ โดยประชาชนตั้งข้อสังเกตว่าโดรนเป็นของฝั่งกัมพูชาที่ฝั่งไทยกันแน่ ว่า ขณะนี้มันปนกันอยู่ แต่พบจำนวนมากเป็นของกัมพูชา ที่รุกล้ำเข้ามาโดยกองทัพภาคที่ 2 ได้รายงานเข้ามา และในวันนี้จะนำเรื่องนี้เข้าหารือในที่ประชุมศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) ด้วย เรามีภาพ และพิกัดที่รุกล้ำเข้ามา รวมถึง มีคนไทยบางส่วนที่อาจจะไม่รู้วัตถุประสงค์ของเขา จึงขอเรียนให้ทราบว่าปัจจุบันทางสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ได้ออกประกาศห้ามบินโดรนทั่วประเทศอยู่แล้ว
พล.อ.ณัฐพล กล่าวอีกว่า กรณี พล.ท.มาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ที่ระบุว่าเห็นโดรนบิน รุกล้ำเข้ามาประเทศกัมพูชา ตนมั่นใจว่าเป็นโดรนของฝั่งกัมพูชาเองที่บินกลับไปประเทศเขา ซึ่งตอนนี้ก็แสดงถึงวุฒิภาวะของเขา เขาพูดเองก็เสียเอง
เมื่อถามอีกว่ามีการตรวจสอบเส้นทางการบินของโดรนหรือไม่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ในรายละเอียดตรงนี้ขออนุญาตไม่พูดเพราะปัจจุบันได้มอบให้กองทัพอากาศเป็นเจ้าภาพอยู่ ในทุกเรื่อง
เมื่อถามย้ำว่าสถานการณ์ปัจจุบันถือว่าเปราะบางหรือไม่ และประชาชนจำเป็นต้องอยู่ในศูนย์อพยพหรือไม่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า เปราะบางจากข่าวปลอม หากทุกคนจำได้เมื่อวันที่ 2 ส.ค. 2568 มีข่าวปลอมว่าในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ ทหารไทยจะปฏิบัติการให้ประชาชนเข้าที่ปลอดภัย ซึ่งตนตรวจสอบกับกองทัพก็ไม่เป็นความจริง และยังเคารพผลการเจรจาหยุดยิงมา เข้าใจว่าฝ่ายกัมพูชาอาจจะได้ข่าวปลอมเช่นกัน เพราะในวันที่ 3 ส.ค. 2568 ก็นำข่าวปลอมมาตั้งเป็นเรื่องว่าฝ่ายไทยได้มีการเตรียมการ กัมพูชาถึงได้มีการเตรียมการ ตรงนี้ซักวันอาจทำให้เกิดการกระทบกันได้ ซึ่งเรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องเปราะบางสำหรับข่าวปลอม อยากให้สื่อมวลชนทำความเข้าใจกับประชาชนว่า ในยามนี้เราต้องรวมใจเป็นหนึ่ง แค่ข่าวปลอมของกัมพูชาก็ต้องมาแก้ปัญหาทุกวันแล้ว และมาเจอข่าวปลอมของไทยเองอีก ตรงนี้จะทำให้ฝ่ายความมั่นคงหนักใจมาก เข้าใจว่าประชาชนห่วงและอยากจะช่วยแต่ในสถานการณ์เช่นนี้การช่วยกันก็คือการฟัง
พล.อ.ณัฐพล กล่าวอีกว่า โดยฟังจาก ศบ.ทก. เป็นหลัก ซึ่งอาจจะช้าตนก็ยอมรับตำหนิตรงนี้ เพราะต้องตรวจสอบให้มันถูกต้องและไม่เสียเครดิตในนานาประเทศ และไม่เสียเครดิตกันเอง เมื่อไหร่ก็ตามถ้าเรารีบตอบและมันไม่ใช่ ทุกคนก็จะขาดความน่าเชื่อถือ แต่สื่อมวลชนสามารถตอบไปก่อนได้ เช่น พล.ท.มาลี พูดอะไรมา สื่อก็โต้ได้ เพราะสื่อไม่มีผลอะไรสามารถแก้ได้ และสามารถช่วยกองทัพได้ และค่อยรอทาง ศบ.ทก ชี้แจงอีกครั้ง ไม่ใช่ว่า พล.ท.มาลี พูดอะไรมา สื่อก็มาด่ากองทัพ ว่าทำไมไม่ตอบโต้มันจะทำให้กองทัพขาดความน่าเชื่อถือ พูดไปต่อปากต่อคำไป โดยเฉพาะไปต่อปากต่อคำกับคนเช่นนั้น